สังคม
รู้ตัวแล้ว! คนร้ายตระเวนขี่ จยย. ประกบถีบเด็กสาว 4 ราย ในคืนเดียว - เหยื่อยังหวาดผวาไม่กล้าออกบ้าน
โดย nattachat_c
18 มิ.ย. 2567
1.3K views
จาก กรณีวัยรุ่นสาว 4 คน ขี่จักรยานยนต์ 2 คัน ไปเที่ยวงานบุญบั้งไฟ บริเวณริมอ่างเก็บน้ำคลองสียัด ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา แต่ขากลับ ถูกคนร้ายเป็นชาย 1 คน ขี่รถตามประกบ และก่อเหตุ ถีบ จยย.ของวัยรุ่นสาว จนล้มลง ก่อนจะเข้าไปลวนลาม และพยายามขู่เอาทรัพย์สิน เหตุเกิดเมื่อเวลา 01.08 น. ของวันที่ 16 มิ.ย. 2567 ที่ผ่านมา
คืบหน้า วานนี้ (17 มิ.ย. 67) ทีมข่าวลงพื้นที่ชุมชนบ้านทุ่งส่าย หมู่ 12 ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ไปพบ ด.ญ.มีนา (นามสมมุติ) เหยื่อวัย 14 ปี (คนที่ปรากฏในคลิป สวมกางเกงขาสั้น ร้องเสียงดังด้วยความตกใจ) เล่าว่า
ก่อนเกิดเหตุ ได้ไปเที่ยวงานบุญบั้งไฟ ขณะขี่จักรยานยนต์มา 2 คัน กับเพื่อนรวม 4 คน ตนเองได้ถ่ายคลิปวิดีโอเล่นตลอดเส้นทางกลับบ้าน
ระหว่างทาง น.ส.น้ำค้าง เพื่อนรุ่นพี่ อายุ 18 ปี สังเกตเห็นผู้ชายขี่จักรยานยนต์ตามหลังมา โดยพวกตนได้ขี่รถลงเส้นทางผ่านสวนยางพารา ค่อนข้างมืดเปลี่ยว
ปรากฏว่า ชายคนดังกล่าวก็ขี่รถตามมาติด ๆ ด้วยความตกใจ ทำให้จักรยานยนต์ของตน ซึ่ง น.ส.น้ำค้าง เป็นคนขี่ ล้มลงข้างทาง จากนั้น คนร้ายได้ล็อกคอตน และจับหน้าอก 2-3 ครั้ง จำไม่ได้ว่าคนร้ายพูดอะไรบ้าง เพราะกำลังสติแตก
จากนั้น คนร้ายกระชากแขนของตน แล้วพูดว่า “มีตังค์มั้ย เอาตังค์มา” ตนบอกไม่มี
ขณะที่ น.ส.น้ำค้าง ออกอุบายให้คนร้ายไปรออยู่แถววัด เดี๋ยวจะไปเอาเงินที่บ้านให้ แต่คนร้ายไม่ยอม ขู่จะเอาเงินจากพวกตนให้ได้ ตนเห็นหน้าคนร้ายไม่ชัดเพราะมืดมาก
ขณะเกิดเหตุ ตนเองกลัวจนสติแตก กรีดร้องด้วยความตกใจ และร้องขอความช่วยเหลือ โชคดีมีชาวบ้านกรีดยางอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงร้อง จึงขี่จักรยานยนต์ออกมาดู และช่วยพวกตน ซึ่งขณะนั้น คนร้ายได้ขี่จักรยานยนต์พยายามจะหลบหนีไป
ตอนนี้ รู้สึกหวาดผวา จะไปที่ไหนก็รู้สึกกลัวมีคนติดตาม ไม่กล้าออกไปที่ไหนตอนกลางคืน
ยืนยันว่า ผู้ชายสวมแมสก์ อายุประมาณ 30 ต้น ๆ สวมเสื้อแจ็คเก็ตสีดำ เป็นคนเดียวกับผู้ชายที่สวมเสื้อยืด และมีแมสก์ เต้นอยู่หน้าเวทีหมอลำซิ่ง งานบุญบั้งไฟ ก่อนที่จะมาก่อเหตุบริเวณสวนยางพารา ปากทางเข้าชุมชนบ้านทุ่งส่าย หมู่ 12 ต.คลองตะเกรา อยากให้ตำรวจติดตามคนร้ายให้ได้โดยเร็ว ไม่อยากให้ไปทำกับคนอื่นอีก
คุณยายวัย 73 ปี ยายของ ด.ญ.มีนา ยกมือไหว้วิงวอนตำรวจ ให้ช่วยติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เห็นคลิปแล้วสงสารหลานสาวมาก แล้วเมื่อไหร่ตำรวจจะจับได้ ทำกับหลานสาวของตนอย่างนี้ได้ยังไง ไม่อยากดูคลิปเลย
หลานสาวจิตตก หวาดกลัว จนไม่กล้าไปโรงเรียน ตนเองก็รู้สึกกลัวเช่นกัน เพราะยังจับคนร้ายไม่ได้ ทั้งนี้ ตนก็เตือนหลาน กลางคืนอย่าออกไปที่ไหน เพราะเป็นห่วง จุดเกิดเหตุก็ห่างจากบ้านไม่กี่ร้อยเมตร เป็นบุญของหลานสาว ที่มีชาวบ้านมาเห็น และช่วยเหลือจนปลอดภัย
ด้าน ด.ญ.ข้าวโพด อายุ 13 ปี เป็นหนึ่งใน 4 ของกลุ่มเด็กสาวที่ไปเที่ยวงานบุญบั้งไฟด้วยกัน เล่าว่า ตนเองขี่รถคันหน้า ซึ่งมี น.ส.เชียร์ อายุ 15 ปี เป็นคนซ้อน กว่าจะรู้ตัวว่าถูกคนร้ายขับรถตามหลังมา ก็เมื่อรถได้เลี้ยวลงมายังภายในทางถนนลูกรังแล้ว
จนคนร้ายตามเข้ามาก่อเหตุทัน และถีบรถคันหลัง ที่มี น.ส.น้ำค้าง เพื่อนวัย 18 ปี เป็นคนขับ และ น.ส.มีนา อายุ 14 ปี ซ้อนท้ายมาล้มลง ส่วนตนนั้น พยายามขับรถไปร้องขอความช่วยเหลือจากคนในหมู่บ้าน จึงทำให้คนร้ายหลบหนีไป
ทีมข่าวได้คุยกับ นายเดื่อ โหม่งสูงเนิน อายุ 42 ปี คนกรีดยาง ชาวบ้าน ม.12 ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา เล่าถึงนาทีตัดสินใจคว้า จยย.ขี่ออกมาจากสวนยาง หลังได้ยินเสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลือ โดยในช่วงเวลาดังกล่าว เป็นช่วงกลางดึกสงัด ทำให้เสียงกรีดร้องดังก้องออกไปไกล จนทำให้ตนเองที่อยู่ห่างไกลออกไปประมาณ 500 - 600 เมตร ได้ยิน
ตนจึงได้ชวนนายสุนทร เพื่อนที่กำลังกรีดยางด้วยกัน ขี่รถออกไป เห็นคนร้ายขี่รถหลบหนีออกไปจากจุดเกิดเหตุ เนื่องจากมีแสงไฟที่ตนคาดศีรษะสาดส่องออกมา จนทำให้เด็กสาวทั้ง 2 จาก 4 คน ที่ถูกถีบจนรถล้ม รอดพ้นจากมือคนร้าย โดยคนร้ายได้ขับรถเลยจากจุดเกิดเหตุไปตามเส้นทางลัด เข้าทางหลังวัดประชานิมิตประมาณเกือบ 100 เมตร
แต่พอตนขี่รถใกล้เข้ามา จึงทำให้คนร้ายเปลี่ยนใจ เลี้ยวกลับรถย้อนไปขึ้นถนนใหญ่สายท่าตะเกียบ-หนองคอก (3076) ซึ่งตนได้ขี่รถไล่ตามหลังคนร้ายไป โดยคนร้ายใช้เส้นทางอ้อมไปตามเส้นทางถนนคอนกรีตอีกซอย ซึ่งเป็นเส้นทางผ่านไปทางด้านหลังโรงเรียนทุ่งส่าย
จากที่สังเกต พบว่า คนร้ายขี่รถ และใช้เส้นทางหลบหนีได้อย่างคล่องแคล่ว จึงเชื่อว่าเป็นคนในพื้นที่ใกล้เคียงหมู่บ้านแห่งนี้ โดยตามถนนเส้นทางทะลุออกจากปากซอยทางด้านหลังโรงเรียนบ้านทุ่งส่าย เพื่อไปขึ้นสู่ถนนสาย ฉช.4011 เชื่อว่ากล้องวงจรปิดจะสามารถบันทึกภาพของคนร้ายไว้ได้
โดย 1 ใน 4 คน ที่ประสบเหตุมีลูกสาวของ นายเดื่อ ด้วย คือ น.ส.เชียร์ อายุ 15 ปี
