สังคม
จับคากุฏิ! 'พระครูปลัด' ลวงสามเณรสวดมนต์ ก่อนล่วงละเมิด พบเหยื่อแล้ว 6 ราย
โดย petchpawee_k
2 ส.ค. 2567
355 views
ปคม.บุกกุฏิรวบพระครูปลัด วัดดังนครสวรรค์ ลวงสามเณรท่องบทสวดในกุฏิ ก่อนล่วงละเมิด พบเหยื่อแล้ว 6 ราย บางคนโดนย่ำยีนานถึง 3 ปี ซ้ำยังข่มขู่ สามเณรบางคนพยายามบอกผู้ปกครองแต่ไม่เชื่อเพราะความเชื่อถือพระครูปลัด ขณะเข้าจับกุมพบ ด.ช.วัย 11 ปี นอนอยู่ภายในห้องเดียวกับพระครู ตกเป็นเหยื่อถูกกระทำเหมือนกัน
วานนี้ (1 ส.ค.) ตำรวจปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือ บก.ปคม.แถลงการบุกจับพระครูปลัดปรเมษฐ์ อายุ 32 ปี ที่กุฏิภายในวัดแห่งหนึ่ง ตำบลปากน้ำโพ อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ตามหมายจับศาลอาญา ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญ กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี และบังคับขู่เข็ญให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร กระทำการลามกอนาจาร โดยมีเหยื่อเป็นเด็กชายถึง 6 คน
พลตำรวจตรีศารุติ แขวงโสภา ผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ กล่าวว่า ผู้ต้องหามีพฤติการณ์นำเด็กที่พ่อแม่ผู้ปกครองพามาบวชเป็นสามเณรในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน มาล่วงละเมิดทางเพศถึงในกุฏิ นานกว่า 3 ปี ตั้งแต่ครั้งยังจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร เมื่อปี 2559-2561 ขณะนี้พบผู้เสียหายทั้งสิ้น 6 ราย แต่เชื่อว่าน่าจะมีผู้เสียหายมากกว่านี้ อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม รวมถึงตรวจสอบด้วยว่า มีการถ่ายภาพอนาจารไปหาผลประโยชน์ ซึ่งจะเข้าข่ายการค้ามนุษย์ด้วยหรือไม่
ด้านว่าที่พันตำรวจเอก ก่อเกียรติ วุฒิจำนวค์ ผู้กำกับการ 1 บก.ปคม. กล่าวว่า กรณีนี้ตำรวจได้รับเรื่องร้องเรียนจากบุคคลที่ไม่เปิดเผยตัวตน เมื่อช่วงสิ้นปี 2566 โดยพบว่าเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2559-2561 แต่เรื่องเงียบมาตลอด เพราะผู้ต้องหาข่มขู่เด็ก รวมถึงเด็กบางคนก็ได้พยายามบอกผู้ปกครอง แต่ผู้ปกครองไม่เชื่อ เพราะความน่าเชื่อถือของพระครูปลัดและความน่าเชื่อถือของวัด
หลังได้รับข้อมูล ตำรวจจึงทำการสืบสวน ติดตามตัวผู้เสียหาย ซึ่งปัจจุบันโตแล้ว มาสอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น จนพบว่าเป็นเรื่องจริง จึงรวบรวมพยานหลักฐานและเข้าจับกุม ซึ่งขณะเข้าจับกุมที่วัดในจังหวัดนครสวรรค์ ก็ยังพบเด็กชายวัย 11 ปี นอนอยู่ภายในห้องเดียวกันกับผู้ต้องหา สอบถามเบื้องต้นพบว่าตกเป็นเหยื่อถูกกระทำเหมือนกัน จึงเชื่อว่าผู้ต้องหาเป็นโรคใคร่เด็ก และน่าจะทำต่อเนื่องมานาน ตั้งแต่จำพรรษาวัดที่กรุงเทพฯ จนย้ายมาที่วัดในจังหวัดนครสวรรค์
จากการตรวจค้นภายในกุฏิ พบว่ามีความผิดปกติ เพราะลักษณะใหญ่โต เป็นบ้านหลังหนึ่ง มีการติดกล้องวงจรปิดโดยรอบกว่า 20 ตัว และระมัดระวังบุคคลที่เข้าออกตลอด ภายในยังพบเครื่องประทินผิวจำนวนมาก และมีคอมพิวเตอร์เกมมิ่ง ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ควรอยู่ในกุฏิพระสงฆ์ ส่วนภายในห้องนอน พบมีฟูกสำหรับเด็ก อยู่ข้างกัน ติดกับเตียงของผู้ต้องหา ทั้งนี้ไม่พบอุปกรณ์เกี่ยวกับการร่วมเพศหรือสื่อลามกอนาจาร แต่อยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์เพิ่มเติม เพราะเชื่อว่าผู้ต้องหาน่าจะมีการนำไปซุกซ่อน เพราะมีการประวิงเวลากว่า 20 นาที กว่าจะยอมเปิดประตูให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น
สำหรับพฤติกรรมของผู้ต้องหาพบว่า หลังจากได้รับความเชื่อใจของผู้ปกครอง ที่พาลูกหลานมาบวชเป็นสามเณรในปกครอง ช่วงค่ำผู้ต้องหาจะเรียกสามเณรเข้าไปที่ห้อง อ้างว่าไปทบทวนท่องบทสวดมนต์ หลังจากนั้น จะทำทีเป็นให้นวดให้ ค่อย ๆ สร้างความคุ้นเคย จนสบโอกาสไปสู่การกระทำชำเรา ทำแบบนี้เดิม ๆ ซ้ำ ๆ กับผู้เสียหายหลายคน ซึ่งทุกคนให้การสอดคล้องกัน โดยมีผู้เสียหายคนหนึ่งที่ถูกกระทำเกือบ 100 ครั้ง
ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหามีการย้ายวัดมาในช่วงปี 2561 เป็นเพราะเริ่มมีข่าวกระจายในวัดเดิม และมีการตรวจสอบภายใน แต่เนื่องจากยังไม่มีผู้ร้อง จึงยังไม่ถูกดำเนินคดี ขณะที่จากการตรวจสอบประวัติพบว่า ผู้ต้องหาไม่ได้กระทำกิจของสงฆ์อย่างที่ควร ไม่บิณฑบาต แต่มีรายได้จากการให้เช่าวัตถุมงคล ซึ่งเปิดให้เช่าทางสื่อออนไลน์
โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ผู้ต้องหาสึก และส่งตัวมาดำเนินคดีที่ กองกำกับการ 1 บก.ปคม. จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าถูกกลั่นแกล้ง แต่ตำรวจยืนยันว่ามีพยานหลักฐานเพียงพอที่เชื่อว่ามีการกระทำผิดจริง จึงคัดค้านการประกันตัว และจะนำตัวฝากขังต่อศาลอาญาในวันนี้ (2 ส.ค.67) และหากมีผู้เสียหายเพิ่มเติมก็สามารถเข้ามาแจ้งความที่ บก.ปคม. ได้
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/F0F-YcDzq9Y