สังคม
อีกแล้ว! เกณฑ์ทหารไม่ถึง 3 เดือน พลทหารถูกครูฝึก ‘ซ่อมวินัย’ ดับ พ่อแม่เศร้าเหมือนส่งลูกไปตาย
โดย petchpawee_k
16 ส.ค. 2567
340 views
พลทหาร ค่ายนวมินทร์ฯ ถูกครูฝึก 'ซ่อมวินัย' เสียชีวิต หลังเกณฑ์ทหารไม่ถึง 3 เดือน แพทย์ระบุสมองบวม ซี่โครงหัก 2 ข้าง ปอดฉีก ปอดรั่ว ไหปลาร้าหัก กระดูกสันหลังหัก ทบ.ไม่เลี้ยงฟันวินัย-อาญา ครูฝึกและครูผู้ช่วย 13 นาย ลงโทษวินัยผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น 3 นาย ตั้งแต่ระดับผู้บังคับหมวดจนถึงผู้บังคับกองพัน ต้นสังกัดมอบเงินเยียวยายันให้ความเป็นธรรม พ่อ เผย ลูกตั้งใจสมัครเป็นทหาร เหมือนส่งลูกไปตาย!
วานนี้ ( 15 ส.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวนิชนันท์ วังคะอาต อดีตผู้สมัคร สส. เขต 10 พรรคก้าวไกล อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Nitchanan Wangkahat น้ำ นิชนันท์” ระบุ วรปรัชญ์ พัดมาสกุล ทหารเกณฑ์ชลบุรี อายุ 18 ปี โดนซ้อมจากการซ่อมวินัยจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต โดยระบุว่า วรปรัชญ์สมัครใจเข้ารับการเกณฑ์ทหาร ก่อนหน้านี้เขาเป็นลูกจ้างบริษัทและทำขนมขายที่ตลาดสดเพื่อหารายได้เสริมมาเลี้ยงครอบครัว เนื่องจากพ่อแม่แยกทางกันและวรปรัชญ์ อาศัยอยู่กับแม่และยาย พร้อมด้วยน้องอีก 2 คน ทางครอบครัวกล่าวว่าวรปรัชญ์มีบุคลิกทำอะไรช้า ไม่ใช่คนใจร้อนหรือทำอะไรเร็วๆ
โดยวรปรัชญ์ สมัครเข้ารับการเกณฑ์ทหารและหวังได้เป็นทหารอาชีพ เป็นนายสิบต่อไป ในเดือน พ.ย. 2566 เขาไปสมัครเกณฑ์ทหารช่วงแรกมวลร่างกายไม่ผ่าน จึงกลับมาลดน้ำหนักไป 10 กิโลกรัม เพื่อให้อยู่ในเกณฑ์ที่สามารถสมัครเป็นทหารได้ ต่อมาในวันที่ 1 พ.ค. 2567 วรปรัชญ์ เข้าเป็นทหารเกณฑ์ที่ค่ายนวมินทร์ จ.ชลบุรี
วันที่ 26 พ.ค. 2567 วันพบญาติครั้งแรก แม่ ยาย และน้อง 2 คน ได้ไปเยี่ยมวรปรัชญ์ ที่ค่ายทหาร พบว่าเขามีน้ำหนักตัวลดลงไปอีก 10 กิโลกรัม ภายในระยะเวลาไม่ถึง 1 เดือน โดยทางครอบครัวได้ถามวรปรัชญ์ ว่าไหวหรือไม่ ซึ่งเจ้าตัวได้ตอบว่ายังไหวและไม่ได้เล่าเรื่องอะไรเกี่ยวกับการฝึกทหารเกณฑ์ให้ฟัง แต่ได้บอกกับครอบครัวเพียงว่า “แม่อย่าทิ้งผมนะ ต้องมาเยี่ยมผมนะ”
คืนวันที่ 22 มิ.ย. แม่ของวรปรัชญ์ ได้รับแจ้งว่าเขามีชีพจรต่ำ ติดเชื้อในกระแสเลือด ให้ทางครอบครัวรีบไปที่โรงพยาบาลค่ายนวมินทร์ เมื่อครอบครัวไปถึงพบว่าวรปรัชญ์ ไม่ได้สติ ใส่ท่อช่วยหายใจ ร่างกายบวม ผลการตรวจของแพทย์ ระบุว่า วรปรัชญ์สมองบวม ซี่โครงหักทั้ง 2 ข้าง ปอดฉีก ปอดรั่ว ไหปลาร้าหัก และกระดูกสันหลังหัก เมื่อทางครอบครัวสอบถามจากทางค่ายได้ความว่า วรปรัชญ์โดนครูฝึกซ่อมวินัย 2 รอบ รอบแรก เขาได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่มีใครพาไปโรงพยาบาล ให้กินยา รักษาแผลที่ขา ในห้องพยาบาลในค่ายทหารแล้ว
