'ม.พิษณุโลก' โต้เอี่ยวขายวุฒิการศึกษา - 'ต้นอ้อ' ขออภัย 'สมคิด' ถูกพาดพิง ขอโทษสังคมทำให้ผิดหวัง

ม.พิษณุโลก แจงการซื้อขายวุฒิการศึกษา ระบุไม่รู้จัก คุณต้นอ้อ พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และดำเนินกฎหมาย แก่ผู้ที่ทำให้มหาวิทยาลัยเสียหาย

ช่วงสายวานนี้ (3 ก.ค.) ผู้บริหารมหาวิทยาลัยพิษณุโลก ประกอบด้วย ดร.มานพ เกตุเมฆ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร นายชาตรี จำลองกุล นิติกร ว่าที่ ร.ต.ดร.สุนิมิต ชุ่มพงษ์ คณบดีคระรัฐประศาสนศาสตร์ ได้ร่วมกันแถลงข่าว กรณีมีการแอบอ้างหลอกขายวุฒิการศึกษาเพื่อเรียกรับเงิน ในราคา 200,000 บาท ซึ่งกำลังเป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้

ดร.มานพ ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง มหาวิทยาลัยไม่มีเรื่องการซื้อขายวุฒิการศึกษาแต่อย่างใด จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า นักศึกษารายดังกล่าวที่ออกมาให้ข่าว ได้เข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยพิษณุโลกจริง แต่เพิ่งเข้ามาเรียนได้ไม่นาน โดยมาสมัครเรียน เมื่อวันที่ 8 พ.ย.2566 มีค่าสมัครเข้าเรียน 1,500 บาท และลงทะเบียน 130,000 บาท ส่วนที่มีการอ้างว่าเสียหายเป็นเงิน 2-3 แสนบาท ไม่เป็นความจริง

ดร.มานพ กล่าวด้วยว่า สำหรับ คุณต้นอ้อ ทางมหาวิทยาลัยไม่รู้จักมาก่อน และไม่รู้ว่าที่มาที่ไปเป็นอย่างไร หลังจากนี้จะให้นิติกรของมหาวิทยาลัย ดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ทำให้มหาวิทยาลัยเสียหาย

นายชาตรี นิติกร กล่าวว่า หลังทราบข่าว ทางมหาวิทยาลัยไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้มหาวิทยาลัยได้รับความเสียหาย และในช่วงบ่ายทางคณะผู้บริหารของมหาวิทยาลัย ได้มีการประชุมเพื่อรับทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

ว่าที่ร้อยตรี ดร.สุนิมิต ชุ่มพงษ์ คณบดีคณะรัฐประศาสนศาสตร์ กล่าวว่า นักศึกษาที่เป็นผู้เสียหายคนดังกล่าว ได้มาลงทะเบียนเรียนเป็นเงินทั้งสิ้น 130,000 บาท และค่าสมัครแรกเข้า 1,500 บาท เรียนทั้งหมด 6 เทอม 3 ปี จำนวน 41 รายวิชา ยืนยันว่าขณะนี้นักศึกษาคนดังกล่าวยังคงมีสภาพการเป็นนักศึกษา ซึ่งเริ่มเรียนในภาคเรียนที่ 2 เมื่อปีการศึกษาที่ผ่านมา หลังปรากฎเป็นข่าวมหาวิทยาลัยได้พยายามติดต่อนักศึกษารายนี้ แต่ไม่ยอมรับสาย คงต้องเรียกตัวมาพูดคุยว่าทำไปเพื่ออะไร และอาจจะมีการฟ้องร้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

---------------------------------------

รองเลขานายกฯ ส่งทนาย ลงบันทึกประจำวัน สน.นางเลิ้ง หลังถูกนำชื่อแอบอ้าง ช่วยซื้อขายตำแหน่ง ด้าน "ต้นอ้อ" ยันไม่จริง เรียกรับเงินแลกออกบัตรคณะทำงาน "รองเลขา นายกฯ"

