สาวผวา นำเงินมาฝาก ATM ถูกหญิงบุกเข้ามาชิงเงิน ซ้ำโวยลั่นว่าอ้างถูกขโมยเงิน โร่แจ้งตร.ช่วย

เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา เวลา 15.00 น วันที่ 15 กรกฎาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ จังหวัดสมุทรปราการ ได้รับแจ้งเหตุชิงทรัพย์เงินสด บริเวณหน้าตู้เอทีเอ็ม ซึ่งตั้งอยู่ข้างห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านสำโรง ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่สายตรวจเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมชุดสืบสวน


ที่เกิดเหตุ บริเวณหน้าธนาคารดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ พบหญิงไทยไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 40 ปี มีลักษณะว้าวุ่น พูดจาไม่รู้เรื่อง ด่าทอผู้เสียหาย และปฏิเสธว่าตนเองไม่ได้เอาเงินของผู้เสียหายไป และยอมคืนเงิน 1,000 บาท ให้แต่โดยดี


เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวไว้ นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ ดำเนินการต่อไป โดยจากการสอบถาม ผู้เสียหายนั้น ไม่ประสงค์ดำเนินคดีกับ หญิงคนดังกล่าว


จากการสอบถาม นางสาวเอ (นามสมมุติ) ซึ่งขายลอตเตอรีอยู่บริเวณดังกล่าว เล่าว่า ตนมาขายหวยอยู่ตรงนี้ ตนเห็นว่าเขามายืนมองอยู่ตรงนี้ว่าอยากจะได้เงินตน ตนเห็นท่าไม่ดีเลยย้ายไปอีกที่ พอตนย้ายที่น้องผู้หญิงที่เอาเงินมาฝากตู้ ซึ่งตอนแรกตนไม่ได้มอง แต่พอหันกลับมาอีกทีหาเงินน้องผู้หญิงหล่นกระจายไปหมด ก่อนมีเสียงตะโกนบอกว่าเขาจะเอาเงินหนูไป และเห็นกำลังดึงเงินกัน จากนั้นน้องผู้หญิงบอกอย่าเพิ่งไปไหนนะ จะโทรแจ้งตำรวจมา เขาก็บอกว่าเรียกมาเลย น้องผู้หญิงไปยืนกับ รภป. เพราะเขาจะปารองเท้าใส่ มีผู้ชายอีกคนมายืนคุมเขาไว้ไม่ให้เขาหนี เพราะเขาจะหนี ซึ่งน้องผู้หญิงบอกว่า จะเอาเงินมาฝาก 7,000 บาท


ส่วน นายสายัน อายุ 42 ปี คนขายลอตเตอร์รี่ เล่าว่า ผมไม่เห็นเหตุการณ์ แต่เห็นผู้หญิงอยู่ตรงนี้ ส่วนผู้หญิงอีกคนก็ดักไว้กลัวเขาหนี


ตอนตนมาขายขอตรงนี้ เขามาขอเงินตน ตอนนั้นตนอยู่คนเดียว ก็ตกใจ เบื้องต้นรู้มาว่าเขาจะทำแบบนั้นบ่อย ๆ แต่เขาไม่ได้ทำในนี้แต่ไม่ทำที่อื่น และเขาสติดี แต่น่าจะเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เขาจะชอบพูดว่า เขาออกมาจากซอยหวนแดง ออกมาเล่นไฮโล


ด้าน พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สำโรงเหนือ เผยว่า เบื้องต้นสายตรวจรับแจ้งว่า มีเหตุชิงทรัพย์ที่หน้าตู้ ATM ธนาคารแห่งหนึ่ง เมื่อสายตรวจไปที่เกิดเหตุ ปรากฏว่ามีผู้หญิงกำลังนำเงินมาฝากที่ตู้ ATM แล้วถูกผู้หญิงอีกคนเขามาแย่ง


