สังคม

แม่ไปปาร์ตี้ยา ขังลูกชาย 3 ขวบในบ้าน ซ้ำคลั่งพังบ้าน ตรวจเจอฉี่ม่วง ลั่น! ไม่ไปบำบัด ไม่ได้ฆ่าใครตาย

โดย nattachat_c

25 ก.ค. 2567

434 views

เด็กชาย 3 ขวบ ถูกแม่หลอนยากักขังไว้ในบ้าน คลุ้มคลั่งทุบทำลายข้าวของบ้านพังเสียหาย จนพ่อวัย 87 ปี ทนไม่ไหว หนีออกจากบ้านไปอาศัยกับญาติ กลัวโดนทำร้ายถึงชีวิต ตร.นำคุมตัวแม่เด็กไปสอบ ยอมรับขังลูกไว้ในบ้านเพื่อไปปาร์ตี้ยา ตรวจฉี่พบสีม่วง ลั่น “ไม่บำบัด เสียเวลาชีวิต ไม่ได้ทำผิด ไม่ได้ฆ่าใครตาย”


วานนี้ (24 ก.ค. 67) นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ ‘กัน จอมพลัง’ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ธัญบุรี และเจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เดินทางไปที่บ้านแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เพื่อช่วยเหลือเด็กชายวัย 3 ขวบ


หลังได้รับแจ้งจากเพื่อนบ้านว่า เด็กถูกแม่ที่มีอาการคล้ายหลอนยา กักขังไว้ในบ้านบ่อยครั้ง และล็อกแม่กุญแจจากด้านนอก ปล่อยให้ลูกอยู่ในบ้านลำพัง บางครั้งคลุ้มคลั่งทุบทำลายข้าวของในบ้านพังเสียหายเป็นประจำ กลัวว่าเด็กจะได้รับอันตราย


จากการลงพื้นที่บ้านหลังดังกล่าว พบว่าเป็นบ้านแฝด 2 ชั้น สภาพทรุดโทรม พบเด็กชายวัย 3 ขวบ และแม่ของเด็ก อาศัยอยู่ในบ้านสองคน ปิดล็อกประตูจากด้านใน ภายในบ้านพบว่า มีการพังทำลายข้าวของ เศษแก้ว ทั้งขวดเหล้า ขวดเบียร์แตกกระจายเกลื่อนพื้น อันตรายอย่างมาก


ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึง เด็กได้เดินออกมาที่ประตูบ้าน และตะโกนเจื้อยแจ้วบอกแม่ว่ามีคนมา แต่แม่เด็ก อายุ 37 ปี ไม่ยอมออกมา โวยวายใส่เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ พม. จึงได้เข้าไปที่ประตูด้านใน และพยายามตะโกนเรียกแม่เด็กให้ออกมาพูดคุยกัน แต่แม่เด็กก็ยังไม่ยอมออกมา ตะโกนกลับมาด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว พูดคำหยาบคาย บอกว่าเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามชอบมาหาเรื่อง


หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่จึงพยายามเข้าไปพูดคุยผ่านประตูด้านหลังบ้าน บอกให้ใจเย็น ๆ ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง แม่เด็กจึงยอมเปิดประตูด้านหลังบ้านให้เจ้าหน้าที่ พม. พาตัวเด็กออกมา ส่วนตำรวจได้ควบคุมตัวแม่ขึ้นรถนำไปสอบสวนที่ สภ.ธัญบุรี ระหว่างควบคุมตัวแม่เด็กขึ้นรถ นักข่าวพยายามสอบถาม แม่เด็กบอกว่า ไม่เครียด และปฏิเสธว่าไม่ได้ทิ้งลูก


เพื่อนบ้านที่แจ้งเบาะแส เล่าว่า บ้านหลังนี้เป็นบ้านของตาของเด็ก อายุ 87 ปี  ส่วนพ่อเด็กติดคุก ช่วงหลังแม่เด็กมีอาการคลุ้มคลั่ง ตนคิดว่าอาการเหมือนหลอนยา ไล่ด่าพ่อ จะตีพ่อ แต่ไม่ทำลูก และมีการแสดงออกรุนแรง ปิดประตูตึงตังเสียงดัง ขว้างขวด ขว้างข้าวของทุกอย่างที่อยู่ในบ้าน ด่ากราดคนไปทั่ว แค่คนมองเข้าไปก็ด่า แล้วเอาผ้ามาพันหน้าบ้าน ไม่อยากให้ใครไปมอง ตาของเด็กเองยังกลัวลูกสาว จนต้องย้ายออกไปประมาณ 2 เดือนแล้ว โดยมาบอกว่าอายคนอยู่ไม่ได้แล้ว


