สังคม
สลดใจ พ่อผูกคอลาโลก เครียดลูกถูกปรับ 1 พัน คดีทะเลาะวิวาท พ้อเรามันจน หวังเงินค่าทำศพช่วยลูก
โดย petchpawee_k
2 ก.ค. 2567
30 views
เศร้า พ่อปลิดชีพตัวเอง หวังเงินฌาปนกิจช่วยลูกพ้นคดี เพราะเข้าใจผิด ว่าลูกถูกปรับ 1,000 บาท ตำรวจไกล่เกลี่ย 2 ฝ่าย ส่งฟ้อง ด้านผู้ก่อเหตุบอก ถูกเด็กด่า เลยโมโหทำร้ายเด็ก
จากกรณีคุณพ่อวัย 63 ปี ตัดสินใจผูกคอตาย เพื่อร้องขอความเป็นธรรมให้กับลูกชาย ที่โดนผู้ปกครองของเพื่อนทำร้ายร่างกายจนเบ้าตาเขียวปูดและยังถูกคู่กรณีข่มขู่ ไปแจ้งความแล้ว แต่คดีไม่คืบหน้า
เมื่อวานนี้ (1 ก.ค.67) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดบางบอน ต.หัวโพธิ์ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ นายสาคร อายุ 63 ปี และได้พบกับนายเสกสรร อายุ 29 ปี ลูกชายคนโตของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ครอบครัวตน มีกันอยู่ 3 คน คือพ่อตนเองซึ่งเป็นลูกชายคนโต ไปทำงานอยู่ต่างจังหวัด และน้องชายคนเล็กอายุ 14 ปี ส่วนคุณแม่เสียชีวิตไปนานแล้ว ตัวคุณพ่อเองประกอบอาชีพทั่วไป แต่ก็ป่วยมีโรคประจำตัว จนกระทั่งมาทราบเรื่องว่า ลูกชายคนเล็ก ถูกผู้ปกครองของเพื่อนในโรงเรียนทำร้ายร่างกาย เมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้พ่อเครียด ผูกคอตัวเองและเขียนจดหมายสั่งเสียไว้
นายเสกสรร ลูกชายคนโตของผู้ตาย เล่าต้นเหตุที่เกิดขึ้น มาจากการที่น้องชายคนเล็กไปเตะบอลกับเพื่อน แล้วมีปากเสียงกับเพื่อนที่เล่นด้วยกัน พ่อของเด็กคนนั้นเห็นว่ากำลังทะเลาะกัน จึงเข้ามาต่อว่าและข่มขู่น้องชาย แล้วมีปากเสียงกันอีก ซึ่งน้องบอกว่า ฝั่งคู่กรณีเมาสุราอยู่ด้วย จึงต่อยน้องชายจนตาเขียวปูด แล้วกลับบ้านไป
ส่วนน้องชายมาเล่าให้พ่อฟัง รุ่งขึ้นจึงไปแจ้งความที่ สภ.สองพี่น้อง ซึ่งตำรวจบอกว่า เป็นเหตุทะเลาะวิวาท จึงเรียกไปไกล่เกลี่ยกับคู่กรณี และร้อยเวรเรียกค่าปรับฝ่ายละ 1,000 บาท แต่พ่อไม่มีเงิน จึงโทรไปบอกตนที่ทำงานอยู่ต่างจังหวัด หลังจากนั้น 3 คนพ่อลูกก็มานั่งคุยกัน พ่อพูดออกมาประโยคหนึ่งว่า “เรามันคนจน จะไปสู้อะไรกับเขาได้ เงินไม่มี ถ้าเรามีเงินก็สู้เขาได้ มีทางเดียวที่จะมีเงิน คือเงินฌาปนกิจพ่อ”
ซึ่งพ่อของตนมีเงินฌาปนกิจหมู่บ้านอยู่ ตนจึงห้ามพ่อว่าอย่าคิดแบบนั้น ก่อนจะแยกย้ายกันไปนอน จนกระทั่งประมาณตี 4 ของอีกวัน น้องชายคนเล็กตื่นขึ้นมาเพื่อจะไปหาปลาไปขายที่ตลาด แต่ก็ต้องตกใจสุดขีด เพราะพ่อผูกคอตัวเองเสียชีวิตไปแล้ว น้องช็อกหนักมากรีบไปเรียกญาติมาช่วยพาส่งโรงพยาบาล ที่น่าหดหู่คือ วันจัดงานศพ แม้แต่โลงจะใส่ก็ยังไม่มี ทางญาติๆ ต้องมาช่วยงานและทางวัดช่วยหาโลงให้
ลูกชายคนโต บอกว่า คดีที่น้องชายโดนต่อย ผ่านมา 1 เดือนกับอีก 1 วัน แต่ยังไม่มีความคืบหน้าเลย ตอนแรกตนจะเป็นคนพาน้องไปแจ้งความ แต่ตำรวจบอกว่า ต้องให้พ่อเป็นคนไปแจ้ง แต่พ่อไม่สบายอยู่แล้ว พอมารับรู้เรื่องคดีความ ทำให้เครียด กลัวไม่มีเงินต่อสู้คดี เพราะเงินติดตัวกินข้าวยังจะแทบไม่มี