พอสายตรวจเข้าไปตรวจสอบก็พบว่าผูหญิงคนนั้นเป็นคนสติไม่ดี นำตัวมาที่สถานีตำรวจแล้ว ผู้เสียหายยืนยันไม่ประสงค์เอาเรื่อง ด้วยความสงสาร พอได้คุยแล้วเหมือนจิตใจล่องลอย ตอนนี้ได้นำตัวมาสอบถามประวัติ ว่าบ้านอยู่ที่ไหน ใครเป็นญาติ จะได้นำส่งในขั้นตอนต่อไป อยากฝากให้ประชาชนก่อนทำธุระกรรมต่างๆ ทั้งหน้าตู้ ATM และ ที่ธนาคาร หากไม่มีใครอยู่เลยหรือมีคนให้สังเกตซ้ายขวามีใครจ้องมองเราบ้าง ก็ขอให้เซฟตัวเองก่อน เพราะเจ้าหน้าที่อาจจะดูแลได้ไม่ทั่วถึงพอไปแล้ว เพราะส่วนมากก็จะเหตุเกิดแล้ว ก็ขอให้ระมัดระวังและเซฟตัวเองและทรัพย์สิน


ด้าน นางสาวศรุตา อายุ 36 ปี ผู้เสียหาย เผยว่า เรื่องมันเกิดช่วงประมาณบ่าย 2 โมง ตนจะนำเงินไปฝากที่ธนาคารแห่งหนึ่งบนห้าง แต่ตู้ในห้างมันปิดปรับปรุง ก็เลยเดินออกมาฝากนอกห้าง ตอนที่ตนกำลังทำรายการอยู่ตนก็ถือเงินอยู่ในมือเป็นจำนวน 7,000 บาท ตอนที่กำลังทำธุรกรรมอยู่หน้าตู้ เขาก็มากระชากเอาเงินในมือของตนไปหมดเลย 7,000 บาท แต่เขาได้ไปแค่ 1,000 บาท เพราะที่เหลือหล่นลงที่พื้นหมดเลย พอเขากระชากเอาไปเขาก็ขย้ำเงินใส่มือก่อนที่จะเอาใส่ในถุงพลาสติกที่ถือมา แล้วเขาก็ตะโกนบอกคนอื่นว่าผู้หญิงคนนี้ขโมยเงินเขาไป เขาเป็นฝ่ายตะโกนบอกกับคนอื่น ตนก็เลยบอกว่าไม่ใช่ เป็นเขาต่างหากที่ขโมยเงินของตนไป แล้วคนที่กำลังเดินผ่านไปผ่านมาก็เริ่มจะเข้ามามุงดู


ตนก็เลยวิ่งไปบอกทาง รปภ. ของธนาคารที่ตนเอาเงินไปฝากว่าให้มาช่วยดูหน่อย เขาสติไม่ค่อยดีและไม่ใส่รองเท้าด้วย แล้วเขาก็ตะโกนบอกให้ตนโทรแจ้งตำรวจมาเลย เพราะเขาก็จะแจ้งความกลับเหมือนกัน ตนจึงโทรไปแจ้งตำรวจ ในระหว่างรอตำรวจ เขาก็ตะโกนด่าตนตลอดและมีการปาโทรศัพท์ใส่ตนด้วย ตนรอประมาณ 20 นาที มันนานจึงขอให้ รปภ. มายืนอยู่ด้วย เพราะกลัวว่าเขาจะเข้ามาทำร้าย


ส่วนเรื่องคดีความ ตนไม่ได้เอาเรื่อง เพราะตอนตำรวจมา เขาก็ยังตะโกนด่าตนอยู่ แล้วตำรวจก็บอกกับเขาว่าเขาไม่เอาความแล้วจะด่าเขาอีกทำไม แล้วสักพักเขาก็ยื่นเงินมาคืน แต่ตำรวจเก็บเอาไว้ก่อน เพื่อเอาไปคืนให้ที่โรงพัก ตนอยากจะฝากเตือนคนที่ไปทำธุรกรรมทางการเงินนอกธนาคารว่าก่อนจะฝากเงินหรือทำอะไรให้มองรอบ ๆ ตัวก่อน ว่ามีคนที่ไม่น่าไว้ใจอยู่หรือเปล่า เพราะตอนแรกตนก็เห็นเขา แต่ไม่ได้สังเกตขนาดนั้นว่าเขาเป็นคนสติไม่ดี แต่เห็นว่าเขานั่งอยู่ตรงนั้นนานแล้ว