เครือข่ายกัญชาฯ ยื่นหนังสือต่อรัฐบาล หลังบอร์ดฯมีมติดึง “กัญชา” กลับเป็นยาเสพติด

เมื่อช่วงเที่ยง กลุ่มเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย กว่า 300 คน จากทั่วประเทศ นัดรวมตัวกัน ที่หน้าที่ทำการสหประชาชาติ เพื่อเดินขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาล ยื่นข้อเสนอถึงรัฐบาล กรณีการกำหนดสถานะกัญชาไทย


จนเวลาบ่ายโมง กลุ่มเครือข่ายฯ เริ่มเคลื่อนขบวนออกจากจุดนัดพบ เดินเท้าไปยังทำเนียบรัฐบาล โดยมีนายประสิทธิ์ชัย เลขาธิการเครือข่ายฯ นำขบวน ภายในขบวน กลุ่มเครือข่ายผู้สนับสนุนมีการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ทั้งการนำต้นกัญชา รวมถึงป้ายกิจกรรมต่าง ๆ มาถือด้วย จากนั้น เวลาบ่ายโมงครึ่ง ก็เดินทางมาถึงยังจุดหน้าทำเนียบรัฐบาล บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ และเริ่มปักหลักทำกิจกรรม เรียกร้องขอ ให้รัฐบาลส่งตัวแทนมารับหนังสือ


นายประสิทธิ์ชัย กล่าวว่า วันนี้มาแสดงออกอย่างสันติ เพื่อยืนหยัดในข้อเรียกร้องก่อนหน้านี้ ที่ไม่เห็นด้วย กับการเปลี่ยนแปลงนโยบาย การนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ซึ่งจะก่อให้เกิดผลกระทบกับประชาชนผู้ป่วย ที่จะเข้าถึงการใช้กัญชายากขึ้น มองว่าการเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งนี้ เป็นเพราะมีผลประโยชน์ระหว่างนายใหญ่ของพรรคเพื่อไทยกับกลุ่มทุนที่จะผูกขาดเรื่องกัญชา


เช่นเดียวกับการที่รัฐบาล เปลี่ยนแปลงตัวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพราะเดิมนั้น ทางเครือข่าย เคยได้ร่วมหารือกับนพ. ชลน่าน ศรีแก้ว ก็มีแนวโน้มจะเปลี่ยนแปลง แต่เมื่อเปลี่ยนเป็นนายสมศักดิ์ เทพสุทิน เรื่องกัญชา ก็ถูกยกขึ้นมาแก้ไขใหม่ เหมือนได้รับคำสั่งมา


ต่อมา ในเวลา บ่าย 2 โมง มีตัวแทนจากสำนักนายกรัฐมนตรี มารับข้อเสนอของทางเครือข่าย ที่ยื่นต่อรัฐบาลให้ตั้งคณะกรรมการร่วมกัน 2 ฝ่าย เพื่อศึกษาวิจัย ประเด็นสำคัญ 4 มิติ ที่เกี่ยวกับกัญชา (กราฟิก 1) ข้อเสนอเครือข่ายกัญชาฯต่อรัฐบาล กำหนดสถานกัญชาในประเทศไทย ตั้งคณะกรรมการ ร่วมกัน 2 ฝ่าย เพื่อศึกษาวิจัย 4 ประเด็น

1. กัญชามีผลร้ายในมิติสุขภาพมากกว่าบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือไม่

2. กัญชาก่อผลร้ายในมิติทางสังคมในช่วงสองปีที่ผ่านมา ร้ายแรงกว่าบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือไม่

3. คุณสมบัติในการดูแลสุขภาพและรักษาโรคของกัญชา ดีกว่าบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือไม่

4. กัญชาก่อให้เกิดโรคทางจิตเวช และทำลายสมองเยาวชน ตามที่รัฐกล่าวอ้างจริงหรือไม่


หากผลการศึกษาวิจัยแล้วเสร็จ ทั้ง 4 มิติ ให้ใช้กฎหมายควบคุมกัญชาไทยดังนี้

1. หากผลออกว่า กัญชาไม่ได้ร้ายกว่าบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้เป็นสาเหตุเกิดโรคจิตเวชหรือทำลายสมองเด็ก ให้ควบคุมโดย พระราชบัญญัติกัญชา

2. หากผลออกมา ว่า กัญชาร้ายแรงกว่าบุหรี่และเหล้า เป็นสาเหตุเกิดโรค จิตเวชและทำลายสมองเยาวชน ให้ควบคุมโดย กฎหมายยาเสพติด


การเรียกร้องครั้งนี้ ทางเครือข่ายฯตั้งใจปักหลักทั้งคืน เพื่อรอติดตามผลการหารือของคณะรัฐมนตรี ที่จะประชุมพิจารณาเรื่องกัญชาในวันพรุ่งนี้ หากยังไม่เป็นผล ก็จะปักหลักชุมนุมอย่างไม่มีกำหนด


ส่วนในคืนนี้ จะมีกิจกรรมการตีแผ่ กรณีที่พูดถึงผลประโยชน์มหาศาลจากกัญชา ซึ่งเกิดขึ้นจากนายใหญ่ของพรรค เพื่อไทยและกลุ่มทุน ในเวลา 2 ทุ่ม คืนนี้