มหาสารคามอ่วม! 'อ่างเก็บน้ำห้วยเชียงคำ' แตกหลังฝนถล่ม น้ำทะลักวันเดียว 3 ล้าน ลบ.ม. สั่งอพยพ 3 ตำบล

อ่างเก็บน้ำห้วยเชียงคำ จ.มหาสารคาม แตกน้ำไหลทะลัก ท่วมบ้านเรือนประชาชน กระทบพื้นที่ กว่า 3,200 ไร่ หลังเกิดฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ส่งผลให้น้ำไหลเข้าอ่างอย่างรวดเร็ว วันเดียว 3 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ปริมาณน้ำเกินปริมาณความจุอ่าง น้ำไหลล้นทำนบดิน และกัดเซาะใต้ดิน ส่งให้ถนนที่ทำเป็นคันกั้นน้ำขาด ปริมาณน้ำจำนวนมหาศาล ไหลทะลักเข้าพื้นที่นาข้าวของเกษตรกรที่อยู่ท้ายอ่างเก็บน้ำอย่างรวดเร็ว ขณะที่ ป้องกันสาธารณภัย แจ้งประชาชน 3 ตำบลขนของขึ้นที่สูง และให้อพยพสัตว์เลี้ยงไปในพื้นที่ปลอดภัย

วานนี้ (16 ก.ค. 67) เวลา 16.50 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่อ่างเก็บน้ำห้วยเชียงคำ ต.โนนราษี อ.บรบือ จ.มหาสารคาม น้ำได้กัดเซาะบริเวณอาคารระบายน้ำล้น ซึ่งอยู่ระหว่างก่อสร้าง เพื่อขยายขนาดช่องระบายน้ำ โดยได้ทำนบดินกั้นน้ำเอาไว้ แต่ด้วยฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องข้ามวันข้ามคืน ทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างอย่างรวดเร็ว วันเดียว 3 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ปริมาณน้ำเกินปริมาณความจุอ่าง น้ำไหลล้นทำนบดิน และกัดเซาะใต้ดิน

ส่งผลให้ถนนที่ทำเป็นคันกั้นน้ำขาด ปริมาณน้ำจำนวนมหาศาลไหลทะลักเข้าพื้นที่นาข้าวของเกษตรกรที่อยู่ท้ายอ่างเก็บน้ำอย่างรวดเร็ว

------------

นายสัตวแพทย์ ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ได้ทวีตข้อความว่า

อ่างเก็บน้ำห้วยเชียงคำมีความจุเพียงราวๆ 5 ล้านลบม. ก่อนที่ฝนจะเทลงมาหนักมาก ๆ ในช่วงเวลาสั้น ๆ ปริมาณน้ำในอ่างมีอยู่แล้วประมาณ 2.7 ล้านลบม.

น้ำฝนระดับ 145.5 ลบม. ทำให้เกิดมวลน้ำมหาศาลระดับ 3 ล้านลบม.ไหลลงอ่างอย่างรวดเร็ว เป็นเหตุให้ระดับน้ำในอ่างเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วไปที่ 116% ของความจุอ่าง…

สุดวิสัยครับ ที่อ่างขนาดเล็กค่อนข้างกลางอย่างห้วยเชียงคำจะต้านทานเอาไว้ได้

------------

ทั้งนี้ ปริมาณน้ำจำนวนมหาศาลจากอ่างเก็บน้ำแตก ทำให้มวลน้ำไหลหลากเข้าสู่นาข้าวที่อยู่ด้านล่างพื้นที่ความเสียหายเบื้องต้น 4 ตำบล ในอำเภอบรบือ ได้แก่ ตำบลโนนราษี / ตำบลหนองม่วง / ตำบลกำพี้ / ตำบลยาง 

ด้านชลประทานมหาสารคามได้เร่งแจ้งให้ประชาชนในพื้นที่ 3 ตำบล ใต้อ่างเก็บน้ำห้วยเชียงคำ คือ ต.โนนราษี ต.กำพี้ และ ต.หนองม่วง อ.บรบือ ให้เร่งขนย้ายของขึ้นที่สูง และ อพยพสัตว์เลี้ยงออกจากพื้นที่น้ำท่วมแล้ว

เบื้องต้น ทางชลประทานจังหวัดมหาสารคาม ได้ประสานให้เอาเครื่องจักรกล และถุงบิ๊กแบ็ก พร้อมทำตาข่ายใส่หินวางขวางน้ำ กั้นจุดที่น้ำไหลทะลักเพื่อชะลอน้ำ รวมถึงประสานงานเพื่อสำรวจความเสียหาย และให้ความช่วยเหลือประชาชนด้านท้ายอ่าง โดยเร่งด่วนแล้ว

------------

วานนี้ (16 ก.ค.) เวลา 16.50 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่อ่างเก็บน้ำห้วยเชียงคำ ต.โนนราษี อ.บรบือ จ.มหาสารคาม น้ำได้กัดเซาะบริเวณอาคารระบายน้ำล้น ซึ่งอยู่ระหว่างก่อสร้าง เพื่อขยายขนาดช่องระบายน้ำ โดยได้ทำนบดินกั้นน้ำเอาไว้ แต่ด้วยฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องข้ามวันข้ามคืน ทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างอย่างรวดเร็ว วันเดียว 3 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ปริมาณน้ำเกินปริมาณความจุอ่าง น้ำไหลล้นทำนบดิน และกัดเซาะใต้ดิน ส่งให้ถนนที่ทำเป็นคันกั้นน้ำขาด ปริมาณน้ำจำนวนมหาศาล ไหลทะลักเข้าพื้นที่นาข้าวของเกษตรกรที่อยู่ท้ายอ่างเก็บน้ำอย่างรวดเร็ว

ส่งผลให้ปริมาณน้ำจำนวนมหาศาลไหลหลากเข้าสู่นาข้าวที่อยู่ด้านล่างพื้นที่ความ เสียหายเบื้องต้น 4 ตำบล ในอำเภอบรบือ ได้แก่ ตำบลโนนราษี/ ตำบลหนองม่วง / ตำบลกำพี้ / ตำบลยาง

ต่อมา ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ที่อ่างเก็บน้ำห้วยเชียงคำ ต.โนนราษี อ.บรบือ จ.มหาสารคาม ชาวบ้านหลายหมู่บ้านเดินทางมาสังเกตการณ์ที่อ่างเก็บน้ำ หลังจากที่ทราบข่าวอ่างเก็บน้ำห้วยเชียงคำเกิดรอยรั่วขนาดใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านที่มีพื้นที่ต่ำกว่าอ่างเก็บน้ำ ซึ่งปริมาณน้ำจำนวนมหาศาลได้เข้าท่วมไร่นาของประชาชน รวมแล้วหลายพันไร่ ซึ่งชาวบ้านที่มาสังเกตการณ์ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้

นางฉวี สำราญสุข ชาวบ้านห้องน้อยหมู่ 7 ตำบลกำพี้ อ.บรบือ จ.มหาสารคาม กล่าวว่า ตนเองมีที่นา 5 ไร่ ถูกน้ำท่วมทั้งหมด ซึ่งปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เกรงว่าน้ำจะท่วมในหมู่บ้าน จึงได้ชักชวนเพื่อนบ้านมา 5-6 คน มาดูน้ำว่าเป็นอย่างไร ตอนนี้ ก็เป็นกังวลว่าปริมาณน้ำจะยังไม่สามารถควบคุมได้ เนื่องจากยังคงมีน้ำไหลลงมาอย่างต่อเนื่อง

ตนเองเกิดมาได้ 58 ปี ยังไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน นาของเพื่อนบ้านมี 30 ไร่กับ 15 ไร่ ก็ถูกน้ำท่วมทั้งหมด หากปริมาณน้ำยังเพิ่มสูงขึ้นก็อาจส่งผลให้น้ำท่วมหมู่บ้านได้ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่มาดูแลชาวบ้านด้วย

ด้านนางวันเกตุลดา สุระป้อง ผู้ใหญ่บ้านบ่อหลุบ หมู่ 9 ตำบลโนนราษี อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า พบอ่างเก็บน้ำมีรอยรั่วขนาดใหญ่เมื่อ ช่วงเช้า วานนี้ (16 ก.ค. 67) จึงได้แจ้งให้ลูกบ้านว่า ห้ามใช้เส้นทางสัญจรเนื่องจากเส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่ชาวบ้าน และนักเรียน จะต้องใช้สัญจรเข้าไปยังในตัวอำเภอบรบือ และเด็ก ๆ เดินทางมาเรียนที่โรงเรียนบ้านโคกกลาง ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 2 กิโลเมตร หากจะต้องไปทำงานที่ตัวอำเภอบรบือจะต้องใช้เส้นทางอื่นอ้อมไประยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร แต่ตอนนี้ทราบว่า ปริมาณน้ำที่ไหลลงไปส่งผลให้หลายพื้นที่ในตำบลใกล้เคียงก็ถูกน้ำท่วมแล้ว หากไม่เร่งดำเนินการซ่อมแซมหมู่บ้านก็อาจจะกลายเป็นเกาะกลางน้ำ เบื้องต้น ได้แจ้งให้ลูกบ้านอยู่ในพื้นที่ เพราะเกรงว่าหากออกมาจะเกิดอันตรายได้

เวลา 20.00 น. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ถนนทางหลวง 4007 บรบือ-นาดูน ช่วงที่บ้านกำพีพี้ ไปบ้านเหล่ายาว ต.กำพี้ อ.บรบือ จ.มหาสารคาม น้ำจากห้วยเชียงคำไหลบ่าข้ามถนน ลงสู่พื้นที่ด้านล่าง ระยะทางยาวกว่า 300 เมตร รถไม่สามารถใช้เส้นทางสัญจรได้ เนื่องจากน้ำซัดคอสะพานขาด ชาวบ้านบางคนกลับมาจากที่ทำงาน ก็ไม่สามารถกลับบ้านได้ เพราะปริมาณน้ำสูง และไหลแรง

นางสาวณิชาภา โคตรมั่นคง เจ้าหน้าที่ปกครองอำเภอบรบือ กล่าวว่า ตนทำงานที่อำเภอจนค่ำ เพราะต้องสแตนบายสถานการณ์น้ำ พร้อมกับนายอำเภอบรบือ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พอถึงเวลากลับบ้านขับรถมาถึงที่บริเวณบ้านกำพี้ตรงนี้ห่างไปเพียงแค่ 5-6 กิโลเมตรก็ จะถึงบ้านตนแล้ว แต่ก็ไม่สามารถกลับบ้านได้ คาดว่าคืนนี้คงจะต้องได้กลับไปนอนที่อำเภอ

นายเกรียงไกร มะโนลัย อายุ 25 ปี กล่าวว่า ตนเองมาหาแม่ที่บ้านกำพี้ กำลังจะกลับบ้านแฟนที่บ้านเหล่ายาว ซึ่งเป็นหมู่บ้านติดกัน ขี่รถฝ่ากระแสน้ำไปได้ไม่ถึง 20 เมตร รถก็ดับ น้ำพัดรถ ดีที่ยังประคองรถไว้ได้ เลยรีบกลับมา ซึ่งไม่เคย และไม่คิดว่าเหตุการณ์แบบนี้ จะเกิดขึ้นกับบ้านตัวเอง

นายทวี กองนารี อายุ 63 ปี ชาวบ้านกำพี้ หมู่ 12 กล่าวว่า บ้านของตนอยู่ท้ายบ้าน บริเวณที่น้ำไหลผ่านพอดี มีวัวกับควายรวมกัน 16 ตัว ไม่สามารถเอาออกมาได้สักตัว เพราะน้ำมาเร็วมาก ตนไปฉีดยาให้วัวที่หมู่บ้านข้างเคียง ได้ยินผู้ใหญ่บ้านประกาศเสียงตามสายว่าให้เร่งขนย้ายสิ่งของ ก็รีบกลับมาบ้าน

แค่พอกลับมา ก็พบว่าน้ำเข้าท่วมที่บ้านแล้ว จึงรีบนำภรรยาออกมาจากบ้าน พร้อมกับรถ 1 คัน ส่วนวัวควายและข้าวของไม่ได้ขนอะไรออกมาสักอย่าง รู้ว่าเขื่อนแตก แต่เราขนอะไรออกมาไม่ทันเพราะเราอยู่คนเดียว ตอนนี้เป็นห่วงวัวกับควายที่บ้าน คิดว่าคืนนี้ยังไงก็คงนอนไม่หลับ เป็นห่วงทั้งวัวควาย เป็นห่วงทั้งสิ่งของที่บ้าน

