สังคม
หนุ่มวอนซาเล้งส่งคืนกล้องถ่ายภาพ เผยมีรูปคุณแม่ที่จากไปแล้ว ซ้ำยังไม่ได้ล้างภาพเก็บไว้
โดย paranee_s
2 ก.ค. 2567
369 views
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ปวริศร์ สันตระกูล ได้โพสต์คลิปจากกล้องวงจรปิดตามหาชายเก็บของเก่า หลังจากได้เก็บถุงทรัพย์สินที่ตกจากท้ายรถกระบะไป โดยระบุข้อความว่า “ใครอยู่แถวท่าน้ำนนท์พิบูลสงครามหรือเส้นพระราม 5 พบเห็นชาย นิรนามคนนี้รบกวนติดต่อผมหน่อยนะครับ วันที่ 30/6/67 เวลาประมาณ15.00 น. มีรถกระบะสี่ประตูสีบรอนซ์เทาได้ทำถุงดำใบใหญ่ร่วงตกจากท้ายกระบะ บริเวร 3 แยกทางไปท่าน้ำนนท์และเลี่ยงเมือง มีพลเมืองดี 2 ท่านและชายนิรนามเก็บจากถนนไปวางข้างทางเท้า ต่อมาชายนิรนามที่ขับซาเล้งได้นำของทั้งหมดที่ร่วงขึ้นซาเล้งไปโดยในถุงมีเอกสารสำคัญและสิ่งที่มีคุณค่าทางจิตใจ”
วันนี้ (2 ก.ค. 67) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังที่เกิดเหตุบริเวณแยกสปีดไทม์ ถ.เลี่ยงเมืองนนทบุรี ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี สอบถามนายปวริศร์ อายุ 23 นักศึกษาปี 3 มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าพระนคร และน.ส.อัญชลิสา แฟนสาวอายุ 21 ปี เจ้าของโพสต์เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.67 เวลาประมาณ 15.00 น. ตนและแฟนสาวพร้อมคุณพ่อได้ช่วยกันเก็บของขนของย้ายห้องย่าน ถ.พิบูลสงคราม ใส่รถกระบะย้ายไปอยู่ห้องเช่าย่านปากเกร็ด จ.นนทบุรี
โดยคุณพ่อตนเป็นคนขับรถกระบะ ส่วนตนขับรถจักรยานยนต์ โดยตนและแฟนขาวได้ขับนำคุณพ่อไปก่อน เพื่อไปเปิดห้องเช่าใหม่ แล้วได้เปิด GPS ให้คุณพ่อขับตามมา เพราะคุณพ่อไม่รู้ทาง ซึ่งขณะที่กำลังเดินทางปรากฏว่าคุณพ่อหลงทาง ได้ขับมาบริเวณจุดเกิดเหตุก็คือแยกสปีดไทม์ และทำถุงทรัพย์สินที่อยู่ท้ายกระบะตก แต่ไม่รู้ตัวจึงขับไปถึงที่หมายตามปกติ
ปรากฏว่าขณะถึงที่พัก ตนและแฟนสาวได้ตรวจสอบทรัพย์สินหลังรถกระบะ พบว่ามีถุงดำที่ใส่ทรัพย์สินของตนได้หายไป 1 ถุง ซึ่งในถุงมีทรัพย์สินที่อยู่ในถุงหายไป คือ 1.กล้องฟูจิ ราคาประมาณ 20,000 บาท 2. อุปกรณ์เครื่องมือช่าง 3. บัตรเอกสารทำงานต่างๆ 4. เสื้อผ้าและกระเป๋าสะพาย รวมมูลค่ากว่า 30,000 บาท หลังจากช่วยกันหาแล้วไม่พบ จึงรีบช่วยกันออกตามหาตามเส้นทางที่ได้เดินทางมาห้องพักไปโรงพักทั้งหมด 4 โรงพัก ใช้เวลาประมาณ 2 วัน ในการหาหลักฐาน