อดีตผู้สมัคร สส. เขต 10 อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ระบุต่อว่า ครูฝึกได้ข่าวว่าน้องเน (วรปรัชญ์) จะฟ้องผู้พัน หัวหน้า จริง ๆ น้องเนยังไม่ได้ฟ้องเลย ก็เลยมาโดนครูฝึกซ้อมรอบที่ 2 อาการหนักกว่าเก่า และใช้ไม้ตีด้านหลังด้วย มีคนพบเห็นท่อนไม้ มีการให้ข้อมูลว่าครูฝึกคนดังกล่าวเป็นครูฝึกเสนารักษ์ เหมือนหมอทหาร ยศสิบเอก อายุ 33 ปี เป็นคนอยู่กับวรปรัชญ์ เป็นคนสุดท้าย ตอนซ้อมเพื่อนทหารเกณฑ์ได้ยินเสียงวรปรัชญ์ ร้องออกมาจากในห้อง สักพักเสียงก็เงียบหายไป
จากนั้นเพื่อนของพลทหารวรปรัชญ์ จึงวิ่งออกมาดู เปิดห้องเข้าไปเห็นครูฝึกคนดังกล่าวกำลังปั๊มหัวใจทำ CPR ที่หน้าอก โดยวรปรัชญ์ หมดสติหยุดหายใจไปประมาณ 14 นาที แต่ไม่มีการเร่งรีบพาไปส่งโรงพยาบาล รอสักพักใหญ่ๆ จึงได้มีการนำตัวส่งโรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลค่ายนวมินทร์ ทำการปั๊มหายใจขึ้นมาและใส่ท่อช่วยหายใจอยู่ได้ 2 คืน จึงได้ส่งตัววรปรัชญ์ ไปยังโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า แต่วรปรัชญ์ไม่ฟื้นขึ้นมาและเสียชีวิตในวันที่ 2 ส.ค. 2567 รวมเวลาทั้งหมด 40 วัน
เมื่อวรปรัชญ์ เสียชีวิตครูฝึกพยายามหลบหนีข้ามฝั่งไปประเทศลาว แต่ทางค่ายทหารได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารในพื้นที่ให้เข้าจับกุมได้ที่ไป จ.นครพนม ทางครอบครัวของวรปรัชญ์ เคยได้เข้าแจ้งความข้อหาทำร้ายร่างกาย แต่ในขณะนั้นวรปรัชญ์ยังไม่เสียชีวิต อัยการจึงมีคำสั่งให้ปล่อยตัวครูฝึกคนดังกล่าวและได้รับการประกันตัวออกมา โดยครูฝึกที่ซ่อมวินัยได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
อดีตผู้สมัคร สส. เขต 10 อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เรียกร้องให้กระทรวงกลาโหม ตั้งคณะกรรมการจากข้างนอก พร้อมด้วยกระทรวงยุติธรรม ทำการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อนำคนผิดมาลงโทษตามกฎหมาย โดยไม่ต้องขึ้นศาลทหารให้ขึ้นศาลพลเรือนเหมือนดั่งเช่นคดีอาญาทั่วไป และอยากเห็นการปฎิรูประบบซ่อมวินัยทหารเกณฑ์ที่ใช้ความรุนแรงและละเมิดสิทธิมนุษย์ชนทหารเกณฑ์จนเสียชีวิตมีการแก้ไขระบบ
ทีมข่าวได้คุยกับแม่ของพลทหารที่เสียชีวิต เผยทั้งน้ำตาว่า รู้สึกแย่และไม่ควรเกิดขึ้น ลูกชายตั้งใจสมัครเป็นทหารแล้วต้องมาเจอแบบนี้ ลูกชายตั้งใจเป็นทหารและจะสอบนายสิบเป็นข้าราชการเพราะอยากให้แม่ ยาย และน้องสบาย ช่วงที่ลูกได้เป็นทหารตนได้ไปเยี่ยมที่ค่ายฯ ตนก็ถามลูกว่าอยู่ได้มั้ย ลูกชายบอก “อยู่ได้แม่อย่าทิ้งหนูนะ ลาพักหนูจะพาแม่ไปกินชาบูนะ” หลังเกิดเหตุผู้พันดูแลมาโดยตลอด มาเยี่ยมที่โรงพยาบาล ตนอยากถามคนก่อเหตุว่าคนที่โดนเป็นลูกคุณจะรู้สึกยังไงจะเจ็บมั้ย