เพื่อนบ้าน ยืนยันว่า ทุกคนในหมู่บ้านไม่มีใครมีปัญหากับแม่เด็ก ทุกคนเป็นห่วงเด็ก ที่ผ่านมา สังเกตว่าแม่เด็กมักจะออกจากบ้านช่วงสาย ช่วงค่ำไปซื้อของ ไม่ค่อยเห็นซื้อข้าว ซื้อแต่น้ำอัดลม ซึ่งเวลาที่ทิ้งลูกไว้ในบ้าน ก็จะล็อกประตูจากด้านนอก ตอนมืดค่ำ บางวันฟ้าร้องฝนตก ก็ได้ยินเสียงเด็กร้องไห้


นายเส็ง อายุ 87 ปี คุณตาของเด็กชายวัย 3 ขวบ (พ่อของแม่เด็ก) ยอมรับว่า ลูกสาวติดยาเสพติด นิสัยไม่ค่อยดี ตอนนี้ ตนไปอาศัยอยู่บ้านญาติ ไม่กล้าอยู่บ้านหลังนั้น เพราะทนพฤติกรรมของลูกสาวไม่ได้ พูดจาก้าวร้าว แต่ตนก็ไป ๆ มา ๆ เพื่อไปเยี่ยมบ้าน ไปเก็บเศษขวดที่ลูกสาวปาแตก จริง ๆ เขารักลูก ไม่เคยเห็นตีลูก ส่วนกักขังก็มีบ้าง เวลาที่ลูกสาวออกไปข้างนอก บางครั้งลูกสาวก็บ้าคลั่งทำลายข้าวของในบ้าน


เวลาตนด่า หรือตักเตือน ก็เถียง พูดไม่ฟัง จึงไม่อยากพูดอะไรแล้ว ยอมรับลูกสาวเสพยาเสพติดมานานแล้ว แต่ไม่ทราบเสพตลอดหรือไม่ เพราะตนไม่เคยเห็น และไม่เคยเห็นลูกสาวเสพยาต่อหน้าลูก ทั้งนี้ ตนสงสารหลาน เป็นห่วงที่ตกอยู่ในสภาพแบบนี้ อยากให้เจ้าหน้าที่รับหลานชายไปดูแลก่อน ส่วนตัวก็รักลูกสาวแต่อยากให้กลับตัวเป็นคนดี เลิกเสพยา เปลี่ยนนิสัยใหม่


ป้าของเด็ก เดินทางมาที่บ้าน และพาเข้าไปดูสภาพด้านใน เปิดเผยว่า รับรู้พฤติกรรมของแม่เด็กมาตลอด ซึ่งแม่เด็กติดยาเสพติดมาตั้งแต่วัยรุ่น เมื่อก่อนพฤติกรรมไม่รุนแรง จนเมื่อไม่นานมานี้ แม่เด็กกลับมีพฤติกรรมรุนแรงขึ้น และเริ่มทำลายข้าวของ คาดว่าเกิดจากอาการขาดยา เพราะเมื่อแม่เด็กได้รับยามักจะพูดจาดี และไม่เคยโวยวาย


ทั้งนี้ แม่เด็กไม่เคยทำร้ายร่างกายลูกชาย หรือคนในครอบครัว ส่วนพ่อเด็กตอนนี้ถูกจับดำเนินคดีข้อหายาเสพติด ยอมรับว่า สงสารเด็กแต่ไม่สามารถช่วยเหลือเด็กได้ ส่วนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมานำตัวแม่เด็ก ก็รู้สึกโล่งใจ อยากให้เจ้าหน้าที่พาแม่เด็กไปบำบัดยา เพราะก่อนหน้านี้ ได้พยายามแจ้งหน้าที่ แต่ไม่มีใครเข้ามาช่วยเหลือ


สำหรับเด็กชายวัย 3 ขวบ ขณะนี้ อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ พม. แล้ว จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า ร่างกายของเด็กไม่มีร่องรอยการถูกทำร้าย แต่เด็กยังอยู่ในอาการตกใจ ร้องไห้ และบอกกับเจ้าหน้าที่ว่า หิวขอกินขนม ซึ่งเจ้าหน้าที่ พม. บอกว่า เท่าที่ประเมินตอนนี้ แม่ของเด็กไม่มีความพร้อมที่จะดูแลเด็กได้ คงต้องแยกเด็กไปดูแลก่อน


ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้ตรวจปัสสาวะพบสีม่วง มีสารเสพติดในร่างกาย ส่วนแม่เด็ก ช่วงที่ตำรวจนำตัวไปสอบสวนที่ สภ.ธัญบุรี เจ้าตัวโวยวายเสียงดังภายในห้องสืบสวน จากนั้น ตำรวจได้คุมตัวแม่ของเด็กออกจากบริเวณด้านหลังห้องสืบสวน ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย


ทีมข่าว ได้สอบถามแม่ของเด็ก เจ้าตัวยืนยันไม่ได้กักขังลูก อ้างโดนชาวบ้านใส่ร้าย ตอนนี้ ตนไม่อยากคุยอะไรมากเพราะรู้สึกเครียด อยากกลับบ้านไปนอนกอดลูก และปฏิเสธว่าไม่ได้เสพยาเสพติด ตนเองอยากกลับบ้านเพราะไม่อยากนอนที่สถานีตำรวจ ส่วนที่เขวี้ยงขวดแตกภายในบ้านเพราะรำคาญเสียงชาวบ้าน