โดยตนและแฟนได้ตามหาจนทั่วผ่านตรงไหนที่มีถุงขยะสีดำ ตนได้ใช้มีดกรีดดูเพื่อตามหาทรัพย์สินของตน จนกระทั่งวันเมื่อวานวันที่ 1 ก.ค.67 ตนทราบว่าพื้นที่เกิดเหตุที่รับผิดชอบคือ สภ.เมืองนนทบุรี จึงไปดำเนินการแจ้งความแล้วทำเรื่องยื่นหนังสือขอดูกล้องวงจรปิดกับทางเทศบาลนครนนทบุรี จึงพบหลักฐานวันที่ 30 มิ.ย.67 เวลาประมาณ 15.00 น. พ่อตนได้ทำของหล่นบริเวณกลางถนนบริเวณแยกสปีดไทม์คาดเกิดจากการเปลี่ยนเกียร์ แล้วรถกระชาก
ผ่านไปไม่ถึง 1 นาที จากนั้นได้มีชายอายุ 40 ปี สวมหมวกไหมพรม ใส่เสื้อเชิ้ตลายพราง กางเกงขายาวสีดำ ขับรถซาเล้งสีแดง ได้ขับมาจอดบริเวณเลนขวาของถนน จากนั้นได้เดินลงจากรถซาเล้งแล้วเดินไปเก็บถุงดำ และทรัพย์สินที่ตกอยู่บริเวณถนน จากนั้นก็ได้มีพลเมืองดีเป็นผู้หญิง 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ มาบริเวณจุดเกิดเหตุได้ช่วยเก็บยกของทรัพย์สินที่ตกอยู่ถนนไว้ริมทางเท้า
และพลเมืองดีทั้ง 2 รายได้ขับรถออกไปจากที่เกิดเหตุ ส่วนชายขับซาเล้งได้รีบวิ่งข้ามถนนไปเอารถซาเล้งขับมายกถุงดำทรัพย์สินของตนขึ้นรถแล้วขับออกไปมุ่งหน้าไปยัง ถ.เลี่ยงเมืองนนท์ โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกไว้ได้
วันนี้จึงนำเรื่องมาร้องเรียนกับสื่อมวลชนให้ช่วยเป็นกระบอกเสียงในการตามหาคนขับซาเล้งดังกล่าวให้นำทรัพย์สินมาคืน เนื่องจากเป็นทรัพย์สินที่มีคุณค่าทางจิตใจที่ไม่สามารถใช้เงินมาซื้อได้แล้ว โดยภายในถุงจะมีกล้องดิจิตอล ซึ่งทางคุณพ่อได้ซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิด ภายในกล้องมีการถ่ายภาพครอบครัวคุณพ่อและคุณแม่เก็บไว้จำนวนมากตอนที่อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน ซึ่งตนจะเก็บไว้ดู เพราะแม่ตนได้เสียชีวิตไปแล้ว ส่วนพ่อได้แยกกันอยู่กับตน ไปทำงานอยู่ต่างจังหวัด
ซึ่งภาพในกล้องตนยังไม่ได้โหลดไฟล์ภาพมา หรือล้างรูปเก็บไว้ จึงอยากฝากถึงเจ้าของรถซาเล้งที่เก็บของตนไปว่า อยากให้นำของมาคืน ตนจะไม่เอาเรื่องใด ๆ ทั้งสิ้น กล้องที่หายไปมันมีมูลค่าก็จริง แต่ตนสามารถเก็บเงินซื้อได้อยู่แล้ว แต่สิ่งที่ซื้อไม่ได้คือภาพที่มีคุณค่าทางจิตใจ หากคนเก็บได้นำไปขายทางร้านที่รับซื้ออาจจะลบภาพไปทั้งหมด
ทั้งนี้จึงอยากให้รีบนำมาคืนติดต่อมาที่ตนหรือไปที่สภ.เมืองนนทบุรี และสุดท้ายฝากถึงตำรวจสภ.เมืองนนทบุรี ให้ช่วยติดตามตัวรถซาเล้งมาดำเนินการตนอยากได้ของคืนจริงๆ คาดว่าน่าจะเป็นคนพื้นที่อยู่ในละแวกนี้
ทางด้านนายเอ (นามสมมุติ) ชาวบ้านในพื้นที่ เผยว่า รถซาเล้งคันนี้เห็นเป็นประจำ เพราะจำได้ คนขับชอบใส่หมวกไหมพรมปิดบังใบหน้า ลักษณะดูไม่น่าไว้ใจ ชายคนนี้ขับขี่มาเป็นประจำ แต่จะขับมาช่วงเย็น และช่วงค่ำมารื้อขยะเกลื่อนไปหมด พอน้องนำภาพมาให้ดูจำได้ทันที คนแถวนี้ก็มักจะจับตามองซาเล้งคันนี้ เพราะห่วงว่าจะถูกขโมยของ