ตร.ตบทรัพย์ ย่องคืนเงินแม่เด็ก 1.5 หมื่น หลังรีดเงินแลกไม่ดำเนินคดี ผกก.สั่งพักงาน-ตั้งกก.สอบ

ตร.ย่องเงียบ นำเงิน 15,000 ไปคืนผู้เสียหาย หลังถูกร้องตบทรัพย์ ด้านผู้กำกับเผย เพิ่งทราบเรื่อง ยันให้ความเป็นธรรทั้ง 2 ฝ่าย พร้อมตั้งกรรมการสอบพร้อมสั่งพักงานตำรวจคนดังกล่าว 

วานนี้ (24 มิ.ย.) นางสาวปาล์ม อายุ 38 ปี เข้าร้องขอความช่วยเหลือจากผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดพัทลุง หลังจากก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 67 ที่ผ่านมา ลูกชายชื่อเล่นว่าบอย อายุ 16 ปี พร้อมพวกถูกจับกุมหลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ และเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทลุง ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่าและพกพาอาวุธปืน ก่อนสอบปากคำแล้วนำตัวส่งศาลเด็กและเยาวชน และทางญาติได้ประกันตัวออกมาจนกว่าคดีถึงที่สุด

แต่ต่อมา ร้อยเวรเจ้าของคดี สภ.เมืองพัทลุง ได้ติดต่อมายังมารดา ว่าจะดำเนินคดีกับผู้เป็นแม่ด้วยในข้อหาปล่อยปละละเลย ไม่ดูแลบุตรหลาน โดยได้โทรติดต่อกับผู้เป็นแม่หลายครั้ง ว่าหากไม่ต้องการถูกดำเนินคดี ผู้เป็นแม่ต้องมีไอ้นั้นมาแลก ตอนแรก ตนจ่ายเงิน ไป 3,000 บาท แต่ร้อยเวรเจ้าของคดีบอกว่าไม่พอ โดยต่อมาได้โทรมาคุยหลายครั้งว่าตั้งมากกว่านั้น บางครั้งตนไม่รับสายเพราะต้องทำงาน โดยจังหวะโทรหากไม่รับสาย ร้อยเวรคนดังกล่าวก็จะบุกมาถึงที่ทำงาน ที่ตนเป็นแม่บ้านอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในเขตตัวเมืองพัทลุงและบอกว่าเมื่อไรจะจ่า

ตนบอกตนไม่มีเงินจริงๆ มีรายได้วันละ 300 บาท และต้องเลี้ยงลูก 3 คนตนไม่มีจริง พอไม่ได้ก็จะกลับและโทรมาหาใหม่ว่าไอ้นั้นได้ยัง ตนบอกตนไม่มี ซึ่งหากไม่รับโทรศัพท์ ก็จะมาหาที่ทำงานอีก จนตนสงสารเพื่อนร่วมงานและบุคลากรของโรงเรียน ที่รับทราบเรื่อง กลัวโรงเรียนจะเสียหาก เพราะบางวันร้อยเวรคนดังกล่าว มาให้ในเครื่องแบบและมาหานอกเครื่องแบบ จนถึงวันนี้ 3 ครั้งแล้ว

โดยนางสาวปาล์ม แม่วัย 38 ปี ยังกล่าวอีกว่าวันนี้ 23 มิถุนายน 67 หมวดฐา ได้โทรมาอีก แต่ตนไม่รับ เลยไปหาที่ทำงานบอกว่า จะให้เส้นตายวันนี้หากไม่นำเงินมาจ่ายให้ 30,000 บาท พรุ่งนี้ 24 มิถุนายน 67 ไปพบผม ที่ สภ.เมือง พัทลุง เพื่อตั้งข้อกล่าวหา ปล่อยประละเลยไม่ดูแลบุตรหลาน ก่อนหมวดฐา จะเดินทางกลับ ตนได้ติดต่อหาญาติ เพื่อของยืมเงิน ก่อนโทรไปขอต่อรอง จากหมวดฐา ว่า 30,000 ตนไม่มีจริงๆ ขอต่อรองเหลือ 15,000 ได้มั้ย

แต่เงินนั้นตนขอยืมจากพ่อก่อน 10,000 บาท บวกกับตัวเองขอยืมเพื่อน อีก 5,000 บาท เพราะตนเองกลัวจะถูกดำเนินคดีขึ้นศาล มันยุ่งยากและไม่มีเงินเลียงครอบครัวเลี้ยงลูกทั้ง 3 คนอีก พอยืมเงินได้ 15,000 บาท ได้โทรไปหาหมวดฐา ว่าโอนได้ม้าย

หมวดฐาบอกโอนไม่ได้เอาเงินสดอย่างเดียว เดี๋ยวผมขับรถไปเอาเอง ให้ไปเอาที่ไหน นางสาวปาล์ม บอกที่ตู้เอทีเอ็มหน้าวิทยาลัยแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ควนมะพร้าว อ.เมือง จ.พัทลุง ขณะที่ตนเองไปรอหน้าตู้เอทีเอ็ม หมวดฐา ได้ขับรถจักรยานยนต์ยีห้อยามาฮ่าฟีโน สีขาวฟ้า ใส่เสื้อยืดสีดำแบบตำรวจ หน้าอกด้านซ้ายมีโลโก้ ก่อนตนกดเงินให้ 15,000 บาท ตามคลิปที่ถ่ายไว้