วานนี้ (3 ก.ค.) นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง กล่าวชี้แจงถึง กรณีที่มีเพจหนึ่งแอบอ้าง ว่า สามารถออกบัตรเป็นคณะทำงานของรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้ โดยมีค่าใช้จ่าย 60,000 บาท ว่า เรื่องนี้เกิดจากผู้ที่ตนเคยออกบัตรให้ ซึ่งเป็นผู้ประสานงานกับพรรคเพื่อไทย มีการนำบัตรดังกล่าวไปอวดในกลุ่มไลน์ของมูลนิธิหนึ่ง (มูลนิธิ​เป็นหนึ่ง)​ และจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ เกิดจากการซื้อขายใบปริญญา จากมหาวิทยาลัยหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก ในราคา 200,000 บาท ซึ่งก็มีการถกเถียงเรื่องของราคาที่ไม่เท่ากัน จากนั้น ก็มีการพูดถึงอีก 1 ตำแหน่งหากต้องการทำงานในทำเนียบรัฐบาล เป็นทีมงานของรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ซึ่งตอนแรกตนไม่ติดใจ แต่ด้านล่างของแชทมีมีรูปของตนโดยตรง จึงขอดำเนินคดีตามกฎหมายกับเจ้าของเพจ นั้นก็คือ คุณต้นอ้อ โดยจะเดินทางไปแจ้งความที่สถานีตำรวจในช่วงบ่าย โดยส่วนตัวไม่ทราบว่าเขาเกี่ยวข้องหรือไม่แต่การแจ้งความก็เพื่อให้ทุกอย่างเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และได้รับการตรวจสอบ ว่าใครถูกใครผิด

ก่อนจะยืนยันว่าตนไม่เคยมีเรื่องการซื้อขายตำแหน่งใดๆ เพราะไม่กล้าทำ และไม่มีใครกล้าทำด้วย ยิ่งตอนทำงานกับทำเนียบรัฐบาลแบบนี้ ยิ่งต้องระมัดระวัง คนที่เอาชื่อไปอ้างตนก็รู้จักเขาเคยอยู่พรรคเพื่อไทยมาก่อน ทุกคนก็รู้หมดว่าเป็นใคร

"เมื่อคืนนี้ ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง โทรมาขอโทษแล้ว รวมถึงมีการโพสต์ขอโทษเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งตนไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว จึงไม่ทราบว่านำเบอร์มาจากใคร แต่จากตอนที่อ่านข้อความทั้งหมดแล้ว แม้จะขอโทษ แต่ทีมกฎหมายบอกว่า ถ้าไม่แจ้งความดำเนินคดี เหมือนกับเรารู้เห็น และเขาจะไปทำกับคนอื่นได้ ส่วนใครจะผิดหรือถูกตนไม่รู้"

นายสมคิด ยังได้กล่าวต่อได้ว่า วันนี้ได้ทำหนังสือยกเลิกบัตรเข้า-ออกทำเนียบ ของคณะทำงานทั้งหมด 14 คน ไม่อยากไปเช็คว่าใครดีใครเลว เอาเป็นว่าใครอยากมาพบอยากมาประสานงาน จะไม่ให้บัตรอีกแล้ว ไปแลกเอา เพราะไปใช้บัตรในทางที่ไม่ถูก ไม่ตรงกับเจตนาในการทำงาน

ส่วนคนที่นำบัตรไปอวดจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการแอบอ้างในเรื่องนี้หรือไม่ตนยังไม่ทราบ แต่เห็นหน้าชัดเจนใน LINE กลุ่ม และเจ้าตัวก็มาชี้แจงว่าถูกแอบอ้างเหมือนกัน ก็ต้องไปต่อสู้กันในชั้นคดี

ส่วนเรื่องการซื้อขายใบปริญญา ตนไม่ทราบรายละเอียด โดยคุณต้นอ้อ แจ้งว่า เดี๋ยวจะเป็นคนแฉเอง จะระบุว่าอยากทำดีกับสังคมไม่มีใครห้าม แต่อย่าให้มีเรื่องนี้เกิดขึ้น เพราะมันกระทบอย่างคนอื่น ตนก็ไม่รู้อีโหน่อีแหน่ไป​ก็มากระทบด้วย

