ไล่ล่าระทึก แก๊งลูกนายก อบต. ค้ายา ซิ่งหนีตกข้างทาง ซุกของกลางเพียบ

เมื่อวันที่ 29 ก.ค.2567 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และฝ่ายปกครอง วางแผนล่อซื้อยาบ้าจากนายชัยรัตน หรือ ตี๋ กุลโชติพงษ์ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58 ม.4 ต.พิกุลทอง อ.เมือง จ.ราชบุรี โดยนัดส่งยาบ้ากันภายในปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งใน ต.แพรกหนามแดง อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม โดยเจ้าหน้าที่ได้วางกำลังเขาจับกุม แต่นายชัยรัตน ไหวตัวทันพยายามขับรถพยายามหลบหนี เจ้าหน้าที่ไล่ล่าจับกุมกระทั่งรถเสียหลักพุ่งลงข้างถนนพระราม 2 เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้ได้ ตรวจค้นภายในรถพบยาบ้า ซุกซ่อนในกระดาษไขเป็นมัด รวม 4 มัด มัดละ 2,000 เม็ด รวม 8,000 เม็ด จึงนำตัวมาสอบสวน ที่ สภ.ยี่สาร

จากการสอบสวนเบื้องต้นนายชัยรัตน รับสารภาพว่าเคยติดคุกคดีค้ายาไอซ์ เมื่อ 6 ปีก่อน และออกจากคุกมาเมื่อ 2 ปีก่อน มาทำงานรับจ้างส่งน้ำแข็งได้เงินเดือนๆละ 12,000 บาท แต่เงินไม่พอใช้ในครอบครัว เนื่องจากแม่ขายอาหารตามสั่ง พ่อรับจ้างขับรถส่งหมู เมื่อ 3 เดือน ก่อนจึงตัดสินใจหันมาค้ายาบ้า แบบลับๆ กลัวพ่อกับแม่รู้ มีรายได้ไม่ถึง 20,000 บาท ล่าสุดรับมา 8,000 เม็ด จากคนใน ต.ทุ่งหลวง อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี เพื่อนำจำหน่ายให้วัยรุ่นในพื้นที่

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยกระทำเพื่อการค้า ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ชุดสืบสวน สภ.ยี่สาร ได้รับแจ้งจากฝ่ายปกครองว่ามีบุคคลต่างพื้นที่ 2 คน เข้ามาอยู่ในห้องพักไม่มีเลขที่ ในจังหวัดสมุทรสงคราม ท่าทางมีพิรุธ และในช่วงกลางคืนมักมีกลุ่มวัยรุ่นเข้ามามั่วสุมเป็นประจำ จึงได้ร่วมกับฝ่ายปกครองเข้าตรวจสอบห้องพักดังกล่าว

พบนายสมพงษ์   อายุ 41 ปี พร้อมนางสาวฑิติยา   31 ปี พบยาบ้า 2,191 เม็ด และยาไอซ์ 3.5 กรัม, ปืนขนาด .38 ไม่มีหมายเลขทะเบียน 1 กระบอก กระสุนปืน 12 นัด ซุกซ่อนในรถกระบะ  จึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.ยี่สาร จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายสมพงษ์เป็นลูกชายของนายก อบต. แห่งหนึ่ง จังหวัดราชบุรี รายได้ไม่เพียงพอจึงหันมาขายยาบ้า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา นายสมพงษ์ จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า, ยาไอซ์ ) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย, โดยกระทำเพื่อการค้า และ มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนนางสาวฑิติยา แจ้งข้อหาครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้าโดยไม่ได้รับอนุญาติ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป