สังคม
เพื่อนบ้านห่วง 3 เด็ก ไม่ได้ไปเรียน พ่อแม่ติดยาตบตีกัน แจ้ง จนท.ช่วย แม่ยันรักลูก แต่ตอนนี้ชีวิตลำบาก
โดย nattachat_c
8 ก.ค. 2567
56 views
วานนี้ (7 ก.ค. 67) เวลา 13.30 น. นางวาริน วีระสุนทร หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนนทบุรี พร้อมด้วย นายวัฒนชัย สามาอาพัฒน์ ปลัดอำเภอไทรน้อย และตำรวจ สภ.ไทรน้อย เข้าตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในซอย 16 ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง พื้นที่ ต.ทวีวัฒนา อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี
เนื่องจากได้รับร้องเรียนจากประชาชนให้ช่วยเหลือเด็ก 3 คน เป็นนักเรียนชั้น ป.2 - ป.6 พักอาศัยอยู่ในบ้านที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ เด็ก ๆ ต้องวิ่งออกมาซื้อเทียนวันละ 5 - 6 เล่มทุกวัน
เพื่อนบ้านแจ้งว่า พ่อแม่เด็กน่าจะเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เพราะเคยหลอกถามเด็กทั้ง 3 คน และพบว่า มีวัยรุ่นเข้า-ออกบ้านจำนวนมาก ทั้งกลางวันกลางคืน ทางเพื่อนบ้านห่วงว่าเด็กจะไม่ได้รับการศึกษาต่อ เพราะเด็กหยุดเรียนบ่อยครั้ง และห่วงการเป็นอยู่ของเด็ก ๆ เนื่องจากพ่อแม่ทะเลาะวิวาทกันเกือบทุกวัน
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ พบ นายวิชญ์ภาส อายุ 43 ปี เป็นเจ้าของบ้าน ทำงานเป็นเซลล์ขายเครื่องไฟฟ้าที่ห้างย่านบางใหญ่ เจ้าหน้าที่ขอตรวจค้นตัว พบอุปกรณ์การเสพยา จึงตรวจปัสสาวะพบสารเสพติดในร่างกาย
จากนั้น จึงขอเข้าตรวจสอบภายในบ้าน พบ น.ส.ณัฐรี อายุ 28 ปี พร้อมกับลูก ๆ คือ ด.ญ. อายุ 12 ปี / ด.ญ. อายุ 10 ปี / และ ด.ญ. อายุ 8 ปี เรียนอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ย่าน อ.บางบัวทอง สภาพภายในบ้านมีข้าวของกระจัดกระจาย และไม่ได้ทำความสะอาด ด้านหลังพบเตาอั้งโล่ เทียนที่ถูกจุดทิ้งไว้ ตรวจปัสสาวะ น.ส.ณัฐรี พบยาเสพติดในร่างกาย
น.ส.ณัฐรี บอกว่า เด็กทั้ง 3 คน เป็นลูกติดของตนกับสามีเก่า ตนมาอยู่กินกับนายวิชญ์ภาส ได้ประมาณ 1 ปี มีเรื่องทะเลาะตบตีกันบ่อยครั้งเกี่ยวกับลูก ๆ เนื่องจากสามีทำอาชีพเป็นเซลล์ มีรายได้ประมาณเดือนละ 20,000 บาท ส่วนตนทำงานรับจ้างทั่วไป มีรายได้ประมาณเดือนละ 3,500 บาท ต้องส่งค่าบ้านเดือนละ 16,000 บาท ที่เหลือไว้ใช้จ่ายในบ้าน ทำให้เงินไม่พอจ่ายค่าไฟฟ้าที่บ้าน จนทำให้ไฟที่บ้านถูกตัด ต้องใช้เทียนจุดให้แสงสว่าง เพื่อให้เด็ก ๆ ได้ทำการบ้าน
สามีต้องพึ่งยาเสพติดเพื่อให้ทำงานได้ ตนจึงต้องเสพยาเสพติดด้วย นอกจากนั้น จยย.ก็เสีย ไม่มีรถไปส่งเด็ก ๆ ที่โรงเรียน ซึ่งมีระยะทางไกลเกือบ 30 กม. เด็ก ๆ จึงไม่ค่อยได้ไปโรงเรียน
ตนยืนยันว่ารักลูก แต่ตอนนี้ชีวิตลำบาก ไม่สามารถเลี้ยงดูลูกได้ อยากให้ลูกได้เรียนหนังสือสูง ๆ ตนยินยอมให้ลูกทั้ง 3 ไปอยู่ในความดูแลของ พม. ส่วนตนจะขอไปรักษาบำบัดเลิกยาเสพติด เมื่อมีงานทำ ก็จะกลับมารับลูก ๆ ไปดูแล