เมื่อถามว่า ไปทำอะไรที่รีสอร์ท แม่ของเด็ก ระบุว่า ไม่อยากคุยอะไร ยังยืนยันคำเดิมไม่ได้เสพยา ไม่อยากออกข่าวเพราะรู้สึกอับอาย ส่วนที่เจ้าหน้าที่ตรวจปัสสาวะพบเป็นสีม่วง เพราะตนเองกินยาแพ้อากาศ เมื่อถามว่าทำไมต้องพังทำลายข้าวของในบ้าน แม่ของเด็กบอกว่าต้องออกข่าวด้วยเหรอ ตนไม่อยากระบายอะไร


ยืนยันที่ผ่านมา ไม่เคยตี หรือทำร้ายร่างกายลูก เวลาอยู่ที่บ้าน ก็เลี้ยงดูลูกตามปกติ ตอนนี้เครียดมาก ส่วนที่เห็นคลิปล็อกกุญแจจากด้านนอก แล้วมีคนบอกว่าขังลูกไว้ในบ้านน้้น เนื่องจากตนออกไปซื้อกับข้าวข้างนอก จึงต้องทิ้งลูกไว้ในบ้านตามลำพัง แต่ไปไม่นาน ส่วนเศษขวดเหล้าขวดเบียร์ที่แตกกระจายในบ้าน ลูกไม่เคยเดินเหยียบ


แม่ของเด็ก ยังยืนยันอีกว่า ตนเองโดนชาวบ้านตะโกนด่า และใส่ร้าย ยืนยันไม่ได้หูแว่ว ยอมรับ ตอนนี้ตนเองไม่ได้ตั้งหลักอะไร ก็อยากได้ลูกชายกลับมาดูแลเหมือนเดิม หรือให้ตาของเด็กเป็นคนรับหลานไปเลี้ยงดูก็ได้ ส่วนตัวเพราะพี่จะดูแลลูกเพราะรักลูก สุดท้ายเจ้าตัวอ้างไม่ได้ไปรีสอร์ทเพื่อปาร์ตี้ยาแต่อย่างใด


ส่วนตอนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ และ ‘กัน จอมพลัง’ บุกไปที่บ้านแล้วตนเองโวยวาย เนื่องจากโมโหชาวบ้านที่ต้องทำถึงขนาดนี้ ทำไมถึงมีนักข่าวมาที่บ้าน ส่วนที่ปาขวดก็ปาตั้งแต่ตอนกลางคืนแล้ว ที่ชาวบ้านบอกว่าเป็นห่วงลูกชายของตนนั้นไม่เกี่ยวกัน ส่วนเรื่องปาขวดแตกภายในบ้านทำมา 2-3 เดือนแล้ว จากนั้น พนักงานสอบสวนก็ควบคุมตัวเข้าห้องคุมขัง


โดย ‘กัน จอมพลัง’ ได้พูดคุยกับแม่ของเด็กพร้อมกับตำรวจ เปิดเผยว่า  พฤติกรรมแม่เด็กตอนแรกก็ดูใจเย็นลงแล้ว พูดจานุ่มนวล แต่สักพักก็เริ่มเปลี่ยน เหมือนเป็นคนละคน และบอกว่ามีเหตุผลที่ต้องปาขวด เพราะระบายอารมณ์ เนื่องจากได้ยินเสียงคนมาด่าตลอด เมื่อถามว่าหูแว่วหรือไม่ แม่เด็กยืนยันว่าไม่ได้หูแว่ว ได้ยินจริง ๆ โดยคนร้านน้ำแข็งฝั่งตรงข้ามชอบตะโกนด่า


ทั้งนี้ แม่เด็กยอมรับว่ามีการใช้สารเสพติดจริง และเพิ่งใช้ไปล่าสุดเมื่อไม่กี่วันมานี้ แต่พอตำรวจจะให้ตรวจหาสารเสพติด แม่เด็กอ้างว่าปัสสาวะไม่ออก ส่วนเวลาที่ออกไปข้างนอก และล็อกบ้านทิ้งเด็กไว้ ก็ออกไปปาร์ตี้ยากับเพื่อนที่รีสอร์ต


เมื่อบอกว่าจะให้ไปบำบัด แม่เด็กตอบว่า “เสียเวลาชีวิต ไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ได้ฆ่าใครตาย” ส่วนเรื่องขวดที่ปาแตกและเศษแก้วนั้น แม่เด็กบอกว่า ลูกตนรู้เรื่องสามารถหลบได้ หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินคดีกับแม่ต่อไป

-------------


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/BAvzabdcOEE



คุณอาจสนใจ

Related News