สังคม
หญิงวัย 57 ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ดูดเงินเกลี้ยง 2.5 ล้าน สามีป่วยหมดค่ารักษา 2 ล้าน ยังโดนหลอกซ้ำ
โดย thanaporn_s
4 ส.ค. 2567
2.7K views
วันที่ 4 ส.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนางบัวลิน อายุ 57 ปี แม่ค้าร้านอาหารตามสั่งย่านบางกรวยซึ่งตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์จนสูญเงินเก็บในบัญชีไป 2.5 ล้านบาท โดยเหตุเมื่อวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมาแต่คดีไม่มีความคืบหน้าไม่มีการติดต่อกลับมาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับมา หลังผ่านมา 5 เดือน จึงขอร้องสื่อช่วยติดตามความคืบหน้าในคดีหลังคิดหนักจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ
นางบัวลิน ผู้เสียหายวัย 57 ปี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 ก.พ.67 ช่วงเวลาประมาณ 10.40 น. ตนได้ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมาหาพร้อมกับอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ของกรมสรรพาวุธ เพื่อแจ้งสิทธิ์เงินบำนาญของสามีตนที่เพิ่งชีวิตไปว่ายังมีเงินตรงนี้ตกค้างอยู่
โดยคนร้ายสามารถระบุข้อมูลของสามีคนซึ่งเป็นทหารลูกจ้างประจำแผนกอาวุธ 2 กรมสรรพาวุธทหารบก ได้อย่างถูกต้องครบถ้วน ประกอบกับสามีตนยังมีเงินบำนาญคงค้างอยู่หลังเพิ่งเสียชีวิตไปก็มีอยู่จริง ตนจึงหลงเชื่อพูดคุยกับคนร้ายทางโทรศัพท์ต่อไป
นางบัวลิน เปิดเผยอีกว่า หลังตนหลงเชื่อพูดคุยกับคนร้ายได้สักพัก คนร้ายได้แนะนำให้ตนทำตามขั้นตอนในโทรศัพท์มือถือ ตนก็หลงเชื่อทำตามขั้นตอนไป แม้กระทั่งการสแกนใบหน้าผ่านทางโทรศัพท์ตามที่คนร้ายบอก ก่อนที่ต่อมาโทรศัพท์มือถือของตนเครื่องก็ค้างไปไม่สามารถกดหรือทำอะไรกับหน้าจอได้อีก ทำให้ตนถูกมิจฉาชีพดูดเงินจากบัญชีแรกไปจำนวน 2 ล้านบาทในทันที และตามมาด้วยเงินในบัญชีที่ 2 อีก 5 แสนบาท รวมเป็นเงิน 2.5 ล้านบาท
หลังจากนั้นตนจึงใช้โทรศัพท์อีกเครื่องโทรไปปรึกษาลูกชายคนโต จึงรู้ตัวว่าตนได้ถูกมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกดูดเงินเก็บจากบัญชีธนาคารทั้ง 2 แห่ง ไปจนหมดเกลี้ยงแล้ว ก่อนที่ตนจะรีบเดินทางไปเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางกรวย เพื่อให้ช่วยเหลือ แต่นับจากแจ้งความผ่านไปมาจนถึงสันนี้เป็นเวลาเกือบ 5 เดือนแล้ว ที่คดีไม่มีความคืบหน้าอะไรเลยกลับมาถึงตน
นางบัวลิน กล่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า ที่ผ่านมาชีวิตครอบครัวตนก็ประสบความลำบากและสูญเสียมาก่อนหน้านี้แล้ว เมื่อสามีที่ป่วยเป็นโรคไตมาหลายปี และต้องไปฟอกไตเป็นประจำ จนหมดค่ารักษาที่เบิกไม่ได้ ต้องออกเงินค่ารักษาเองไปเกือบ 2 ล้านบาท จนกระทั่งสามีเสียชีวิตลงผ่านมาประมาณ 5 เดือน ตนก็มาถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกดูดเงินจากบัญชีไปอีก 2.5 ล้านบาท
ซึ่งเป็นเงินที่ตนกับสามีเก็บสะสมกันมาทั้งชีวิตเพื่อเอาไว้ใช้จ่ายในยามแก่เฒ่า แต่ก็มาถูกซ้ำเติมจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จนตนแทบไม่อยากจะมีชีวิตอยู่แล้ว จากเดิมที่เคยคิดว่าจะมีความหวังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจะติดตามตัวคนร้ายและนำเงินของตนกลับคืนมาได้ จนผ่านมา 5 เดือนแล้ว ไม่มีใครติดต่อแจ้งข่าวความคืบหน้าอะไรกลับมาเลย ทุกวันนี้ตนยอมรับว่าท้อแท้ใจมาก จนแทบไม่อยากจะทีชีวิตอยู่แล้ว แต่ก็ต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อลูกชายอีก 2 คน
แท็กที่เกี่ยวข้อง แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ,เหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ,ดูดเงิน