สอบปากคำ นายวิชญ์ภาส กล่าวว่า เด็กทั้ง 3 คน ไม่ใช่ลูกตน และยอมรับว่า ตนกับภรรยาทะเลาะกันบ่อย เรื่องการบ้านของเด็ก ๆ ที่ส่วนใหญ่ตนเป็นคนสอนการบ้าน และเรื่องภรรยาไม่ยอมทำความสะอาดบ้าน ส่วนที่บ้านไม่มีไฟฟ้าใช้ เพราะก่อนหน้านี้ ตนแบ่งบ้านให้คนเช่า แล้วคนเช่าไม่จ่ายค่าไฟ และค่าเช่า ทิ้งภาระไว้ให้ตน ซึ่งตอนนี้ ค้างค่าไฟเป็นเงินเกือบ 10,000 บาท เวลาทะเลาะกันกับภรรยาก็จะเสียงดัง เพื่อนบ้านก็จะได้ยิน แต่เพื่อนบ้านก็เข้าใจ
ด้าน นายบอย อายุ 33 ปี เจ้าของร้านขายของชำ บอกว่า เห็นเด็ก 3 คน เดินมาซื้อเทียนที่ร้านเกือบทุกวัน วันละ 5 - 6 เล่ม เพราะบ้านถูกตัดไฟ ส่วนตัวพ่อเลี้ยงก็เคยมาขอชาร์จไฟโทรศัพท์เพื่อโอนเงินจ่ายค่าไฟ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้จ่าย
นอกจากนี้ ยังเคยเอาแบงก์ร้อยปลอมมาซื้อของที่ร้านหลายครั้ง จนตนต้องเอาไปโพสต์แจ้งเตือนในไลน์กลุ่มหมู่บ้าน
แต่ที่ตนเป็นห่วงคือ เคยถามเด็ก ๆ จนรู้ว่า ไม่ได้ไปเรียนหนังสือหลายวันแล้ว ตนจึงนำเรื่องไปคุยกับเพื่อนบ้าน แล้วแจ้งไปที่ เพจ กล้าที่จะก้าว ให้มาช่วยเหลือ
ส่วนเรื่องพ่อแม่ติดยาเสพติดหรือไม่ ตนตอบไม่ได้ แต่รู้ว่า ที่บ้านมีวัยรุ่นขี่ จยย.เข้าออกเยอะมาก และมีแท็กซี่ขับมาจอดนาน ๆ ซึ่งจุดประสงค์ที่ตนร้องเรียน เพราะอยากให้ช่วยเหลือเด็ก ส่วนเรื่องยาเสพติดหรือเรื่องอื่น ๆ ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ
ด้าน นางวาริน วีระสุนทร หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า เบื้องต้น พบว่า มีการเลี้ยงดูเด็กที่ไม่เหมาะสม และต่ำกว่ามาตรฐาน เด็ก ๆ ไม่ได้ไปโรงเรียน เนื่องจากปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายภายในครอบครัว แม่ และพ่อเลี้ยง มีภาระในการจ่ายค่าเช่าบ้านเดือนละหมื่นกว่าบาท ค้างจ่ายค่าไฟ และค่าน้ำ จนต้องซื้อเทียนมาจุด ซึ่งเป็นอันตรายทั้งกับตัวเด็ก ๆ และชุมชน เพราะเสี่ยงเกิดเพลิงไหม้
ทางเจ้าหน้าที่ได้คุยกับแม่เด็กแล้ว พบว่า แม่เด็กเคยคิดจะขอความช่วยเหลือเพื่อให้เด็กได้เรียน และอยู่ในที่ที่เหมาะสม ครั้งนี้ จึงตัดสินใจยกเด็กให้ พม.ดูแล เพื่อให้ได้รับการคุ้มครองสวัสดิภาพ และได้รับการศึกษาอย่างเหมาะสม
ซึ่งตัวเด็ก ๆ เอง ก็อยากเรียนหนังสือ โดยเฉพาะ น้อง อายุ 12 ปี ลูกสาวคนโต ตั้งใจอยากจะเรียนให้จบปริญญาตรี เพื่อจะหางานทำ แล้วกลับมาดูแลแม่กับน้อง ๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่สอบถามเด็ก ๆ แล้ว พบว่า พร้อมที่จะออกจากบ้าน ห่างจากแม่ชั่วคราว เพื่ออนาคตใหม่ เพื่อการศึกษา และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนนทบุรี นำตัวเด็กทั้ง 3 คนไปดูแล เนื่องจากเด็กทั้ง 3 คน ยังไม่มีบัตรประชาชน และไม่ได้แจ้งเข้าทะเบียนบ้าน จึงต้องดำเนินการทั้งหมดก่อน
นอกจากนี้ ยังประสานไปทางโรงเรียนเดิม เพื่อตรวจสอบประวัติการเรียน และจะย้ายเด็กเข้าโรงเรียนประจำในหน่วยงานของกระทรวง พม. เพื่อให้ได้เรียนหนังสือ จนกว่าแม่จะมีความพร้อมในการรับเด็กไปดูแลต่อไป
---------------------------------
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/Gg9sb-vKo9U
แท็กที่เกี่ยวข้อง สภ.ไทรน้อย ,พม. ,นนทบุรี