เดือด! เพื่อนบ้านยืนด่าหน้าบ้าน ข่มขู่จะยิงยกครัว ปัญหาสะสมนานนับปี อ้างทำไปเพราะเครียดบ้านถูกยึด

เดือด! เพื่อนบ้านยืนด่าหน้าบ้าน ข่มขู่จะยิงยกครัว ปัญหาสะสมนานนับปี อ้างทำไปเพราะเครียดบ้านถูกยึด ลูกป่วย วอนหน่วยงานเข้าดูแล หวั่นไม่ปลอดภัย



กล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์เมื่อช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. ของเมื่อคืนที่ผ่านมา (17 ก.ค. 67) จะเห็นว่าเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นชายอายุประมาณ 60 ปี ได้เดินเข้ามาหน้าบ้าน ตะโกนด่าทอต่างๆ นานา พร้อมข่มขู่ว่าจะนำปืนมายิงทั้งครอบครัว พอแจ้งสายตรวจมาระงับเหตุ กลับได้เหตุผลว่าเครียด ลูกป่วย บ้านถูกยึด ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาตลอด 1 ปี

โดยคลิปวันที่ 19 มิถุนายน 2567 เพื่อนบ้านมาเดินวนเวียนหน้าบ้านทำท่าทางเหมือนรอให้เจ้าของบ้านออกมา แล้วจับที่กระเป๋า



จากนั้นเสียงเพื่อนบ้าน " -ูพูดเป็นครั้งสุดท้ายนะ -ึงทำให้ครอบครัวกรูเละเทะ ไม่กี่หลัง โดน -ู แน่ ยอมมามากแล้ว ทำลูก-ู ทำ-ู เคะ -ู จนสลบ ถ้า-ูมีปืน ยิงกระบ้านแล้ว มาเตะก้านคอ-ู ถ้า-ึงโดนบ้างจะเป็นอย่างไร" เดินพนมมือไหว้เหมือนสวดอะไรหน้าบ้านผู้เสียหาย วนไปวนมาที่หน้าบ้าน

เหตุการณ์ล่าสุดคลิปวันที่ 17 กรกฎาคม 2567 เวลาประมาณ 21.00 น. เพื่อนบ้าน "ทำท่าทางเหมือนจะชักปืนออกจากกระเป๋า แล้วขู่ว่า มีปืน เป็นห่วงลูก ถึงไม่ทำไม่อย่างนั้นยิงแล้ว และบอกว่ายังจำได้นะว่าเคยทำอะไรไว้ ให้ระวังตัวไว้



เสียงผู้เสียหายบอกไปว่า "ถ้าเป็นแบบนี้เจอกันที่โรงพักได้นะ" เพื่อนบ้านตอบกลับ ก็มาดิ -ูจะเตะ-ึงสลบบ้าน แล้ว-ูจะเสียห้าพัน


ผู้เสียหายบอกคนในบ้านว่า "ให้เรียกตำรวจมา" จากนั้นมีด่าทอกันไปมา จนเจ้าหน้าที่ตำรวจมา

เจ้าหน้าที่ตำรวจพยานามไกล่เกลี่ยแล้วถามเพื่อนบ้านว่า ตกลงมันยังไง เรื่องที่ต้องมาว่าเขา เพื่อนบ้านตอบว่า "เรื่องที่เคยไปแจ้งความไว้นั้นแหล่ะ ทุกวันนี้บ้านตนถูกยึด ลูกชายก็เครียด" เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่า แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเขา  พร้อมหลักฐานใบแจ้งความ


โดยทีมข่าว ได้พูดคุยกับ นายโอ (นามสมมุติ) อายุ 38 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยให้ทีมข่าวฟังว่า ตนเองพักอาศัยอยู่กับภรรยาและลูกสาว 2 คนหนึ่ง อายุ 6 ขวบ และอีกคนอายุ 3 ขวบ บ้านลักษณะเป็นทาวน์เฮาส์ ย่านลาดพร้าว ส่วนเพื่อนบ้านคู่กรณีอยู่เยื้องๆ กัน เพื่อนจะพยายามเดินมาที่หน้าบ้านแล้วตะโกนด่าเข้ามาได้บ้านเสียงดัง พร้อมข่มขู่ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา



ส่วนสาเหตุที่ถูกก่อกวนมาตลอดนั้น เกิดขึ้นจากเมื่อ 1 ปีที่แล้ว ตนและภรรยาพร้อมลูกน้อย ได้ขับรถกลับเข้าบ้านช่วง 23.00 น. ปรากฏว่ารถยนต์คู่กรณีจอดขวางหน้าบ้าน ทำให้ตนเข้าบ้านไม่ได้ จึงได้กดกริ่งเรียกเพื่อนบ้านให้มาขยับรถ จนเกิดมีปากเสียงลงไม้ลงมือกัน ซึ่งตนเป็นฝ่ายผิดที่ทำร้ายเขาก่อน จากนั้นได้ไป สน.โชคชัย เสียค่าปรับ 5,000 บาท และมีการปรับความเข้าใจกัน โดยเพื่อนบ้านก็ไม่ได้มาจอดรถขวางทางอีก แต่กลับนำรถไปจอดปากซอยแทน ไม่จอดในบ้านตัวเอง ส่วนตนก็ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวอีก ต่างคนต่างอยู่



