สังคม
ชายคลั่งเสียชีวิตแล้ว จับลูกเป็นตัวประกันกลางดึก ยิงตำรวจดับ 1 เจ็บ 1
โดย paranee_s
21 ก.ค. 2567
5.1K views
เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 20 ก.ค. พ.ต.ท.ธรรญธร รัศมี รอง สว. (สอบสวน) สน.ท่าข้าม รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนจับเด็กเป็นตัวประกัน ก่อนยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจขณะระงับเหตุจนได้รับอาการบาดเจ็บสาหัส 2 นาย เหตุเกิดภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง บริเวณซอย 2 (พระยามนธาตุราชศรีพิจิตร์) ถนนกาญจนาภิเษก แขวงคลองบางบอน เขตบางบอน กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยพล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผช.ผบ.ตร. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พ.ต.อ.เลิศศักดิ์ เขียมทรัพย์ ผกก.สน.ท่าข้าม หน่วยอรินทราช 26 เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.ท่าข้าม และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น ปลูกติดเรียงกันหลายคูหา พบชายมีอาการคลุ้มคลั่งทราบชื่อต่อมาคือนายบุญมา อายุ 49 ปี ใช้อาวุธปืนจับลูกแท้ ๆ เป็นตัวประกัน ต่อมาทางพ.ต.ท.กิตต์ชนม์ จันยะรมย์ รอง ผกก.ป.สน.ท่าข้าม พร้อมด้วยด.ต.ไชยวัฒน์ อัตโสภณวัฒนา ผบ.หมู่ป.สน.ท่าข้าม ได้เข้าระงับเหตุจนถูกผู้ก่อเหตุยิงสวนออกมา 2 นัด จนถูกพ.ต.ท.กิตต์ชนม์ เข้าอย่างจัง
ทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยจึงเร่งช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลสหวิทยาการมะลิ ซอยเอกชัย 85 แขวงและเขตบางบอน กทม. เพื่อรักษาอาการอย่างเร่งด่วนแต่ผู้ได้รับอาการบาดเจ็บทนไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนด.ต.ไชยวัฒน์ ได้รับบาดเจ็บแค่ถูกสะเก็ดกระสุนปืนเล็กน้อยเท่านั้น
สอบสวนนายสุวิทย์ โพธิ์สุข เจ้าหน้าที่อปพร.ฝ่ายกู้ชีพกู้ภัย รหัสบางบอน 202 เขตบางบอน ให้การว่า หลังได้รับแจ้งเหตุ ก็เข้ามาตรวจสอบตามพิกัด พบตำรวจนอนหมดสติจมกองเลือดอยู่หน้าบ้านถูกยิงที่หน้าอก และมือซ้าย รวม 3 นัด ขณะที่ภายในบ้านพบ ลูกสาวของผู้ก่อเหตุถูกพ่อใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาดตบเข้าไปที่บริเวณใบหน้า เจ้าหน้าที่จึงช่วยเหลือสมาชิกในครอบครัวจำนวน 4 คน ออกมาจากบ้านพักหลังดังกล่าว
โดยลูกสาวให้ข้อมูลว่าพ่อมีอาวุธปืนจำนวน 4 กระบอก คือ ขนาด.38 , ขนาด. 9 มม. , ขนาด 11 มม. และปืนลูกซอง พร้อมเครื่องกระสุนปืนจำนวนหนึ่งไว้ในครอบครอง นอกจากนี้ลูกสาวผู้ก่อเหตุยังระบุอีกว่า บิดาขายยาและไม่ได้รับการรักษามาประมาณ 1 ปี และมีอาการคลุ้มคลั่งอยู่บ่อยครั้ง
นายสุวิทย์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเหตุจากตำรวจว่า ต้องการสนับสนุนรถพยาบาลไปส่งผู้ก่อเหตุซึ่งป่วยจิตเวช แต่เมื่อมาถึงบ้านหลังดังกล่าวกลับถูกผู้ก่อเหตุรายดังกล่าว ข่มขู่ว่าจะใช้อาวุธปืนทำร้ายแต่ก็ยินยอมให้พาไปส่งโรงพยาบาล
