นักเรียนทุนรัฐบาลร้อง ข้อมูลส่วนตัวหลุด ทั้งรุ่นปัจจุบัน-จบแล้ว วอน ก.พ.แจงละเอียด หามาตราการป้องกัน

นักเรียนทุนรัฐบาลร้องสื่อ หลังข้อมูลส่วนตัวหลุด ทั้งรุ่นปัจจุบันและจบไปแล้ว ด้านศิษย์ทุนเก่า หวั่นกระทบความปลอดภัยในชีวิต เหตุหลายคนมีตำแหน่งหน้าที่การงานเป็นบุคลากรสำคัญของประเทศ กังวลพ่อแม่ ผู้ปกครองที่เซ็นค้ำประกันล้วนเป็นผู้สูงอายุหากหลุดไป กลัวโดนมิจฉาชีพหลอก วอนสำนักงาน ก.พ.ชี้แจงละเอียด พร้อมหามาตราการคุ้มครองป้องกัน


ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนักเรียนทุนของรัฐบาล ทั้งนักเรียนทุนรุ่นปัจจุบัน และรุ่นที่จบไปแล้ว ซึ่งมีหน้าที่การงานและเป็นบุคลากรสำคัญของประเทศ ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ช่วงก่อนหน้านี้พบว่าข้อมูลของเหล่านักเรียนทุนรัฐบาลไทย รั่วไหลออกมาจากระบบสารสนเทศของ สำนักงาน ก.พ. เช่น ชื่อ-สกุล ตั๋วเครื่องบิน สำเนาหน้าพาสปอร์ต สำเนาบัตรประชาชน ทั้งของนักเรียนทุนและของผู้ปกครองที่เป็นคนค้ำประกันทุน ฯลฯ


โดยเรื่องนี้ทีมข่าวได้ข้อมูลจากตัวแทนนักเรียนทุนรุ่นปัจจุบัน ที่กำลังศึกษาอยู่ประเทศอังกฤษ บอกว่า ช่วงต้นเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อน ๆ นักเรียนทุนทั้งในประเทศอังกฤษ และจีน ทราบว่าข้อมูลส่วนตัวของตัวเองหลุดออกจากระบบ โดยเชื่อว่าข้อมูลเหล่านี้หลุดจากสำนักงาน ก.พ. อย่างแน่นอน ซึ่งข้อมูลที่หลุดของแต่ละคนจะแตกต่างกัน เช่น ตั๋วเครื่องบิน สำเนาหน้าพาสปอร์ต เลขและบัตรประชาชนทั้งของนักเรียนทุนและของผู้ปกครองที่เป็นคนค้ำประกันทุน รวมทั้งประกันสุขภาพ และที่หลายคนกกังวลมาก คือ สัญญาเกี่ยวกับทุนดังกล่าว ซึ่งหากค้นหาดูจะพบว่าหลุดในระบบ BING Search Engine (Bing คือ เครื่องมือค้นหาข้อมูลรูปแบบหนึ่ง ที่มีข้อมูลของนักเรียนทุน)


หลังจากข้อมูลเหล่านี้หลุดไป นักเรียนทุนต่างพยายามสอบถามไปยังสำนักงาน ก.พ. เพื่อให้ออกมาชี้แจง โดยสำนักงาน ก.พ. ได้ออกจดหมายแจ้งนักเรียนทุน เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.67 ว่า สำนักงาน ก.พ.รับทราบถึงปัญหาแล้วและกำลังแก้ไข ซึ่งได้ประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เร่งตรวจสอบหาสาเหตุอละแก้ไขให้ระบบมีความมั่นคงปลอดภัยมากยิ่งขึ้น


กระทั่งวันที่ 21 มิ.ย.67 มีการอัพเดตว่า ได้ปิดระบบสารสนเทศนักเรียนทุน (ssis.ocsc.go.th) ในทันที เพื่อปิดกั้นการเข้าถึงระบบดังกล่าว ได้ตรวจสอบระบบเว็บไซต์และเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ปิดการเข้าถึงเว็บไซต์ที่เกิดปัญหาจากเครือข่ายภายนอกสำนักงาน ก.พ. รวมทั้งปิดการค้นหาผ่าน Bing แล้ว