พอรับเงินเสร็จหมวดฐายังถามอีกว่าลูกมึงอยู่ไหน ตนเองบอกว่าอยู่บ้าน หมวดฐายังกล่าวอีกว่าลูกมึงมันร้ายนะ ก่อนขับรถจักรยานยนต์ขับออกไป

โดยนางสาวปาล์ม ยังเล่าอีกว่าก่อนหน้านี้ ที่ลูกชายโดนจับ และอยู่ในระหว่างประกันตัว หมวดฐา ได้เรียกสอบปากคำลูกในช่วง 3 ทุ่ม ทั้งที่ลูกชายเป็นเด็กและเยาวชน 16 ปี โดยไม่มีสหวิชาชีพ ตนได้โทรไปบอกญาติ ก่อนญาติบอกไม่ต้องไปสอบปากคำอะไรยามค่ำคืน และหมวดฐา เรียกเงินตบทรัพย์แบบนี้ ไม่เป็นธรรมกับตนและครอบครัวเลย ลูกชายผิดก็ให้เขาดำเนินคดีตามกฎหมาย เราผิดก็ดำเนินคดีตามกฎหมาย ไม่ใช่ตัดสินให้เราจ่ายเงินแทนคำพิพากษาของศาล

ขณะที่นางสาวปาล์ม ผู้เป็นแม่กล่าวอีกว่า ในเบื้องตนยังไม่กล้าแจ้งความเพราะกลัวจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงเข้าร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าวดังกล่าว

ขณะที่ไทม์ไลน์ ของหลักฐาน เป็นคลิบที่เจ้าตัวอัดเสียงตอนคุยกับหมวดฐา 2 ครั้ง คุยเรื่องจำนวนเงินที่จ่าย และนัดหมายในจุดที่หวมดฐามารับเงิน และคลิปภาพตอนหมวดฐาขับรถจักรยานยนต์ สวมเสื้อยืดสีดำ มาที่ตู้เอทีเอ็ม ก่อนนางสาวปาล์ม แม่ ใส่เสื้อสีน้ำตาลไปกดเงิน จำนวน 15,000 บาท แล้วหยิบมานับ ก่อนยื่นให้หมวดฐา แล้วขับรถออกไป

ต่อมามีรายงานว่าร.ต.อ. คนดังกล่าวได้นำเงิน จำนวน 15,000 บาท มาคืนแม่วัย 38 ปี แล้ว หลังเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นข่าวทำให้ตกใจกลัว เลยนำเงิน ที่เอาไปทั้งหมด มาคืนให้ที่ทำงาน โดยวางไว้ที่โต๊ะ ก่อนบอกแม่ว่าเอาเงินคืนไป และหากว่างหรือสะดวก ให้ไปหาผมที่โรงพักเพื่อให้ปากคำชี้แจงผู้บังคับบัญชาหน่อย

ด้าน พ.ต.อ.จุมพฎ เลี่ยมแก้ว ผกก. สภ.เมืองพัทลุง กล่าวว่า ล่าสุดตนเพิ่งทราบเรื่องดังกล่าวจากสื่อ และเชื่อว่าข้อมูลที่สื่อได้มาคือเรื่องจริง และจะเรียกตำรวจคนดังกล่าวมาสอบถามเพื่อหาข้อมูลที่เกิดขึ้น พร้อมจะตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนอีกครั้งหนึ่ง โดยจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งผู้เสียหายและตำรวจ ทุกอย่างอยู่ภายใต้หลักฐานที่เป็นจริงๆ จะไม่อุ้มตำรวจหากกระทำผิด

จากนั้นพ.ต.อ.จุมพฎ ได้เรียกหมวดฐาเข้าพบรายงานข้อเท็จจริงเบื้องต้น โดยหลังเข้ารายงานหมวดฐาได้เดินออกมา ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น เบื้องต้นหมวดฐา บอกไม่ขอพูด รอทำรายงานผู้บังคับบัญ และขอตั้งสติอีกแป๊บหนึ่ง

ขณะผู้สื่อข่าวสอบถามว่า แล้วเงิน 15,000 บาท ที่ไปคืนให้แม่เมื่อตอนเช้านั้นเป็นเงินอะไร หมวดฐาไม่ยอมตอบคำถาม พร้อมทั้ง ได้เก็บเอกสาร ที่โต๊ะทำงาน เพื่อพักงานตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา

ด้าน ด้าน พ.ต.อ.จุมพฎ กล่าวเพิ่มเติมว่าเบื้องต้น ร.ต.อ.ยังไม่ได้อธิบายอะไรมากนัก บอกขอตั้งสติก่อนแล้วจะมารายงานชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ต่อไป

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/Ksh_MW-u4PQ