ระเบียงรีสอร์ตหักทับนทท.เจ็บหนัก เจ้าของท้าฟ้องเรียกค่าเสียหาย พบไร้ใบอนุญาตประกอบกิจการ

จากเหตุการณ์ดังกล่าว ถูกเปิดเผยเมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 3 ส.ค.67 ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจากนางญาณิศา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี ชาวจังหวัดเพชรบุรี เป็นภรรยาของนายปิยะพล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี โดยกล่าวว่า เมื่อวันที่ 27 ก.ค. ที่ผ่านมา ตนเองและกลุ่มเพื่อน ๆ ตั้งใจเดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดชุมพร แต่เมื่อมาถึงชุมพรได้เข้าพักที่รีสอร์ต พื้นที่อำเภอปะทิว ชุมพรเป็นที่แรก ทางรีสอร์ตมีสถานที่นั่งกิน นั่งเล่น ชมวิว เป็นระเบียงยื่นไปทางด้านที่เป็นทะเล

แต่พอนั่งเล่นสักพัก ก็ถ่ายรูปกัน ระเบียงก็ถล่มลง เกิดเหตุเวลาประมาณ 19.00 น. ได้รับบาดเจ็บ 3 คน ความสูงประมาณ 3-4 เมตร ทั้งหมดถูกส่งตัวไปรพ.ปะทิว คนที่ 1 บาดเจ็บเย็บ 4 เข็ม คนที่ 2 ไหปลาร้าหัก 1 ซีก รักษาตัวที่รพ. 2 คืน ส่วนคนที่ 3 นายปิยะพล สามี แขนหัก กรามหัก กะโหลกร้าว โครงหน้าจมูกด้านบนหัก ปากฉีกต้องเย็บเป็น 10 เข็ม ถูกส่งตัวไปที่ รพ.ชุมพร

นางญาณิศา ภรรยาผู้บาดเจ็บ กล่าวอีกว่า ในวันเกิดเหตุไม่มีตำรวจท้องที่เข้าไปดูเลย ส่วนเจ้าของที่พัก รีบโอนเงินค่าที่พักคืน เจ้าของที่พัก มาเยี่ยม 1 ครั้ง และรับปากจะจ่ายค่ารักษาทั้งหมดที่อยู่โรงพยาบาล และไม่เคยให้อะไรนอกจากนม 1ขวด และข้าว 1 กล่อง พอขอให้เจ้าของรีสอร์ต ไปบันทึกรับทราบทั้ง 2 ฝ่าย ที่สภ.ปะทิว ก็อ้างว่าตำรวจบอกตกลงกันได้ ไม่จำเป็นต้องไปบันทึกรับทราบ

เจ้าของรีสอร์ตถามว่า ถ้าจบต้องจ่ายเท่าไหร่ ภรรยาผู้บาดเจ็บบอก 70,000 บาท เลยเกิดปัญหาตกลงกันไม่ได้ เจ้าของรีสอร์ตเคยพูดว่ารู้จักคนเยอะ ไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรือคนในรพ.ชุมพร เขาสามารถให้ช่วยเหลือเขาได้หมด เลยต้องไปร้องขอให้ตำรวจท่องเที่ยวช่วย และได้รับการช่วยเหลือเป็นอย่างดี พยายามติดต่อเจ้าของที่พักให้มารับทราบและไกล่เกลี่ยกัน แต่ไม่ยอมรับสาย

ต่อมา เจ้าของที่พักโทรกลับมา อ้างว่ามีตำรวจข่มขู่ ซึ่งไม่เป็นความจริง ตนมีพยานหลายคน ตำรวจท่องเที่ยวช่วยพาภรรยาคนเจ็บไป สภ.ปะทิว เพราะภรรยาคนเจ็บขับรถไม่เป็น เพื่อไปขอร้องให้ทางสภ.ปะทิว ช่วยลงบันทึกรับทราบทั้ง 2 ฝ่าย และให้ช่วยไกล่เกลี่ยกัน ตำรวจทั้งสน.ปะทิว ไม่มีใครสนใจ และไม่รับการช่วยเหลือใดๆ เลย 

ตำรวจที่สภ.ปะทิว นายหนึ่งเรียกตำรวจท่องเที่ยวไปคุย ในห้องส่วนตัว ด้วยสีหน้าไม่พอใจ พอออกมาจากห้องส่วนตัว ตำรวจนายนั้นได้มาบอกปฏิเสธการช่วยเหลือกับภรรยาผู้บาดเจ็บ โดยไม่ถามอะไรเลย พร้อมบอกกับภรรยาผู้บาดเจ็บว่า ถ้าอยากเรียกร้องก็ให้ไปหาจ้างทนายเอาเอง และภรรยาคนเจ็บเองนั้นไม่สามารถมาแจ้งได้นะ จะต้องให้ผู้บาดเจ็บตัวจริงมาเองเท่านั้น และถึงผู้บาดเจ็บมา ก็ไม่สามารถเรียก เจ้าของที่พักมาไกล่เกลี่ยได้ หากเจ้าของที่พักไม่อยากมา 

หลังจากนั้นด้านตำรวจท่องเที่ยวชุมพร ได้ขอตรวจสอบใบอนุญาตเอกสารใบประกอบการโรงแรมตาม พ.ร.บ.โรงแรม พ.ศ.2547 แต่ปรากฏว่าไม่สามารถแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้ จึงแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษเจ้าของที่พัก ประกอบกิจการโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาต และได้เข้าตรวจสอบอีกครั้ง พบว่ามีระเบียงโรงสร้างชำรุด ทำให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าวต่อนักท่องเที่ยว

นางญาณิศา กล่าวต่ออีกว่า การที่เจ้าของรีสอร์ต กล่าวอ้างว่า รู้จักกับตำรวจ และบุคลลากรคนในโรงพยาบาล รู้สึกไม่ปลอดภัย ตนเป็นนักท่องเที่ยวต่างถิ่นไม่รู้จักใครในชุมพร จึงขอพาสามีย้ายไปรักษาตัวที่จังหวัดเพชรบุรีดีกว่า แต่ตนไว้ใจพยาบาล และคุณหมอที่โรงพยาบาลชุมพรดูแลดีมาก แต่เราก็ไม่รู้ว่าใครคนไหนคือคนของเขา และตนขอขอบคุณตำรวจท่องเที่ยวชุมพรระนองเป็นอย่างมาก ที่ยื่นมีเข้ามาช่วยเหลืออย่างดี” ภรรยาผู้บาดเจ็บกล่าว

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อไปยังเจ้าของรีสอร์ตดังกล่าว เพื่อสอบถามข้อมูลอีกด้านว่าเป็นอย่างที่มีการพูดคุยตามคลิปเสียงสนทนาหลักฐานที่ปรากฏหรือไม่ สรุปประมาณให้ผู้เสียหายไปฟ้องดำเนินคดีเรียกค่าเสียหายเอง