สังคม

สั่งสอบ “ปลัดอำเภอ” กระทืบแฟนสาวต่อหน้าลูก จนซี่โครงหัก

โดย thanaporn_s

12 ก.ค. 2567

799 views

จากกรณีที่ น.ส.มาย (นามสมมุติ) อายุ 41 ปี ผู้เสียหายได้นำคลิปจากภาพจากกล้องวงจรภายในบ้านพัก เข้าร้องเรียนผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์ หลังถูกแฟนหนุ่มซึ่งเป็นปลัดปกครองอำเภอสังขะ จ.สุรินทร์ ทำร้ายร่างกาย เหตุเกิดเมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 17 มิ.ย. 2567 ที่ผ่านมา โดยบางช่วงของคลิปจะเห็นผู้เสียหาย อยู่ในสภาพเปลือย พยายามวิ่งเข้าไปแย่งกุญแจรถ


แต่ปลัดอำเภอแฟนหนุ่มไม่พอใจ ทั้งตบและเตะ บางช่วงในคลิป ปลัดอำเภอ ถือมีดและทุบกีตาร์ของลูกชาย พร้อมกับทำลายทรัพย์สินภายในบ้าน โดยหลังเกิดเหตุ น.ส.มาย ได้ไปแจ้งความเอาผิดกับปลัดอำเภอแฟนหนุ่มที่ สภ.สังขะ ในข้อหาร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บและทำให้เสียทรัพย์



น.ส.มาย (ผู้เสียหาย) กล่าวให้สัมภาษณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุ นั่งดื่มกับแฟนหนุ่ม ระหว่างนั้นตนสังเกตุเห็นแฟนหนุ่มกำลังแชตคุยกับคนอื่น จึงได้ถามไปว่าคุยอะไรกับใคร แต่กลับทำให้แฟนหนุ่มเกิดความไม่พอใจ จึงมีปากเสียงทะเลาะกัน ก่อนที่จะถูกทำร้ายร่างกาย ทั้งทุบตีและเตะตามร่างกาย จากนั้นแฟนหนุ่มก็ได้ออกจากบ้านไป ตนจึงเดินไปปิดประตูบ้าน ไม่นานแฟนกลับมาอีกรอบ มีการเตะประตูบ้าน ทุบประตูห้องนอนเพื่อจะมาทำร้ายตนอีก


ซึ่งตอนนั้นกำลังเตรียมอาบน้ำ นอกจากนี้แฟนยังหยิบกีตาร์ของลูกชายมาทุบทิ้งพร้อมถือมีดและยังมีปืนในกระเป๋าสะพาย ด้วยความกลัวจึงรีบวิ่งออกมาจากห้องนอนเข้าไปยื้อแย่งเอากุญแจรถที่แฟนหนุ่มหยิบไป ด้วยจนเกิดภาพตามคลิปดังกล่าว ตนจึงให้ลูกชายโทรไปแจ้งตำรวจ สภ.สังขะ ให้เข้ามาช่วยระงับเหตุ และเดินทางไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลสังขะ พบกระดูกซี่โครงหัก 2 ซี่ ร่างกายเขียวช้ำหลายจุด


น.ส.มาย กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ตลอดเวลาที่คบหากับแฟนหนุ่มปลัดอำเภอคนนี้ ตั้งแต่ช่วงมีนาคมที่ผ่านมา ประมาณ 3-4 เดือน ตนมักจะโดนทำร้ายร่างกายมาโดยตลอด หลังจากตกเป็นข่าวตามสื่อทีวีต่างๆ แฟนหนุ่มยังติดต่อทางแชต ขู่ว่าทำร้ายอีก ทำให้ตนเกิดความกลัวและไม่กล้าอยู่บ้าน จึงตัดสินใจที่จะไม่พูดคุยกับแฟนหนุ่มอีกต่อไป และได้แจ้งความไว้ที่ สภ. สังขะ เพื่อจะดำเนินคดีจะเอาเรื่องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด แต่ดูเหมือนคดียังไม่มีความคืบหน้าไหนๆ


ล่าสุด นายสันติ โอฆะพนม นายอำเภอสังขะ กล่าวให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ได้เรียกตัวปลัดอำเภอคนที่ปรากฏเป็นข่าวดังกล่าว ให้เข้ามาพบ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง และให้ทำรายงานเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อชี้แจงส่วนเรื่องเอาผิดทางวินัยจะต้องมีการหารือกับผู้บังคับบัญชาอีกครั้ง และรอผลจากการตั้งกรรมการสอบสวนว่าจะต้องมีการให้พักงานหรือโยกย้าย

คุณอาจสนใจ