คนขับรถแดงเชียงใหม่แจง ปมไล่คนไทยลงหลังเจอ นทท. ต่างชาติ ยอมรับผิดพร้อมขอโทษ

คืบหน้ากรณีที่ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้มีการโพสต์ในกลุ่ม "@ เชียงใหม่" โดยมีข้อความระบุว่า ใครเจอรถแดงคันนี้อย่าขึ้นเด็ดขาดโดนไล่ลงกลางทางเจอชาวต่างชาติดีกว่าคนไทยคะ หลังโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างจำนวนมาก ล่าสุดทางนายบุญเนียม บุญทา ประธานสหกรณ์นครลานนาเดินรถ จำกัด ได้เรียก นายวัฒนา อายุ 64 ปี คนขับขี่ล้อแดงคันดังกล่าวมาสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นพร้อมว่ากล่าวตักเตือน ซึ่งนายวัฒนา ได้กระทำผิดเป็นครั้งแรก

โดยยนายบุญเนียมบอกว่า หลังเกิดเหตุการณ์นี้ ทางสหกรณ์นครลานนาเดินรถ จำกัด ได้ติตตามตัวลุงวัฒนามาสอบถามซึ่งสอบถามเหตุการณ์แล้วคุณลุงยอมรับผิด โดยในฐานะตนเองเป็นประธานสหกรณ์นครลานนาเดินรถจำกัดก็ได้ว่ากล่าวตักเตือนไปแล้วไม่ให้กระทำผิดอีก หากกระทำผิดอีกครั้งก็จะมีการขับออกจากสมาชิกพร้อมกันนี้ก็ได้โทรหาพยานซึ่งเป็นผู้โดยสารสองแม่ลูกที่นั่งอยู่บริเวณเบาะหน้าเพื่อสอบถามเหตุการณ์ว่าเป็นอย่างไรด้วยเพื่อจะตรวจสอบข้อมูลที่เท็จจริงและผู้โดยสารที่นั่งอยู่ด้านหน้าก็พร้อมไปเป็นพยานให้ลุงวัฒนาด้วยเพราะในช่วงบ่ายจะพาคุณลุงวัฒนาไปพบขนส่งจังหวัดเชียงใหม่เพื่อพูดคุยเรื่องนี้

อย่างไรก็ตามตนในฐานะประธานสหกรณ์นครลานนาเดินรถจำกัด ก็กราบขอโทษผู้โดยสารทุกคนด้วยที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นพร้อมฝากไปยัง สมาชิกสี่ล้อแดงทุกคนขอให้ระมัดระวังเรื่องการควบคุมอารมณ์ให้มากที่สุดเพราะจะเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีกับรถสี่ล้อแดงซึ่งเสมือนเป็นรถโดยสารสาธารณะที่คู่เมืองเชียงใหม่

ด้านนายวัฒนาอายุ 64 ปี เล่าว่าเมื่อวานนี้เขาไปรับผู้โดยสารคือป้าศรีวัย พร้อมเพื่อนมาจากสะพานนวรัฐไปกาดก้อม และมีผู้โดยสารเป็นแม่และเด็กอีกสองคน รวมเป็น 4 คน แต่ขณะใกล้ถึงจุดหมายที่ป้าศรีวัยจะลง ได้เจอกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน จึงได้ขอให้ป้าศรีวัยและเพื่อนลง และขอให้แม่และลูกที่โดยสารไปนั่งด้านหน้า

เพื่อที่จะรับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนยอมรับว่าเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ป้าศรีวัยไม่พอใจและมีปากเสียงกันซึ่งตนเองมองว่าเหลืออีกนิดเดียว ก็จะถึงจุดหมายแล้วป้าศรีวัยน่าจะเดินไปได้ โดยที่ตนเองไม่เก็บค่าโดยสารสักบาทแต่ไม่คิดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะบานปลาย และมีการแชร์ในโซเชียล ยอมรับรู้สึกผิดและขอโทษไปยังผู้โดยสารต่อไปจะไม่ทำแบบนี้อีก ขณะเดียวกันก็ได้ปฏิเสธว่าไม่ได้มีการยื้อแย่งโทรศัพท์ของป้าศรีวัยแต่อย่างใดแต่เพียงแต่ขอไม่ให้ถ่ายภาพเท่านั้น