สังคม

“จ๊ะโอ๋ งามพริ้ง” หอบหลักฐานยื่นฟ้อง “จูน เพ็ญชุลี” ข้อหาเบิกความเท็จ

โดย thanaporn_s

18 มิ.ย. 2567

430 views

เรื่องนี้คงอีกยาว สำหรับกรณีนักร้อง “หนุ่ม กะลา” และภรรยา “จูน เพ็ญชุลี” ที่มีการฟ้องร้องใหญ่โต ล่าสุดคู่กรณีคนที่ 3 อย่าง “จ๊ะโอ๋ งามพริ้ง” หอบหลักฐานพร้อม “ทนายเดชา” ยื่นฟ้อง “จูน เพ็ญชุลี” ในข้อหาเบิกความเท็จ และยืนยันว่าไม่เคยมีความสัมพันธ์รักกับ “หนุ่ม กะลา”


วันนี้ 18 มิถุนายน 2567 ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของ หนุ่ม กะลา เปิดเผยว่า วันนี้มายื่นเรื่องนัดไต่สวนมูลฟ้อง จำเลยทั้งหมด 3 คน ที่เป็นพยานผู้เบิกความ และคู่ความเดิม โดยฟ้องว่ามีการเบิกความเท็จ นำสืบเท็จ ซึ่งได้นำภาพที่ไม่ใช่ตัวของ “จ๊ะโอ๋” ไปใช้ประกอบตอนเบิกความว่ามีความสัมพันธ์กับ “หนุ่ม กะลา” จนฟ้องเป็นคดีอาญาและมีการนัดไต่สวน ซึ่งทางจำเลยที่ 1 และ 3 ขอเลื่อนคดี มีเพียงทนายจำเลยที่ 2 ศาลเลยให้เลื่อนไป


ตนตั้งใจจะนัดพูดคุยกันวันนี้ โดยนัดกันผ่านทาง “หนุ่ม กรรชัย” เพื่อคุยกับ คุณจูน ว่าทางคดีอาจจะตกลงกันได้และจะได้จบลง ซึ่งทางศาลก็ยินดี เพราะไม่อยากให้ทะเลาะกัน ในส่วนของเอกสารพยานหลักฐานเราก็มีพร้อม ทั้งภาพถ่ายและคลิป เพื่อยืนยันว่าไม่ใช่ตัวจ๊ะโอ๋ ไม่ได้ไปแย่งผัวเขา ซึ่งก็ไม่มีความกังวลใด ๆ เพราะหนุ่ม กะลา เขาก็ถ่ายภาพกอดกับผู้หญิงทุกคน เพียงแต่จ๊ะโอ๋ถูกเพ่งเล็งว่าจะมาเป็นเมียของฝ่ายชายเท่านั้น คุณจ๊ะโอ๋ยืนยันว่าไม่ได้มีความสัมพันธ์รักอะไรกัน และก็ไม่เคยแสดงออกว่าเขาเป็นผัว


ในส่วนของคดีก่อนหน้านี้ที่ทางคู่กรณีชนะคดีเรียก 4 ล้านบาท ทางทนาย เผย ศาลตัดสินแล้ว ก็ต้องเคารพ เพราะคุณจ๊ะโอ๋ไม่ได้ไปศาล แต่มีนักข่าวมาทำข่าวจนคุณจ๊ะโอ๋ไม่มีที่ยืนในสังคมเลยไม่ไป ที่เขาชนะเพราะว่าเราไม่ได้ไปชี้แจงต่อศาล ศาลเลยกำหนดให้จ่าย 4 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมาก ตอนนี้เราก็กำลังอุทธรณ์อยู่ว่ายืนยันว่าไม่ได้เป็นชู้


ส่วนการฟ้องกลับ คุณจูน ครั้งนี้ ทางทนายบอกว่า ก็ไม่เกี่ยวกับทางพระ ท่านมีเพียงแค่คดี 66 ล้านบาท ที่ต้องการฟังคำชี้แจงจากคุณจูน เท่านั้น หากชี้แจงได้ก็แค่ถอน คงไม่ต้องเอาใครเข้าคุก ซึ่งในคดี 66 ล้านบาท ก็รอนัดไต่สวนกัน และคิดว่าคืนนี้กับ หนุ่ม กรรชัย คงจะเคลียร์จบ หากอยากให้คดีนี้จบยังไง ก็คงแล้วแต่ทาง คุณจูน จะนัดกันคุยคืนนี้ หากคุยจบทุกเรื่องก็คงจบ ตนก็มีโอกาสคุยกับทางทนายเขาแล้ว เขาก็อยากจบ


ด้าน จ๊ะโอ๋ งามพริ้ง ได้เปิดใจ กล่าวพร้อมน้ำตาว่า ไม่รู้จะพูดอะไ รเพราะทุกคนก็ตัดสินตนไปแบบนั้นแล้ว พร้อมฝากถึงคนที่เข้ามาเวลาตนขายของด้วย บางทีก็เข้าไปด่าครอบครัว-พนักงานมานานกว่า 2 ปี จนธุรกิจพังหมด เพราะมีมือดีเข้ามากดสแปมทุกอย่างของเรา จากที่เคยขายของได้ ทุกอย่างก็ลดลงไปหมด หรือคนที่เข้ามาคอมเมนต์โจมตีว่าไม่ควรเข้ามาสนับสนุนตน และตัดสินเราว่าเป็นคนแบบนั้นไปแล้ว

คุณอาจสนใจ

Related News