นอกจากนี้ ยังได้ประชุมร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) เพื่อประเมินความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ทราบว่ากรณีดังกล่าวมิได้เป็นกรณีที่ฐานข้อมูลถูกโจมตี หรือฐานข้อมูลสูญหายไปยังบุคคลที่ 3 แต่เกิดจาก Al ของ Search Engine เมื่อเจ้าของข้อมูลได้เข้าไปค้นหาผ่านข้อมูลส่วนตัว ก็จะทำให้ Al เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลได้ และระบบฯ ปิดเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2567 แล้ว


ทั้งนี้ ได้ประชุมร่วมกับบริษัทฯ ที่รับผิดชอบในการพัฒนาระบบฯ แก้ไข Code ของระบบฯ เพื่อป้องกันการเก็บข้อมูลของ Search Engine จากทุกค่าย และเร่งตรวจสอบหาสาเหตุของปัญหาเพื่อดำเนินการแก้ไขระบบฯ ให้มีความมั่นคงปลอดภัย


หลังจากมีการชี้แจงประมาณนี้ ทางนักเรียนทุนบอกว่า เป็นการชี้แจงที่ไม่กระจ่าง และยังไม่ชัดเจนในเรื่องของการรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น  


ส่วนที่บอกว่ากรณีดังกล่าวมิได้เป็นกรณีที่ฐานข้อมูลถูกโจมตี หรือฐานข้อมูลสูญหายไปยังบุคคลที่ 3 แต่เกิดจาก AI ของ Search Engine ก็อยากให้ขยายความประโยคที่บอกว่า "เกิดจาก AI ของ search engine" หากเกิดจาก AI จริง ๆ ไม่ทราบว่าตอนตั้งระบบ ตั้งไว้อย่างไรให้ AI เข้าถึงข้อมูลอะไรได้บ้าง รวมถึงระบบความปลอดภัยของข้อมูลที่ทาง ก.พ.ได้ตั้งไว้ เนื่องจากถ้าเป็น Personal data และยิ่งเป็นข้อมูลเลขบัตรประชาชนที่เป็นข้อมูลสำคัญแล้ว ทาง Search Engine ค่อนข้างเข้มงวดกับข้อมูลดังกล่าวและมีข้อตกลงทางกฎหมาย ซึ่งความเป็นได้ที่จะเกิดค่อนข้างต่ำ จึงอยากทราบว่า ทาง ก.พ.ได้ตั้งค่าระบบต่าง ๆ รวมถึงระบบความปลอดภัยไว้อย่างไรบ้าง


พร้อมถามกลับไปยัง ก.พ. ด้วยว่า มีการแจ้งให้กับทางนักเรียนทุนท่านอื่นที่ไม่ใช่นักเรียนทุนปัจจุบันทราบแล้วหรือไม่ เพราะพบด้วยว่านักเรียนทุนรุ่นก่อนหน้าที่จบไปแล้ว กำลังใช้ทุนและทำงานให้ประเทศ ซึ่งเป็นบุคลากรสำคัญของประเทศ  ข้อมูลส่วนตัวต่าง ๆ หลุดไปด้วยเช่นกัน


ทีมข่าวได้คุยเพิ่มเติมกับ คุณบี (นามสมมติ) นักเรียนทุนรัฐบาล ที่ไปศึกษาต่อที่สหราชอาณาจักร และล่าสุดทำงานในแวดวงนักวิชาการ กล่าวว่า ตนเองทราบเรื่องจากเพื่อนนักเรียนที่อยู่ต่างประเทศ จึงลองเสิร์ชดู ปรากฏว่าเจอว่าข้อมูลบัตรประจำตัวประชาชนหลุดออกไป ซึ่งทราบเรื่องว่าข้อหลุดจากบรรดานักเรียนทุนที่เตือนกันเอง ไม่ใช่สำนักงาน ก.พ. เป็นคนเตือนแต่อย่างใด