ด้านผู้ใหญ่บ้าน ชุมชนบ้านทุ่งส่าย หมู่ 12 ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ บอกว่า เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงคณะครู ได้ลงพื้นที่มาที่บ้านของ น.ส.มีนา (นามสมมุติ) เพื่อสอบถามเหยื่อสาวอย่างละเอียด เพราะตอนนี้ สภาพจิตใจน้องค่อนข้างแย่ โดยกล้องวงจรปิดภายในชุมชนเสีย แต่กล้องวงจรปิดตามร้านค้าในชุมชน โดยเฉพาะช่วงทางแยก คาดว่าจะสามารถจับภาพคนร้ายได้
-------------------
อีกเคส เป็นเคสของ น.ส.ฝน (นามสมมุติ) เหยื่อสาว อายุ 16 ปี ประสบเหตุเวลาประมาณ 00.48 น.ในคืนเดียวกัน ริมถนน 3076 ก่อนถึง อบต.คลองตะเกรา ถูกคนร้ายคนเดียวกัน ก่อเหตุลักษณะเดียวกัน เวลาไล่เลี่ยกันกับเคสของ ด.ญ.มีนา
โดยจุดเกิดเหตุ ทั้งสองเหตุการณ์ห่างกัน 2 กิโลเมตร เวลาเกิดเหตุห่างกันชั่วโมงเศษ โดย น.ส.บี ได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากคนร้ายถีบจักรยานยนต์ล้มลงข้างทาง ด้านกู้ภัยได้นำตัวส่งโรงพยาบาล ส่วนคนร้ายหลบหนีไป
ทีมข่าวเดินทางไปที่บ้านของ น.ส.ฝน (นามสมมุติ) อาศัยอยู่บ้านซอย 5 เทพเจริญ หมู่ 17 ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ พบว่า น.ส.ฝน ได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่า และมีแผลถลอกบริเวณใบหน้าใต้จมูก โหนกแก้ม ยังอยู่ในอาการหวาดกลัว ยืนยันว่า คนร้ายที่ก่อเหตุเป็นคนเดียวกันที่ก่อเหตุกับเคสของกลุ่ม ด.ญ.มีนา บริเวณริมถนนสวนยางพารา หมู่ 12 ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ
น.ส.ฝน เล่าว่า คืนเกิดเหตุ ตนกลับจากงานบุญบั้งไฟ โดยเพื่อนเป็นคนขี่จักรยานยนต์ ส่วนตนเองนั่งซ้อนท้าย ระหว่างทางเห็นผู้ชายขี่จักรยานยนต์ตามหลังมา และขี่ประกบ ใช้มือจับหน้าอกเพื่อนของตน ที่เป็นคนขี่จักรยานยนต์ โดยคนร้ายไม่ได้พูดอะไร เพื่อนตกใจจึงรีบบิดรถหนี คนร้ายก็ขี่จักรยานยนต์จี้ ตนเองหันไปมองคนร้าย ก่อนที่รถจะเสียหลักลงข้างทาง ทั้งตนและเพื่อนได้รับบาดเจ็บทั้งคู่ ส่วนคนที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า หลังเกิดเหตุเห็น คนร้ายขี่รถชะลอ แล้วบิดมอเตอร์ไซค์หนีไป
นางสมพร อายุ 55 ปี แม่ของ น.ส.ฝน เผยว่า หลังทราบข่าวว่า ลูกสาวประสบเหตุดังกล่าวก็รู้สึกช็อก และเสียใจมาก ซึ่งตนได้พาลูกสาวไปแจ้งความที่ สภ.ท่าตะเกียบ ตำรวจได้สอบปากคำ และจะเร่งติดตามคนร้ายให้ได้โดยเร็วที่สุด
ตนไม่รู้ว่า คนร้ายคิดอย่างไร ถึงลงมือกับเด็กแบบนี้ อยากให้ตำรวจจับคนร้ายให้ได้ เพราะคนร้ายเป็นภัยต่อสังคม ตระเวนก่อเหตุจับหน้าอกเด็กผู้หญิงไปทั่ว ตอนนี้ลูกสาวหวาดกลัว ไม่กล้าเปิดประตูบ้านทิ้งไว้ ไม่กล้าดูคลิปเหตุการณ์ และภาพคนร้าย