ต่อมานายชุมสาย ศรียาภัย ทนายความที่ได้รับมอบอำนาจจาก นายสมคิดเชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังเดินทางเข้าลงบันทึกประจำวัน ว่า ตนได้รับมอบอำนาจจากนายสมคิด ในการเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อที่จะทำการลงบันทึกประจำวัน ว่ามีบุคคลหรือคณะบุคคลได้มีการแอบทั้งการใช้ชื่อ ภาพ และตำแหน่งในการไปแสวงหาประโยชน์ ตามที่เป็นข่าว เพื่อดำเนินการไว้เป็นหลักฐานว่ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น โดยนายสมคิดยืนยันว่าไม่รู้ ไม่เกี่ยวข้อง หรือรู้จักกับบุคคลเหล่านี้ และไม่มีนโยบายลักษณะนี้ด้วย อย่างไรก็ตามนายสมคิด ถือเป็นคนที่มีความซื่อสัตย์สุจริต เป็นนักการเมืองน้ำดี เป็นอดีตสส. อุบลราชธานี และเป็นอดีตรองประธานวิปฝ่ายค้าน ซึ่งวันนี้ได้รับความไว้วางใจให้มีตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นนี้เขารับไม่ได้และยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องแน่นอน หากมีการเอาชื่อตำแหน่งไปหากินหรือหาประโยชน์ตามที่เป็นข่าว จะดำเนินคดีจนถึงที่สุดหากเป็นผู้เสียหาย

ส่วนที่ดำเนินการลงบันทึกประจำวันไว้ เนื่องจากในทางคดี ทางกฎหมายการจะมาแจ้งความร้องทุกข์ได้ต้องเป็นผู้เสียหาย เช่น เป็นผู้ที่ถูกเรียกเงินเรียกทอง หรือถูกตบทรัพย์ ซึ่งนายสมคิดเป็นผู้เสียหายในทางคดี ในแง่การถูกแอบอ้างชื่อ ซึ่งไม่ได้เป็นความผิดทางกฎหมาย แต่สิ่งที่เสียหายคือการเสียชื่อเสียง ในฐานะผู้มีตำแหน่งหน้าที่การงานในทางการเมือง จึงมอบให้ตนมาบันทึกประจำวันเพื่อที่จะยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวข้อง และฝากให้ระวังกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้

นายชุมสาย ระบุว่า หากเกิดความเสียหายเกิดขึ้นกับผู้ใด ที่ได้จ่ายเงินจ่ายทองไปแล้วนั้น ขอให้ทางผู้เสียหาย ได้มีการไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน พร้อมกันนี้ฝากเตือนไปยังพี่น้องประชาชนอย่าหลงเชื่อกลุ่มบุคคลมิจฉาชีพ ตามที่อาจจะปรากฏเป็นข่าวว่ามีการช่วยเหลือซื้อขายตำแหน่ง ขอให้มีความระวังและอย่าให้เกิดความเสียหายแบบนี้ขึ้น

“นายสมคิด เหมือนต้นไม้ใหญ่ ที่มีลูกหลานเข้ามาพบปะ มาขอความช่วยเหลือพึ่งพา ซึ่งเขาเป็นเป็นคนมีความมีเมตตาสูง ไม่ได้ใจร้ายใจดำ แต่คนที่เข้ามานั้นมีหลากหลาย จึงฝากให้ประชาชนระวัง พร้อมยืนยันว่า คนที่เป็นข่าวในขณะนี้ไม่ได้รู้จักหรือมีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นด้วยแต่อย่างใด พร้อมรับว่าเป็นครั้งแรกที่เจอกับเหตุการณ์แบบนี้”

ด้าน ต้นอ้อ ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง ที่ถูกอ้างชื่อในแชท ดังกล่าว เปิดเผยว่า เรื่องทั้งหมด ไม่เป็นความจริง และยืนยันว่าตนไม่รู้จัก คุณสมคิด เชื้อคง รองเลขานายกรัฐมนตรี เมื่อวานได้ให้ผู้ใหญ่โทรประสาน กราบขอโทษแล้ว ยอมรับว่ามีเพื่อนคนหนึ่งที่รู้จักกันมาขอให้ทำบัตรประจำตัวคณะงานรองเลขารัฐมนตรีจริง  

คุณต้นอ้อ บอกด้วยว่า ตอนนี้ตนได้ปรึกษากับทนายอนันต์ชัย ไชยเดช แล้ว กำลังรวบรวมพยานหลักฐานฟ้องข้อหาหมิ่นประมาทกับคนที่เอาเรื่องของตนออกมาพูด

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/G_yiRG66OmQ