นอกจากนี้ มีรายงานว่ามีรถกระบะของชาวบ้านถูกน้ำซัดจมหายไปทั้งคัน ที่บริเวณถนนกำพี้-เหล่ายาว ตำบลกำพี้ อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม โดยกู้ภัยประจิมอำเภอบรบือ และกู้ภัยตักศิลามหาสารคาม ได้ร่วมกันสำรวจเส้นทาง พร้อมติดตั้งไฟส่องสว่าง เพื่อดำเนินการค้นหารถที่สูญหาย

------------

ช่วงเย็น ได้รับการแจ้งเหตุ ชาย อายุ 43 ปี สูยหายจากการถูกน้ำพัดไป 1 คน ที่บ้านหัวโขน เนินรังษี และตอน3 ทุ่ม ทีม ปภ.ได้ดำเนินการช่วยคนและหมู 

และตอน 3 ทุ่ม เพจ แจ้งข่าวชาวสารคาม ได้โพสต์ข้อความว่า ด่วน‼️ ขาดแล้วคอสะพานห้วยเชียงคำ บ้านกำพี้ - บ้านเหล่ายาว อ.บรบือ มหาสารคาม 

------------

ช่วงกลางดึก ในระหว่าง เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังเข้าช่วยเหลือชาวบ้านอพยพออกจากพื้นที่น้ำท่วม มีรายงานว่า ได้เกิดเหตุเรือของเจ้าหน้าเรือกู้ภัยล่ม ระหว่างช่วยอพยพคนท้ายอ่างเก็บน้ำห้วยเชียงคำแตก 7 ชีวิต เกาะต้นไม้อยู่ ซึ่งต่อมาทางเพื่อนกู้ภัยได้เข้าช่วย และต่อมา มีรายงานเข้ามาว่า สามารถช่วยทั้ง 7 ชีวิต ได้อย่างปลอดภัยแล้ว

นายศุภชัย มูลเหล่า ประธานฝ่ายกู้ชีพและกู้ภัย มูลนิธิคุณวีโรกุศลสงเคราะห์ (เอ็ง เต็ก ตึ๊ง มหาสารคาม) เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ได้รับแจ้งว่า ให้เข้าอพยพประชาชนออกจากหมู่บ้านฮ่องน้อย ต.กำพี้ อ.บรบือ พอมาถึง ก็มาพบเหตุรถกระบะขี่ฝ่าน้ำที่กำลังท่วม กระแสน้ำพัดรถกระบะตกน้ำ ส่วนคนขับสามารถกระโดดออกมาจากรถได้ทัน เลยไปเกาะอยู่ที่ต้นไม้ พวกตนจึงได้เอาเรือลงเพื่อที่จะเข้าช่วยเหลือ ระยะทางจากฝั่งไปถึงคุณลุงคนขับรถกระบะ อยู่ที่ประมาณ 500 เมตร แต่พอใช้เรือก็ต้องขับอ้อมไประยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ระหว่างทางที่นำเรือออกไปก็เจอกับกระแสน้ำที่ไหลแรง ทำให้เรือถูกน้ำพัดจนตะแคงไปติดกับต้นไม้ ไม่สามารถไปต่อได้ แต่เรือไม่ได้ล่ม ถ้าเอาเรือออก เรือจะจมน้ำทันที จึงได้ผูกเรือเอาไว้กับต้นไม้ก่อน

จากนั้นก็ได้ประสานไปยังหน่วยงานสาขาทั้ง 8 สาขา ให้เข้ามาช่วยอพยพชาวบ้าน ประสานไปยังกู้ภัยสว่างขอนแก่นเข้ามาช่วย

หลังจากนั้นประมาณ 1 ชั่วโมง น้ำเริ่มลดลง จึงได้นำเรือลง  และไปช่วยคุณลุงที่ติดต้นไม้ออกมาได้อย่างปลอดภัย เบ็ดเสร็จแล้วใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง รวมมีผู้ประสบเหตุทั้งหมด 8 คน เป็นเจ้าหน้าที่ 7 คน และคุณตาเจ้าของรถ 1 คน ซึ่งทุกคนปลอดภัยดี แต่ตอนนี้ รถของคุณตายังไม่สามารถนำขึ้นมาได้

------------

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/9GfnuO6u0Ic