ญาติเศร้า เชิญวิญญาณเหยื่อเจ็ตสกีพุ่งชนเรือทางยาว จ่อดำเนินคดีถึงที่สุด

จากกรณี "คิวพี" หนุ่มนักแสดงซีรีส์ดัง พาแฟนสาวและแม่แฟนนั่งซ้อนท้ายเจ็ตสกี ขี่กลับจากทานข้าว ก่อนพุ่งชนเรือหางยาว ส่งผลให้หญิงสาวผู้โดยสารและลุงคนขับเรือ จมน้ำเสียชีวิต 2 ราย ตำรวจ สภ.พระประแดง เตรียมเชิญ "คิวพี" และเพื่อนร่วมขบวนมาสอบปากคำอย่างละเอียด หลังให้ข้อมูลอ้างว่ามืดเรือคู่กรณีไม่มีไฟ

นายประเวศ ลูกชาย และนางสาวประภาศรี ลูกสาวผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนเองเดินทางมารับศพพ่อ ที่ผ่านมาทราบเพียงว่า พ่อขับเรือข้ามฟาก แต่ไม่คิดว่าจะประกอบอาชีพจริงจัง ตอนนี้อยากให้ตำรวจดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมาและไม่อยากให้พ่อต้องตายฟรี จากนั้นได้มีการทำพิธีเชิญดวงวิญญาณโดยญาติผู้เสียชีวิตทั้ง 2 รายได้อัญเชิญพระสงฆ์ 1 รูป หลังทำพิธีเสร็จสิ้น ก็จะเดินทางไปรับศพที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ

นายมงคลสวัสดิ์ อายุ 48 ปี ผู้รอดชีวิตและเป็นสามีของนางปาริฉัตร ผู้เสียชีวิตว่า นั่งเรือข้ามฟากมากับภรรยา เพื่อข้ามไปฝั่งกรุงเทพฯขณะเรือล่องมาถึงกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ก็มีเจ็ตสกีคู่กรณีขับมาพุ่งชนทันที แต่ภรรยาตกน้ำและสูญหายไปทันทีเนื่องจากภรรยาว่ายน้ำไม่เป็น ส่วนตนเองไม่ได้ตกจากเรือ ถ้าตนเองตกลงไปใน้ำด้วยก็คงจะเสียชีวิตตามกันไป

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะดำเนินคดีจนถึงที่สุดหรือไม่ นายมงคลสวัสดิ์กล่าวว่า ถ้าคู่กรณีไม่มาพูดคุยเจรจา ก็จะดำเนินการให้ถึงที่สุด พร้อมบอกว่าทุกปัญหามีทางออกให้มาพูดคุยกันก่อน เพราะเรื่องนี้มีคนตายจึงอยากให้รับผิดชอบ

ด้านนานฉัตรชัย เวชสาร ผอ.สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสมุทรปราการ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาทางเจ้าท่าฯ พร้อมกับพนักงานสอบสวนสภ.พระประแดง ได้นำเรือยนต์ ออกไป ดูบริเวณ กลางท้องน้ำเจ้าพระยา ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นจุดเกิดเหตุ ซึ่งในจุดเกิดเหตุนั้น ค่อนข้างก้ำกึ่งใน 2 พื้นที่รับผิดชอบนั่นก็คือสภพระประแดงและสนบางคอแหลม ซึ่งจะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าเกิดเหตุในพื้นที่ใดกันแน่ โดยจะพิสูจน์จากเครื่องยนต์ที่จมลงไปในน้ำว่าอยู่ในพื้นที่ของสถานีใด

ส่วนการขับเรือใน เส้นทางน้ำสาธารณะนั้น ตาม พ.ร.บ.การเดินเรือ ต้องมีใบอนุญาตการใช้เรือ และใบในท้ายหรือเทียบเท่าใบขับขี่ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเจ็ตสกีลำดังกล่าวมีการมีใบอนุญาตถูกต้อง แต่ผู้ขับขี่ไม่มีใบในท้ายหรือใบอนุญาตขับขี่เรือ ซึ่งโทษของผู้ที่ไม่มีใบนายท้ายเรือ คือจำคุกไม่เกิน 6 เดือนปรับไม่เกิน 1,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

ซึ่งในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาทางกรมเจ้าท่าก็ได้มีระเบียบและมีนโยบายทางด้านความปลอดภัยในการใช้เส้นทางสาธารณะร่วมกัน ทั้งในเรื่องของการสวมใส่ชูชีพ ส่วนการขับขี่เจ็ตสกีเล่นบนท้องน้ำนั้นยังไม่ถือว่าเข้าข่ายความผิด แต่อย่างไรก็ตามต้องขอความร่วมมือสำหรับผู้ที่ขับขี่เจ็ตสกีหรือเรืออื่นๆต้องคำนึงถึง ความปลอดภัยในการใช้ประโยชน์เส้นทางน้ำสาธารณะร่วมกันด้วย ส่วนตัวของผู้ก่อเหตุ ทางกรมเจ้าท่าจะมีการเรียกมาสอบปากคำอีกครั้ง