คุณบี กล่าวว่า หลังจากที่พบว่ามีข้อมูลส่วนตัวหลุดออกไป ได้คุยกับเพื่อน ๆ ทุกคนล้วนมีความกังวล รวมทั้งตัวเอง ซึ่งนักเรียนทุนแต่ละคนก่อนที่จะไปศึกษาต่อนั้น ได้เตรียมตัวและเตรียมข้อมูลหลายอย่างมาก รวมทั้งมีการทำเอกสารซึ่งมีทั้งข้อมูลส่วนตัว ประวัติการศึกษา มีผู้รับรอง และข้อมูลของคนค้ำ ส่วนใหญ่จะเป็นพ่อและแม่หรือผู้ปกครอง ซี่งประเด็นที่พูดถึงในหมู่เพื่อน ๆ ที่กังวลคือ บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ปกครอง เพราะสถานการณ์ตอนนี้หลายคนทราบกันดีว่ามิจฉาชีพ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ระบาดหนัก อาจสามารถนำข้อมูลส่วนนี้ไปต่อยอดตามกลโกงได้หลายอย่าง เช่น การทำธุรกรรม ฯลฯ ซึ่งกลุ่มผู้สูงอายุเหล่านี้เป็นกลุ่มเปราะบาง เสี่ยงจะถูกหลอกลวง


คุณบี กล่าวว่า อีกประเด็นที่สำคัญ เมื่อข้อมูลส่วนตัวนักเรียนทุนหลุดออกไป หากเมื่อทุกคนเรียนจบแล้ว ก็กลับมาทำงานให้ประเทศ ส่วนใหญ่จะเป็นบุคลากรกำลังหลักของประเทศ ไม่ว่าจะอยู่ในหน่วยงานราชการ กระทรวงต่าง ๆ กรมต่าง ๆ สถานบันอุดมศึกษา ซึ่งมีเยอะมาก ๆ เบื้องต้นทุกคนล้วนป้องกันข้อมูลส่วนตัวของตัวเองเต็มที่แล้ว แต่ปรากฏว่าข้อมูลที่หลุดออกไปนั้นเป็นข้อมูลที่เราให้หน่วยงานรัฐบาลไป เพื่อโอกาสสำหรับการศึกษาของตัวเรา พอเกิดขึ้นแล้วก็ยอมรับ เพียงแต่ว่าอยากทราบมาตรการหลังจากนี้จากสำนักงาน ก.พ.


ทั้งนี้ เราไม่รู้ทั้งหมดว่าสรุปแล้วข้อมูลที่หลุดไปนั้นมีอะไรบ้าง ของใครบ้าง จึงอยากตั้งข้อสังเกตว่า หากวันใดวันนึง มีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเรา หรือพ่อแม่ผู้ปกครอง จะมีมาตรการเยียวยาหรือวิธีการคุ้มครองอย่างไรได้หรือไม่ เช่น หากคนเอาชื่อตัวเอง และชื่อพ่อแม่ผู้ปกครองไปค้ำประกัน ไปกู้เงิน ซึ่งเราไม่ใช่คนกระทำ หากเกิดเหตุเช่นนี้ มองว่าจะมีอะไรมาคุ้มครองหรือไม่



สุดท้าย อยากได้คำชี้แจงที่ชัดเจน และมาตรการป้องกันที่เข้มแข็งขึ้น เพราะส่วนตัวเชื่อว่าทุกคนมีความปรารถนาดี ด้วยความที่เป็นนักเรียนทุน ไปศึกษาต่อและกลับมาทำงานเพื่อประเทศให้พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น และในอนาคตอาจจะเกิดความเสี่ยงจากข้อมูลส่วนตัวที่หลุดออกไป ทั้งเรื่องความปลอดภัยต่อทรัพย์สิน หรืออะไรก็แล้วแต่ และเป็นการป้องกัน เพราะว่าแต่ละปีนักเรียนทุนที่ไปศึกษาต่อนั้นก็ไม่ใช่น้อย

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/e03GEw_mTT4