ซึ่งทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมพลปิดล้อมอาคารหลังเกิดเหตุ พร้อมใช้เครื่องขยายเสียงเกลี้ยกล่อมให้ผู้ก่อเหตุยอมมอบตัว แต่กลับมีเสียงปืนดังขึ้นจากในอาคารเป็นระยะ ๆ ทั้งนี้ได้กันพื้นที่โดยไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปโดยเด็ดขาด สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้เสียชีวิต เพิ่งออกตรวจเวรที่วัดบัวผัน เมื่อได้รับแจ้งเหตุจึงรีบเข้าระงับเหตุในทันที และจะเกษียณอายุราชการในปีหน้า กระทั่งมาถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตดังกล่าว
ต่อมาในเวลา 01.58 น. ชุดคอมมานโดพร้อมอุปกรณ์ครบมือลงพื้นที่เกิดเหตุ และในเวลา 03.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำรถโรงพยาบาล จำนวน 2 คัน มาจอดใกล้กับจุดเกิดเหตุเพื่อเตรียมความพร้อม ก่อนที่เวลา 05.40 น. ตำรวจชุด ปฏิบัติการพิเศษ เข้าเคลียร์ภายในอาคารชั้น 1 ยังไม่พบผู้ก่อเหตุ กำลังขึ้นตรวจสอบชั้น 2 โยนระเบิดเสียงนำทาง และเมื่อขึ้นไปตรวจสอบ พบชายคนดังกล่าวเสียชีวิตอยู่ภายในบ้านพักชั้นที่สอง
พลตำรวจโท สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร.เปิดเผยว่า เบื้องต้นพบอาวุธปืนยังไม่ทราบขนาดอยู่ข้างร่างผู้ก่อเหตุ 1 กระบอก ส่วนเวลาที่เสียชีวิต รวมทั้งสาเหตุการเสียชีวิตยังต้องรอผลตรวจจากนิติเวช ว่าเป็นการวิสามัญหรือปลิดชีพตัวเอง ส่วนเรื่องรายละเอียดต่าง ๆ อยู่ระหว่างการตรวจสอบจากกองพิสูจน์หลักฐาน ทั้งนี้ยืนยันว่าการปฏิบัติการดังกล่าวเป็นไปตามยุทธวิธี
โดยในเวลา 05.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงขอความร่วมมือกับประชาชนบริเวณข้างเคียงจุดที่เกิดเหตุ ไม่ให้ออกมาภายนอกเคหสถาน ในขณะที่การเจรจาเกลี้ยกล่อมได้ยุติลง เนื่องจากผู้ต้องหาไม่มีท่าทีจะยอมมอบตัว โดยสถานการณ์เป็นไปด้วยความตึงเครียด โดยคนร้ายได้ยิงปืนออกมา 1 นัดตอนเวลา 04.40 น.
จากนั้นเวลา 05.20 น. เจ้าหน้าที่เริ่มเปิดฉากยิงแก๊สน้ำตาเข้าไปในบ้านเกิดเหตุ 2 นัด เวลา 05.27 น. ยิงแก๊สน้ำตาอีก 3 นัด เวลา 05.28 น. เสียงปืนดังขึ้น 4 นัด เวลา 05.29 น. เจ้าหน้าที่ยิงอีก 4 นัด เวลา 05.35 น. เสียงปืนเจ้าหน้าที่ดังขึ้นอีก 2 นัด เวลา 05.38 เสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ระเบิดเสียง 1 ครั้ง เวลา 05.40 น. เสียงปืนดังอีก 2 นัด เวลา 05.45 น. เสียงปืนดังขึ้นอีก 3 นัด
เวลา 05.49 น. เสียงปืนดังขึ้นอีก 3 นัด กระทั่งเวลา 05.51 น. เจ้าหน้าที่เรียกรถกู้ชีพเข้ามาประจำจุดเตรียมรอรับคนเจ็บส่ง รพ. โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจนำ "แนวกั้นของตำรวจห้ามผ่าน" มาขึงบริเวณโดยรอบจุดเกิดเหตุเพื่อการสถานที่ไว้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์
แต่หลังจากนั้นได้ประสานให้ทางรถกู้ภัยออกจากจุดเกิดเหตุ โดยมีรายงานเบื้องต้นว่า พบศพผู้เสียชีวิตอยู่บริเวณใต้บันไดชั้นลอย ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ประสานแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลศิริราช และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้ามาตรวจสอบผู้เสียชีวิตต่อไป
แท็กที่เกี่ยวข้อง