ทาสยาบ้า ทำร้าย-ข่มขืน ด.ญ. 1 ขวบ 9 เดือน สาหัส ตร.จับได้ ชาวบ้านฮือรุมประชาทัณฑ์

เมื่อวันที่ 7 ก.ค.67 ตำรวจ สภ.องครักษ์ จ.นครนายก ได้รับแจ้งจาก นางสาวกัญญา อายุ 21 ปี ซึ่งเป็นป้าของ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 1 ขวบ 9 เดือน ว่า หลานสาวถูก นายพิชิต ทำร้ายร่างกาย และข่มขืนกระทำชำเรา จนอวัยวะเพศฉีกขาด ญาตินำตัวส่งไปรักษาอยู่ที่ห้องไอซียู โรงพยาบาลนครนายก ตั้งแต่ตอนหัวค่ำ ของคืนวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา เด็กอาการสาหัสมาก    


เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำกำลังไปจับตัวนายพิชิต ที่บ้านพัก และกำลังจะนำตัวมาสอบสวน แต่ถูกชาวบ้านที่ทราบข่าวรุมประชาทัณฑ์ จนสะบักสะบอม


จากการสอบสวนในเบื้องต้น นายพิชิต ผู้ต้องหา ให้การวกวน แต่สุดท้ายยอมรับว่า ทำร้ายร่างกายและข่มขืนจริง เนื่องจากว่าเสพยาบ้าจนเกิดอารมณ์ ส่วนสาเหตุที่ต้องทำร้ายร่างกายของเด็ก เนื่องจากว่าเด็กร้องไห้เสียงดัง เลยโมโหจนต้องทำร้ายเด็ก และนายพิชิต ผู้ต้องหา ยังยอมรับสารภาพอีกว่า เสพยาบ้าจนติดงอมแงมมากว่า 20 ปี และผลการตรวจปัสสาวะก็ปรากฏว่าสีม่วง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงส่งตัวเข้าห้องขัง เพื่อเตรียมส่งฟ้องศาลต่อไป


ขณะที่ นางสาวกัญญา ป้าของเด็ก เล่าว่า พ่อแม่ของเลิกรากัน จึงจ้างคนรู้จัก คือ ภรรยาของนายพิชิต รับเลี้ยงน้อง แต่วันเกิดเหตุภรรยาของนายพิชิตไม่อยู่ ปล่อยน้องไว้กับนายพิชิตตามลำพัง ตนเองซึ่งเป็นป้า มารู้เรื่องก็ตอนที่ญาติของนายพิชิต โทรมาบอกว่า น้องตกบันได ไม่ได้สติตั้งแต่คืนวันที่ 5 ก.ค. และนำตัวส่งโรงพยาบาลเข้าห้องไอซียู ตนเองจึงรีบลางานจากจังหวัดนนทบุรี เพื่อมาดูหลาน พอได้เห็นสภาพหลาน ตามร่างกายมีรอยเขียวช้ำทั่วตัว ซึ่งไม่น่ามาจากการตกบันได และที่สำคัญมีอาการเลือดคั่งในสมอง น่าจะมาจากการโดนทำร้ายร่างกาย ซึ่งหมอที่ดูแลอาการหลานสาว ก็บอกว่าหลานไม่ได้ตกบันได แต่ถูกทำร้ายร่างกายและถูกข่มขืน ตนจึงไปแจ้งความเพื่อให้ตำรวจจับกุมตัวนายพิชิต


ป้าของเด็ก ยังบอกด้วยว่า ตนเองก็มีหลักฐานเป็นข้อความแชท ที่ส่งไปถามลูกสาวของนายพิชิต ว่าน้องเป็นอะไร ลูกสาวของนายพิชิต ยอมรับว่าพ่อตัวเองเป็นคนทำร้าย โดยใช้ไม้ตี และตัวนายพิชิตก็ยอมรับเองว่าทำร้ายจริง แต่พอถูกตำรวจจับ กลับให้การปฏิเสธ และตนทราบมาด้วยว่า นายพิชิตเสพยาเสพติดด้วย    


ด้าน นายชวิน อายุ 18 ปี พ่อของเด็ก เล่าว่า ตนแยกทางกับภรรยา และต้องไปทำงานต่างจังหวัด จึงฝากพี่สาวหาคนเลี้ยงลูกให้ จนกระทั่งพี่สาวโทรมาบอกว่า ลูกสาวของตนเข้าโรงพยาบาล อาการสาหัส เมื่อตนไปเยี่ยมลูกสาว เห็นสภาพแล้วก็เชื่อว่า ลูกไม่ได้ตกบันไดแน่นอน แต่น่าจะถูกทำร้ายร่างกาย โดยญาติ ๆ ของตน พอรู้เรื่องว่าน้องถูกทำร้าย ก็พากันไปควมคุมตัวนายพิชิต และเค้นถาม จนนายพิชิตยอมรับว่าทำร้ายน้องจริง ๆ แต่พอตำรวจมา นายพิชิตก็กลับคำให้การ ก่อนจะถูกตำรวจคุมตัวไปสอบปากคำที่โรงพัก จนสุดท้ายจึงสารภาพว่า ข่มขืนและทำร้ายลูกสาวของตนจริง ๆ ตนอยากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เรียกร้องความเป็นธรรมให้ลูกสาวของตนด้วย  


ขณะที่ผู้สื่อข่าวไปพูดคุยกับ นายวราวุฒิ หรือ นายเพชร เพื่อนของผู้ต้องหา และพาไปชี้จุดที่ผู้ต้องหาทำร้ายน้อง พร้อมเล่าว่า วันเกิดเหตุ ตนนอนเล่นอยู่ในบ้านของผู้ต้องหาด้วย และได้ยินเสียงร้อง จึงเดินไปดูว่าเด็กร้องอะไร เห็นผู้ต้องหากำลังเอาเทปใสมัดแขนมัดขาและปิดปากเด็ก ตนจึงร้องถามว่าทำแบบน้ำทำไม สงสารเด็ก แต่ผู้ต้องหาบอกว่า อย่ามายุ่งนี่หลานกู ตนจึงต้องเดินออกมาจากบ้าน ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเคยเห็นผู้ต้องหาทำร้ายร่างกายเด็กหลายครั้ง เนื่องจากเด็กจะปัสสาวะหรืออุจจาระเลอะที่นอน ผู้ต้องหาก็จะตีและเตะน้อง


ส่วนที่อ้างว่าน้องตกบันได ก็ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะบ้านของผู้ต้องหาไม่มีบันได มีแค่ตัวบ้านที่ยกพื้นขึ้นมาเล็กน้อย และตนทราบว่า ผู้ต้องหาเสพยาเสพติดทุกวันด้วย อาจจะหลอนยาและทำร้ายเด็ก


ขณะที่อาการของเด็ก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงพยาบาลนครนายกแจ้งว่า น้องความดันลดลง อาการยังคงน่าเป็นห่วง แพทย์ต้องเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/EHMgu5Ve1Mk