ส่วนน้องวัย 14 ปีที่ถูกทำร้าย บอกว่า วันเกิดเหตุ ตนแค่ทักเพื่อนที่รู้จักกัน แต่เพื่อนกลับไปฟ้องพ่อ จนพ่อเขามาด่าทอตน ซึ่งตนก็พยายามอธิบาย แต่ฝ่ายพ่อเขาไม่ฟังและสังเกตว่าเขาเมา และถือก้อนอิฐมาด้วย จนกระทั่งถูกคู่กรณีชกต่อยจนบาดเจ็บ
ด้านนายธนศักดิ์ อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นผู้เข้าไปให้ความช่วยเหลือครอบครัวนี้ บอกว่า มีคนติดต่อมา ขอให้ช่วยดูแลเรื่องนี้ เพราะเป็นคดีที่เด็กถูกทำร้ายร่างกาย โดยผู้ใหญ่เป็นคนทำร้ายเด็ก ซึ่งสามารถดำเนินคดีได้ แต่เมือ่ตนไปติดต่อตำรวจที่โรงพัก กลับไม่มีความคืบหน้าใดๆ นอกจากนี้ยังทราบมาว่า ฝ่ายคู่กรณีของน้องวัย 14 ปี ท้าให้แจ้งความ ทำให้ฝั่งพ่อน้องวัย 14 เกิดความเครียด เนื่องจากที่บ้านยากจน และไม่รู้กฎหมาย
ด้าน พ.ต.ท. อภิชาต ปานแพร รองผู้กำกับ สอบสวน สภ.สองพี่น้อง กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นความเข้าใจผิด เพราะในวันที่เรียกคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาไกล่เกลี่ยกันนั้น ทางพนักงานสอบสวนได้สอบถามคุณพ่อของน้องผู้เสียหายว่า “ยินยอมให้ปรับเงิน 1,000 บาท กับผู้ต้องหาหรือไม่” ซึ่งผู้เสียหายไม่ยินยอมและขอให้ดำเนินคดีตามขั้นตอน ทางตำรวจก็ดำเนินการตามขั้นตอนแล้ว และนัดคู่กรณีมาไกล่เกลี่ยกันอีกครั้งเมื่อวานนี้ (1 ก.ค.67) อีกทั้งพนักงานสอบสวน ก็อธิบายให้ผู้เสียหายเข้าใจแล้วว่า การจ่ายค่าปรับนั้น เป็นการปรับจากฝั่งผู้ก่อเหตุเพียงฝั่งเดียว และที่ต้องถามทางผู้เสียหายว่า “ยินยอมให้ปรับหรือไม่” เพราะหากผู้เสียหายไม่ยินยอม ตำรวจก็จะดำเนินคดีไปตามขั้นตอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (1 ก.ค.67) ตำรวจ สภ.สองพี่น้อง ได้เรียกคู่กรณี 2 ฝ่ายมาไกล่เกลี่ยกันอีกครั้ง โดยคราวนี้ นายเสกสรร อายุ 29 ปี พี่ชายคนโต มาเป็นผู้ปกครองของน้องวัย 14 แทนคุณพ่อที่เสียชีวิตไปแล้ว ส่วนผู้ต้องหา คือ นายทิพารัตน์ ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุต่อยเด็กวัย 14 ปี ทางฝั่งผู้เสียหาย ยืนยันจะไม่ยอมความและจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ทางพนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานส่งฟ้องศาล แจ้งข้อหา ใช้กำลังทำร้าย โดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ โทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หลังจากนั้นทั้ง 2 ฝ่ายจึงได้แยกย้ายกันกลับบ้าน
โดยช่วงที่นายทิพารัตน์ ผู้ก่อเหตุ เดินออกจาก สภ.สองพี่น้อง เพื่อจะขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านนั้น ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปสอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ผู้ก่อเหตุอ้างว่า ถูกเด็กด่า เลยโมโหทำร้ายเด็ก
สำหรับศพของนายสาคร คุณพ่อของน้องวัย 14 มีกำหนดฌาปนกิจในวันที่ 3 ก.ค.นี้ ที่เมรุ วัดบางบอน จ.สุพรรณบุรี
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/l475m-uwt30
แท็กที่เกี่ยวข้อง สุพรรณบุรี ,ผูกคอตาย ,ผูกคอลาโลก ,จ่ายค่าปรับ