สังคม

โปรดเกล้าฯ ‘บิ๊กโจ๊ก’ พ้น รอง ผบ.ตร.กระทำผิดวินัยร้ายแรง – คาดได้ข้อสรุปผลสอบ ภายใน ส.ค.นี้

โดย petchpawee_k

16 ส.ค. 2567

229 views

มีพระบรมราชโองการ ให้ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ พ้นจากตำแหน่งรอง ผบ.ตร.

วานนี้ (15 ส.ค.) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจพ้นจากตำแหน่ง โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ประกาศ ณ วันที่ 15 สิงหาคม 2567 มีเนื้อหาดังนี้


ด้วยสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ข้าราชการตำรวจ ตำแหน่ง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกจากราชการไว้ก่อน ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2567 เนื่องจากถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงจนถูกตั้งกรรมการสอบสวน และขอให้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พ้นจากตำแหน่ง ตามมาตรา 140 และมาตรา 178 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 ประกอบข้อ 11 ของกฎ ก.ตร. ว่าด้วยการสั่งพักราชการและการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ. 2547 และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พ้นจากตำแหน่งแล้ว


บัดนี้ ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้บุคคลดังกล่าวพ้นจากตำแหน่ง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2567

------------------------

ประธานกรรมการสอบวินัย ‘บิ๊กโจ๊ก’ เผยเรียกสอบพยานเพิ่มอีก 5-6 ปาก ยันผลสอบเสร็จทัน 270 วัน ยันผลวินิจฉัย ก.พ.ค.ตร. ไม่กดดันการทำงานจบเดือนนี้ 

เมื่อเวลา 13.20 น. วานนี้ (15 ส.ค.) ที่กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.อ.สราวุฒิ การพานิช รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะประธานกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง เดินทางเข้าเพื่อประชุมติดตามความคืบหน้า กรณีที่พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมพวก รวม 5 ราย ถูกกล่าวหากระทำผิดวินัยร้ายแรง


พล.ต.อ.สราวุฒิ กล่าวว่า วันนี้ได้มาติดตามความคืบหน้าของคณะกรรมการ ขณะนี้ได้ทำงานไปหลังจากที่ได้รับทราบคำสั่งเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2567 หลังจากนั้นมีระยะเวลา 15 วันในการรวบรวมและแจ้งข้อกล่าวหาให้กับผู้ถูกกล่าวหารับทราบภายใน 15 วัน จากนั้นเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2567 ได้เริ่มทำการรวบรวมพยานหลักฐาน จากพยานของฝ่ายผู้กล่าวหาซึ่งมีการสอบพยานไปจำนวนมาก เพราะการทำหน้าที่ครั้งนี้ต้องยึดภายใต้ระเบียบ ข้อกฎหมาย และให้ความยุติธรรม หากเปรียบภารกิจครั้งนี้เหมือนเป็นกรรมการของฟุตบอลระหว่างทีมชาติไทยแข่งกับทีมชาติเวียดนามหมายถึงว่าคนไทยทุกคนและสังคมไทยเฝ้ามองดูอยู่ ในฐานะที่เป็นกรรมการ ตนต้องแสดงความเป็นกลางและให้ความเป็นธรรมกับเกมนี้ให้มากที่สุด


พล.ต.อ.สราวุฒิ กล่าวว่า การสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ของฝ่ายผู้กล่าวหาเสร็จสิ้นแล้วแต่ปรากฏว่าทางผู้ถูกกล่าวหามาให้การเพิ่มและมีการกล่าวอ้างไปถึงพยานอีก 5-6 ปาก คณะกรรมการชุดนี้จะต้องให้ความเป็นธรรมจึงต้องสอบพยานเพิ่มอีก หลังจากสอบเสร็จสิ้นจะมาสรุป รวบรวมพยานหลักฐาน หารือ พิจารณากันว่าจะแจ้งข้อกล่าวหาในลักษณะอย่างไร อาจจะเป็นบวกหรือลบยังไม่รู้ สำหรับคณะกรรมการชุดนี้มีระยะเวลาทั้งสิ้น 270 วัน โดยหลังจากวันที่ 16 พฤษภาคม 2567 มีระยะเวลา 60 วัน การสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จจึงขอขยายไปทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) อีก 60 วัน ซึ่งจะครบในวันที่ 12 กันยายน 2567 และยังมีสิทธิ์ที่จะขอขยายเวลาไปอีก 60 วันได้ แต่กระบวนการทั้งหมดจะต้องอยู่ในกรอบระยะเวลา 270 วัน


เมื่อถามว่าทาง พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ไม่เคยเดินทางมาเลย ได้ให้ความร่วมมือหรือไม่ พล.ต.อ.สราวุฒิ กล่าวว่า พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ก็ให้ความร่วมมือ เพราะเป็นสิทธิ์ ในการที่จะเข้ามาหรือจะชี้แจงเป็นเอกสารก็ได้


ถามอีกว่าผลที่จะออกมามีทั้งบวกและลบ หากเป็นลบจะไปทางไหนได้บ้าง พล.ต.อ.สราวุฒิ กล่าวว่า หากออกมาเป็นลบก็หมายถึงว่าทางเราได้แจ้งข้อกล่าวหาไปว่ากระทำความผิดตามที่คณะกรรมการมีหน้าที่ หลังจากนั้นเป็นสิทธิ์ของพล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ เองว่าจะไปร้องอะไรอย่างไรหรือไม่


ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าผลที่ออกมาหากเป็นลบโทษจะถึงขั้นปลดออกหรือไล่ออกหรือไม่ พล.ต.อ.สราวุฒิ กล่าวว่า ใช่ แต่ขึ้นอยู่ที่คณะกรรมการจะพิจารณา มี 2 ประเด็นนี้


ส่วนผลของการวินิฉัยคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) ที่มีมติออกมาแล้วจะกดดันการทำงานของคณะกรรมการชุดนี้หรือไม่ พล.ต.อ.สราวุฒิ กล่าวว่า ตนว่าเป็นคนละเรื่อง และคนละหน้าที่กัน ไม่มีส่วนกดดันอะไรเลย แต่อย่างไรก็ดีได้ทำหนังสือสอบถามถึงผลการวินิจฉัยถึงทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ความเป็นธรรมและเกิดความรอบคอบมากที่สุด


ต่อมาเวลา 15.30 น. ภายหลังการประชุมนาน กว่า 2 ซม. พล.ต.อ.สราวุฒิ เปิดเผยว่า จากการได้รับรายงานในการสอบพยานของฝ่ายผู้กล่าวหารวมถึงฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาด้วย รวมทั้งสิ้น 65 ปาก แสดงให้เห็นว่าคณะกรรมการชุดนี้ดำเนินไปด้วยความรอบคอบและให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย


โดยสืบเนื่องจากว่าฝ่ายผู้กล่าวหาได้ยื่นคำให้การเพิ่มและได้มีการอ้างถึงพยานอีก 5 ปาก โดยทางคณะกรรมการจะยื่นหนังสือถึงพยานกลุ่มดังกล่าวคาดว่า ในวันที่ 21 สิงหาคม นี้จะเรียกพยานอีก 5 ปาก มาสอบเพิ่ม หลังจากนั้นจะมีการนัดประชุมเพื่อสรุปออกมาว่า ผลจะออกมาเป็นบวกหรือลบอย่างไร


ส่วนตัวตอนนี้มีผลสรุปในใจเเล้ว คาดว่ากระบวนการทั้งหมดจะเสร็จสิ้นภายในเดือนสิงหาคมนี้



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/TnxmlfIi11I

คุณอาจสนใจ