ผู้ใหญ่บ้าน บ้านซอย 5 เทพเจริญ หมู่ 17 ต.คลองตะเกรา เผยว่า หลังเกิดเหตุ ฝ่ายสืบสวนได้ลงพื้นที่ ไล่วงจรปิดตามเส้นทาง และได้ตรวจสอบวงจรปิด ภายในหมู่บ้านบริเวณศาลากลางบ้าน พบจักรยานยนต์ของผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุ กระทั่งทราบตัวว่าคนร้ายเป็นใคร และทราบที่อยู่ของผู้ต้องสงสัย เป็นคนในหมู่บ้าน
เจ้าหน้าที่ได้ไปที่บ้านของผู้ต้องสงสัย นำภาพให้แม่ของผู้ต้องสงสัยดู แม่ยืนยันเป็นลูกชายตัวเอง ตกใจที่ลูกชายไปก่อเหตุดังกล่าว มั่นใจตำรวจได้ตัวแน่นอน
ขณะที่ นายกัญจน์นธัช วินนิวรรธน์ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงท่าตะเกียบ / ฝ่ายปกครอง / กำนัน / ผู้ใหญ่บ้าน / ตำรวจ สภ.ท่าตะเกียบ / ทหารพรานที่ 1306 เดินทางไปพบผู้เสียหายทั้ง 2 เคส 2 เหตุการณ์ เพื่อให้กำลังใจ พร้อมลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบร่องรอย และแก้วน้ำของเด็ก ๆ บริเวณสวนยางพารา ที่อยู่ติดถนน 3076
พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ โลหะเวช ผกก สภ.ท่าตะเกียบ เผยว่า ได้สั่งการให้เร่งไล่ล่าติดตามคนร้าย ซึ่งตำรวจชุดสืบสวน ร่วมกับ ตำรวจชุดสืบ จังหวัดฉะเชิงเทรา ทราบพิกัดการหลบหนีว่า คนร้ายเปิดใช้มือถือในพื้นที่ อ.บางคล้า คาดจะสามารถจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุคืนเดียวถึงสองเหตุ มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้ในโดยเร็ว ซึ่งล่าสุด ตำรวจรู้ตัวคนก่อเหตุแล้ว
ร.ต.ท.สุริยัน พิลิ รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.ท่าตะเกียบ ร้อยเวรเจ้าของคดี เปิดเผยว่า ขณะนี้ ได้ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวคนร้ายแล้ว จากการสอบสวนผู้เสียหายที่ได้เข้ามาให้ปากคำไว้ ให้การว่าคนร้ายเป็นชายไทยรูปร่างอวบท้วม อายุประมาณ 39 ปี สวมเสื้อคลุมสีดำ สวมกางเกงยีนส์ขาสามส่วนสีน้ำเงิน สวมแมสก์สีเขียวปิดบังใบหน้า โดยที่ผู้เสียหายไม่ได้เคยรู้จักกับคนร้ายมาก่อน
ผู้เสียหายเห็นหน้าคนร้ายไม่ชัดเจน เพราะเหตุเกิดช่วงในเวลากลางคืน ซึ่งเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันนี้ เคยเกิดขึ้นมาบ้างแล้ว 2-3 ครั้งในพื้นที่ อ.ท่าตะเกียบ แต่เป็นคนละพื้นที่หมู่บ้านกัน ไม่ระบุคนก่อเหตุคนเดียวกันหรือไม่ โดยพื้นที่ สภ.ท่าตะเกียบ เป็นพื้นที่กว้างมาก จึงทำให้ตำรวจไม่สามารถที่จะออกตรวจตราตามเส้นทางได้อย่างทั่วถึง
----------------
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/1RLzULN3O6c