2 ผู้เสียหายแจ้งความ ถูกหลอกทำวีซาแต่ไม่ผ่าน สูญเงินกว่า 3 แสนบาท

นางสาวบีม (นามสมมติ) อายุ 42 ปี พร้อมด้วย นางปลา (นามสมมติ) อายุ 43 ปี เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ ให้ดำเนินคดีกับ นางสาวพิมพ์ประภา อายุ อายุ 27 ปี เจ้าของ บริษัทฯ แห่งหนึ่งใน ตำบลเวียงมอก อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง



หลังจากผู้เสียหาย คือนางสาวบีม และนางปลา ได้ติดต่อกับ นางสาวพิมพ์ประภา ผ่านทางเฟซบุ๊ก ซึ่งนางพิมพ์ประภา ได้โพสต์ขอความรับทำวีซาท่องเที่ยวประเทศเกาหลี แต่เมื่อ นางสาวบีม ติดต่อสื่อสารกลับไปหา นางสาวพิมพ์ประภา ได้ชักชวนให้เดินทางไปทำงานที่ประเทศเกาหลี โดยไม่ผ่านหลักเกณฑ์ของสำนักงานจัดหางาน กระทรวงแรงงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยแนะนำให้ผู้เสียหายยื่นขอวีซาทำศัยกรรมในการเดินทาง เสียค่าใช้จ่ายค่าทำวีซาศัลยกรรม คนละ 75,000 บาท ค่ามัดจำเพื่อยืนยันจะไปทำงานจริงอีก 50,000 บาท รวมถึงค่าจองตั๋วเครื่องบิน และค่าที่พัก รวมค่าใช้จ่ายที่ นางสาวบีมและสามีถูกหลอกให้โอนเข้าบัญชีนางพิมพ์ประภา จำนวนทั้งสิ้น กว่า 310,000 บาท



ต่อมานางพิมพ์ประภา ได้ทำหนังสือเป็นสัญญาคืนเงินให้ผู้เสียหาย ขึ้นมาเองโดยที่ผู้เสียหายไม่ได้ยินยอม ส่งมาให้ผู้เสียทางไปรษณีย์ เพื่อเลี่ยงถูกดำเนินคดีทางอาญาแต่ให้ผู้เสียหายฟ้องทางแพ่งเอา พร้อมกับกำหนดยอดเงินที่จะทยอยส่งเงินคืนให้กับผู้เสียหายเป็นงวดๆ พร้อมกับหักค่าดำเนินการขอยื่นวีซาแต่ไม่ผ่านเป็นจำนวนเงิน 289,589 บาท ซึ่งเวลาผ่านไปนับปีนางสาวพิมพ์ประภา ก็ไม่เคยคืนเงินมาแม้แต่บาทเดียว



เช่นเดียวกับ นางปลา พร้อมสามี และหลานชาย ก็ยังตกเป็นเหยื่อของ นางสาวพิมพ์ประภา ด้วยเช่นกัน สูญเงินไป จำนวน 106,171 บาท



นางปลาเล่าว่า ตนพร้อมด้วยสามี และหลานชาย ถูกนางสาวพิมพ์ประภา ชักชวนด้วยการจัดหานายจ้างมาให้ไปทำงานที่ประเทศออสเตรเลีย โดยขอวีซาท่องเที่ยวโดยไม่ผ่านหลักเกณฑ์ของกระทรวงแรงงาน



โดยนางพิมพ์ประภา แนะนำว่าเมื่อไปถึงประเทศออสเตรเลียแล้ว ให้แยกจากคณะทัวร์ เพราะจะมีนายจ้างมารอรับที่สนามบิน หรือโรงแรมที่จองไว้ จากนั้นจะมีนายจ้างมารับเราไปทำงานที่สวนสตรอเบอรี่ ตนหลงเชื่อจึงโอนเงินให้กับนางพิมพ์ประภาไป



ต่อมานางพิมพ์ประภา บอกว่าหลานชายวีซาท่องเที่ยวไม่ผ่าน และให้เปลี่ยนเป็นขอวีซานักศึกษาแทน ตนก็โอนเงินให้ไปอีก จนป่านนี้เรื่องการขอวีซาก็ยังไม่คืบหน้า ตนรู้สึกว่าผิดปกติจึงได้เข้าแจ้งความร้แงทุกกับพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับนางพิมพ์ประภา พร้อมกับคืนเงินที่โอนให้ทั้งหมดกลับคืนมา และขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการให้ถึงที่สุด



ด้าน พ.ต.ท.ภิไชย จันทะวงษ์ รอง ผกก.สอบสวน สภ.นาคู เปิดเผยว่า หลังจากพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานแล้วเสร็จ จะได้เรียกผู้ถูกกล่าวมาสอบปากคำตามกระบวนการ เบื้องต้นทราบว่า พนักงานสอบสวนได้อายัดบัญชีธนาคารผู้ถูกกล่าวหาเอาไว้ก่อนแล้ว



ขณะที่ นายประภาส พรหมคำบุตร อดีตจัดหางานจังหวัดกาฬสินธุ์ ฝากเตือนแรงานไทยที่คิดจะเดินทางไปทำงานโดยไม่ผ่านกระทรวงแรงงาน อย่างได้ไปหลงเชื่อการชักชวนมิชฉาชีพ หากต้องการที่จะไปทำงานต่างประเทศแล้ว ยอมเสียเงินไปเรียนภาษาเพียงนิดหน่อย ก็จะไม่เสี่ยงต่อการถูกหลอกให้สูญเงินเป็นแสนๆ บาท แถมเมื่อไปถึงประเทศปลายทางก็ยังเสี่ยงถูกจับดำเนินคดีตามกฎหมายของประเทศนั้นๆ อีกต่างหาก