ศาลกาญจนบุรี รับฟ้อง "ลุงจรูญ" ฟ้อง "ครูปรีชา" คดีหวย 30 ล้าน ฐานเบิกความเท็จ

ที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี นัดโจทก์และจำเลยในคดีหวย 30 ล้าน มาขึ้นศาลถึง 2 คดีในวันเดียวกัน โดยคดีแรก เป็นคดีที่นายฐนุกร หรือ แผน หนึ่งในพยานปากสำคัญของครูปรีชา เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ร้อยตำรวจโทจรูญ วิมูล หรือ ลุงจรูญ ในความผิดฐานแจ้งความเท็จ ส่วนอีกคดี คือคดีที่ลุงจรูญ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ครูปรีชา 3 เจ๊แม่ค้าหวย และบรรดาพ่อค้าแม่ค้าในตลาดเรดซิตี้ ที่เป็นพยานให้กับครูปรีชา ในคดีหวย 30 ล้าน รวม 10 ปาก ในความผิดฐานเบิกความเท็จ

โดยเมื่อถึงเวลานัดหมาย ปรากฏว่าทางฝั่งของลุงจรูญ ไม่ได้เดินทางมาศาล โดยมีเพียงนางลาวัลย์ ภรรยาของลุงจรูญ เดินทางมาศาล พร้อมกับนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เท่านั้น โดยทั้ง 2 คน ได้ขอตัวขึ้นไปยังห้องพิจารณาคดีทันที ขณะที่ฝั่งของนายฐนุกร หรือ นายแผน ไม่ได้เดินทางมาศาลแต่อย่างใด

จากนั้นประมาณ 1 ชั่วโมง ทนายตั้ม พร้อมภรรยาของลุงจรูญ ได้เดินทางลงมาจากห้องพิจารณาคดี พร้อมให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนว่า คดีที่นายแผน เป็นโจทก์ยื่นฟ้องลุงจรูญนั้น เป็นคดีเก่าที่ยื่นฟ้องมาตั้งแต่ปี 2562 ซึ่งอยู่ในชั้นของการไต่สวนมูลฟ้อง เนื่องจากตัวโจทก์คือนายแผน ขอศาลเลื่อนนัดไต่สวนมาตลอดเป็นเวลากว่า 5 ปีแล้ว

และในวันนี้ นายแผน ได้ส่งทนายความมายื่นต่อศาลเพื่อขอเลื่อนนัดไต่สวนมูลฟ้องออกไปอีก แม้ฝั่งของตนจะยื่นคัดค้าน แต่ศาลยังให้โอกาสนายแผน เลื่อนนัดไต่สวนมูลฟ้องออกไปอีกครั้ง เป็นวันที่ 28 ตุลาคม 2567 ซึ่งในคดีนี้ นายแผน เป็นพยานของครูปรีชา และให้การในชั้นศาลว่า เห็นลุงจรูญ ไปที่ตลาดเรดซิตี้ และก้มลงเก็บลอตเตอรี่ชุดที่ถูกรางวัลขึ้นมาจากพื้น พร้อมตะโกนเรียกหาเจ้าของ ซึ่งเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง แต่นายแผน กลับยังมาแจ้งความลุงจรูญ เรื่องแจ้งความเท็จ แต่เมื่อยื่นฟ้องแล้วกลับไม่ยอมมาตามนัดไต่สวนมูลฟ้อง เลื่อนคดีออกไปเรื่อยๆ กระทั่ง ลุงจรูญชนะคดีที่ถูกครูปรีชาฟ้องเรื่องยักยอกทรัพย์และรับของโจร แต่นายแผน ยังคงไม่ยอมมาไต่สวนมูลฟ้อง หลังจากนี้ต้องรอว่าเมื่อถึงวันที่ศาลนัดครั้งต่อไป นายแผน จะมาขึ้นศาลหรือไม่

ส่วนในคดีที่ลุงจรูญ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องครูปรีชา 3 เจ๊แม่ค้าหวย นายแผนและพยานฝั่งของครูปรีชา ที่ขึ้นให้การในคดีหลัก รวม 10 ปาก ในความผิดฐานเบิกความเท็จนั้น ในวันนี้ ศาลได้นัดฟังคำสั่งศาล ซึ่งศาลได้พิจารณาแล้วเห็นว่าเรื่องที่โจทก์ยื่นฟ้องจำเลยทั้ง 10 คนนั้น มีมูล จึงประทับรับฟ้อง และมีผลทำให้ทั้ง 10 คน ซึ่งประกอบด้วย 1.นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา

2.นางสาวรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือ เจ๊บ้าบิ่น

3.นางสาวพัชริดา พรมตา หรือ เจ๊พัช

4.นางปณัญชยา สุขพูล หรือ เจ๊เกียว

5.นางสาวบุปผา กลัดเพ็ชร

6.นางสาวปาณภัสสรณ์ พิมพ์พัฒน์

7.นายประทิน ประทีป

8.นายฐนุกร เหลืองใหม่เอี่ยม หรือ นายแผน

9.นางวาสนา บัวบาน

และ10.นางสาวกาญจนา แก้วดำรง กลายเป็นจำเลยในคดีทันที

โดยศาลได้นัดพร้อมให้มาขึ้นศาลและยื่นประกันตัวในวันที่ 23 กันยายนนี้ ซึ่งในการยื่นฟ้องครั้งนี้ นอกจากตัวของครูปรีชา เจ๊บ้าบิ่นและเจ๊พัช ซึ่งเป็นแม่ค้าลอตเตอรี่ ที่ถูกฟ้องในคดีเบิกความเท็จในคดีอายัดเงินในบัญชีของลุงจรูญ มาก่อนหน้านี้แล้ว จำเลยรายอื่นๆ ถือเป็นครั้งแรกที่เปลี่ยนสถานะจากพยานในคดีกลายมาเป็นจำเลยในความผิดฐานเบิกความเท็จในคดีที่ลุงจรูญ ถูกครูปรีชาฟ้องว่ายักยอกทรัพย์และรับของโจร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นายแผน ที่ขึ้นให้การว่าเห็นลุงจรูญ เก็บลอตเตอรี่ได้ ที่ตลาดเรดซิตี้ ที่เปลี่ยนสถานะกลายมาเป็นจำเลยในคดี

ทนายตั้ม ยังกล่าวอีกว่า เนื่องจากในคดีที่ลุงจรูญ ฟ้องครูปรีชา เจ๊พัชและเจ๊บ้าบิ่น เรื่องของการเบิกความเท็จในการอายัดเงินในบัญชีของลุงจรูญไปก่อนหน้านี้นั้น ทั้งครูปรีชา เจ๊พัชและเจ๊บ้าบิ่น ได้รับสารภาพไปเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นจึงเชื่อว่าพยานปากที่เหลือที่ถูกฟ้องก็คงจะต่อสู้ลำบาก เนื่องจากตัวหลักในคดีรับสารภาพแล้วว่าเบิกความเท็จ