การลงโทษวิ่งรอบสนาม ดันพื้น ก็เป็นเรื่องปกติวินัยทหาร ไม่คิดเลยว่าลูกชายจะเจ็บหนักขนาดนี้ ถ้าเป็นไปได้แม่ขอเจ็บแทนดีกว่า ลูกชายเป็นคนที่รักครอบครัวที่สุด ไม่ใช่เด็กดื้อ คนเป็นพ่อแม่ใจสลาย บางเรื่องแม่ไม่อยากพูดถึงเพราะอยู่กระบวนการทางคดี ถ้าถามถึงความรู้สึกแม่รับไม่ได้ คุณทำอะไรลงไปคิดบ้างมั้ย ทั้งนี้ตนไม่อยากให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับครอบครัวไหนอีก ขอให้ลูกชายเป็นศพสุดท้ายได้มั้ย การสูญเสียไม่มีใครอยากให้เกิด
พ่อของพลทหารที่เสียชีวิต กล่าวว่า วันแรกที่ตนไปส่งลูกเข้าค่ายฯ เป็นการเจอหน้าลูกครั้งสุดท้ายรู้สึกว่าเหมือนส่งลูกไปตาย มีอยู่วันหนึ่งลูกชายทักไลน์มาหาบอกโดนทำโทษ โดนยึดโทรศัพท์ ตนก็ไม่ได้ถามว่าโดนทำโทษอะไร ลูกทักแชตไลน์บอกกับตนว่า “ผมคิดถึงพ่อ” จากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย กระทั่งอดีตภรรยา (แม่น้องเน) โทรมาบอกว่าลูกชายติดเชื้อในกระแสเลือดอยู่โรงพยาบาล ตนเห็นสภาพลูกชายศีรษะบวม ลำตัวช้ำมีรอยแดง ตนคิดว่าต้องโดนทำร้าย ส่วนซี่โครงหัก 2 ซี่ ทีแรกทางค่ายฯ อ้างว่าเกิดจากการปั้มหัวใจ ตนมองว่าไม่น่าใช่ แต่หมอไม่ได้บอกว่าซี่โครงหักเพราะอะไร
ทั้งนี้ตนเองได้ถ่ายภาพและคลิปสภาพบาดแผลและตอนพูดคุยกับทางต้นสังกัดไว้หมด รวมทั้งภาพตอนต้นสังกัดเรียกสอบครูฝึก ผู้ช่วยครูฝึก รวม 13 คน และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาลงโทษทางวินัย แต่ไม่ขอเปิดเผยภาพเหล่านั้น เนื่องจากเป็นหลักฐานสำคัญอยู่ในกระบวนการทางคดี ซึ่งตนจะดำเนินคดีอาญาอย่างถึงที่สุด และอยากให้คนที่ก่อเหตุรับโทษหนักที่สุด อยากให้รับโทษอย่างสาสม แต่ครูฝึกและผู้ช่วยครูฝึกปฏิเสธไม่ได้ทำ ทุกครั้งที่ลูกชายโดนลงโทษ ซึ่งโดนหลายครั้ง ครูฝึกก็จะสั่งทุกคนห้ามพูด ทำให้ผู้พันและทางค่ายฯ ไม่มีใครทราบเรื่องนี้ กระทั่งเกิดเหตุรุนแรงครั้งนี้จนลูกชายเสียชีวิต โดยทางค่ายฯ ได้เยียวยาดูแลครอบครัวอย่างเต็มที่ เชื่อว่ากองทัพฯ คงไม่ปล่อยให้เรื่องเงียบ พ่อไม่ยอมเด็ดขาด
ด้านยายของพลทหารที่เสียชีวิต กล่าวว่า หลานชายเป็นเด็กดีเลี้ยงมาตั้งแต่เกิด ทำใจไม่ได้ ตนได้แต่นั่งมองรูปหลานชายคิดว่าหลานยังอยู่ด้วย ยายอยากให้คนที่ก่อเหตุรับโทษอย่างถึงที่สุด อยากทราบว่าทำหลานยายทำไม ทำเพื่ออะไร หลานชายไม่ใช่คนดื้อหรือเกเร ตอนที่ตนไปเยี่ยมในค่ายตอนเป็นพลทหาร หลานมากอดและร้องไห้บอก “แม่จ๋าอย่าทิ้งหนูนะ” และวันพักบอกให้ยายกับแม่มารับ แต่ไม่ทันที่จะไปรับหลานกลับบ้าน ก็มาเกิดเหตุเสียก่อน ตั้งแต่ที่หลานเข้าค่ายฯ ตนได้ไปเยี่ยมหลานแค่ครั้งเดียวเท่านั้นและเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เจอหน้า ได้กอดได้กอดหอมและได้พูดคุยกัน หลังเกิดเหตุหลานชายไม่มีสติ นอนติดเตียงอยู่โรงพยาบาลเดือนกว่าๆ มีความหวังว่าหลานจะฟื้น ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา
วานนี้ (15 ส.ค.) กองทัพภาคที่ 1 ชี้แจงข้อเท็จจริง ว่ากรณีที่พลทหารของหน่วยทหารใน ค่ายนวมินทราชินี จ.ชลบุรี ที่เสียชีวิต เป็นกำลังพลในสังกัด กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ เข้าประจำการเป็นพลทหารผลัดที่ 1/67 โดยในระหว่างการฝึกทหารใหม่ในเดือน มิ.ย.67 ได้ถูกครูฝึกที่เป็นกำลังพลชั้นยศนายสิบและครูผู้ช่วยที่เป็นทหารกองประจำการ ร่วมกันลงโทษด้วยการกระทำเกินกว่าเหตุ จนมีอาการบาดเจ็บ จากนั้นทางหน่วยฝึกได้ส่งเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลค่ายนวมินทราชินี จ.ชลบุรี และส่งต่อไปรักษาตัวยังโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า กรุงเทพฯ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 2 ส.ค.67 ผู้ป่วยได้มีอาการทรุดลงและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
โดยหน่วยต้นสังกัดเมื่อทราบเหตุว่ามีการลงโทษพลทหารดังกล่าวเกินกว่าเหตุแล้ว ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนกำลังพลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยแยกเป็นการดำเนินการทางวินัยต่อผู้บังคับบัญชาที่ขาดการกำกับดูแลจำนวน 3 นาย ตั้งแต่ระดับผู้บังคับหมวดจนถึงผู้บังคับกองพัน และการดำเนินคดีทางอาญากับผู้ที่กระทำความผิดซึ่งเป็นกำลังพลนายสิบและทหารกองประจำการ จำนวน 13 นาย ข้อหา "ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย”
ปัจจุบันกลุ่มผู้กระทำผิดถูกควบคุมตัวอยู่ ณ เรือนจำ มทบ.14 และอยู่ในระหว่างขั้นตอนการสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติมนอกจากนี้ทางหน่วยต้นสังกัดได้มอบเงินเยียวยาให้กับครอบครัว พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกและให้การรักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บรวมถึงการจัดพิธีทางศาสนาเมื่อกำลังพลเสียชีวิต /ทั้งนี้กองทัพภาคที่ 1ขอยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมแก่ครอบครัวผู้เสียหาย โดยไม่ปกป้องผู้กระทำความผิด และให้ความช่วยเหลือดูแลในการดำเนินคดีอย่างเต็มความสามารถ ขอชี้แจงให้สังคมได้รับทราบข้อเท็จจริง และขอเเสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าว
ต่อมานางสาวนิชนันท์ วังคะอาต อดีตผู้สมัคร สส. เขต 10 พรรคก้าวไกล อ.สัตหีบ จ.ชลบุรีได้โพสต์อีกว่า “ญาติผู้ช่วยครูฝึกทักมาขอความเป็นธรรมให้ผู้ช่วยครูฝึกที่ถูกขังอยู่ในค่ายว่าถูกครูฝึกบังคับให้ทำ ถ้าไม่ทำพวกผู้ช่วยครูฝึกจะโดนครูฝึกซ่อมเอง ตอนนี้ญาติผู้ช่วยครูฝึกกลัวจะเป็นแพะ ข้อเท็จจริงอย่างไร กองทัพควรออกมาชี้แจง ผลการสอบเรื่องเกิดตั้งแต่ 22 มิ.ย นี่จะ 2 เดือนแล้ว”
ขณะที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้แชร์โพสต์ข่าวผ่าน X พร้อมเขียนระบุว่าว่า “นี่เป็นกรณีที่ 2 ของค่ายนวมินทราชินี จ.ชลบุรี กมธ.ทหาร จะเรียกสอบสวนและจะพิจารณาส่งเบาะแสทั้งหมดให้ DSI และอัยการสำนักการสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย ต่อไป”
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/Fh6vYik5RAI
แท็กที่เกี่ยวข้อง พลทหาร ,เกณฑ์ทหาร ,ซ่อมวินัย ,ส่งลูกไปตาย ,ทหารเกณฑ์