แต่หลังจากนั้น ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา เพื่อนบ้านตะโกนด่าทอ ยืนมองหน้า หนักเข้าคือเดินมาหน้าบ้าน มาขวางหน้าประตู ข่มขู่ว่าจะใช้ปืนยิงทั้งครอบครัว แม้ขณะที่ตนมาทำงาน กล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้หน้าบ้านก็บันทึกภาพคู่กรณีไว้ได้ พบว่าเดินมายืนมองที่หน้าบ้าน ด่าทอ บางทีไม่มีคนอยู่คู่กรณีก็เดินพนมมือหน้าบ้านเดินไปมา (ตามคลิปวันที่ 7 มิถุนายน 2567)



จนกระทั่งวันที่ 6 ก.ค. ประมาณ  7 โมงเช้า คู่กรณีตะโกนข่มขู่ว่าจะใช้ปืนยิงให้ตายยกครัว ทำให้ภรรยาและตนเกิดความกลัว ซึ่งตนมีลูกสาว 2 คน อยู่ชั้น ป.1 และชั้นอนุบาล จึงไปแจ้งความที่ สน.โชคชัย แต่มีคนที่อ้างว่าเป็นเจอทนายอาสา บอกให้ตนลงบันทึกประจำวันไว้ก็พอ เพราะเป็นเพื่อนบ้านกัน อยากให้ค่อยๆ พูดกัน



จนเหตุการณ์ล่าสุดคือเมื่อคืนวันที่ 17 ก.ค.67 ที่ผ่านมา เวลาเกือบ 3 ทุ่ม (ตามคลิปวีดีโอ) คู่กรณีมาตะโกนด่าท่อข่มขู่อีก ภรรยาและลูกน้อยร้องไห้กลัวจะไม่ปลอดภัย โชคดีมีเพื่อนบ้านอีก 2 หลัง มาช่วยพูดคุยและกันคู่กรณีออก ซึ่งเพื่อนบ้านรู้ดีว่าคู่กรณีชอบมาหาเรื่องคนในซอยเป็นประจำ



ตนโทรแจ้งสายตรวจ สน.โชคชัย มาอีกครั้ง เพื่อมาระงับเหตุ เมื่อเจ้าหน้าที่เข้ามาพูดคุยด้วย คู่กรณีอ้างว่าบ้านกำลังจะถูกยึด ชีวิตล่มจม ลูกป่วยเลยเครียดสะสม และคู่กรณียังอ้างกับเจ้าหน้าที่สายตรวจว่ารู้จัก ผกก.สน.โชคชัย เดี๋ยวจะไปพูดคุยเองจากนั้นก็แยกย้ายไป



จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ตนเองรู้สึกกังวล รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย ตนอยากฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงสำนักงานเขตลาดพร้าวให้ช่วยมาดูแล หากคู่กรณีมีอาการป่วยก็ควรให้ไปรักษา ไม่ใช่มาก่อกวนเป็นปัญหาสังคม และอนาคตไม่รู้ว่าคู่กรณีจะก่อเหตุรุนแรงขึ้นอีกหรือไม่ กลัวจะถูกทำร้าย และเป็นห่วงลูกและภรรยา เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย


ทีมข่าวได้เดินไปที่หน้าบ้านของคู่กรณี และได้ไปเรียกอยู่หลายครั้ง แต่ไม่มีคนออกมา ทราบจากเพื่อนบ้านข้างๆว่า เขาพาลูกชายไปหาหมอ ตั้งแต่เช้ามืดเนื่องจากลูกชายป่วยเป็นหลายโรค โรคเบาหวานและโรคไต ส่วนตัวของเขาเป็นอดีตพนักงานธนาคาร ซึ่งเกษียณมานานแล้ว  อยู่กับลูกชายเพียงลำพัง ภรรยาเสียชีวิตไปแล้ว

ซึ่งเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว มีปัญหาไปกับทุกบ้าน ขนาดบ้านของตนยังเคยโดนด่า แต่ไม่มีใครเขาอยากมีปัญหาด้วย ลักษณะเหมือนเป็นโรคไบโพลา เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย

ต่อมาทีมข่าวเดินทางไปยัง สำนักงานเขตวังทองหลาง ได้พูดคุยกับ นายโครงการ เจียมจีรกุล ผู้อำนวยการเขตวังทองหลาง ผู้เสียหายได้มีการโทรแจ้งมายังฝ่ายปกครองของเขตวังทองหลาง เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยมีปัญหาจนถึงขั้นแจ้งความมาแล้วหนี่งครั้ง แต่เรื่องของคดีได้จบลงแล้ว แต่ยังมีการเข้ามาข่มขู่ฆ่าอีกครั้ง ตนเองได้ประสานฝ่ายเทศกิจให้ประสานทาง สน.โชคชัย ว่าพอจะเข้าไปพูดคุยช่วยเจรจาไกล่กลี่ยเป็นคนกลางให้ เนื่องจากอย่างไรก็ต้องอยู่ร่วมกันเป็นเพื่อนบ้านกัน และช่วยลดความความรุนแรง