ชาวบ้านร้อง ถูกพนักงานธนาคาร โกงเงิน สูญกว่า 10 ล้าน

ชาวบ้านรวมตัวร้องผู้ว่าฯ พิจิตร ถูกพนักงานธนาคาร หลอกให้กู้เงินเกินวงเงิน หากไม่ยอมก็จะไม่ผ่านอนุมัติกู้ยืมเงินกับธนาคาร ผู้เสียหาย 32 คน สูญเงินกว่า 10 ล้าน

วันที่ 12 มิ.ย. 2567 กลุ่มเกษตรกรชาวนาที่เป็น ลูกค้าธนาคารแห่งหนึ่ง ในจังหวัดพิจิตร จำนวน 32 คน เดินทางมาร้องเรียนกับนายอดิเทพ กมลเวชช์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร หลังได้รับความเสียหายจากช อดีตพนักงานสินเชื่อ หลอกลวงและบังคับให้กู้เงินเกินวงเงินที่ต้องการ และถ้าไม่ยินยอม พนักงานรายนี้ก็จะไม่ดำเนินการทำเรื่องกู้เงินให้ หรือไม่ก็จะทำให้เรื่องล่าช้า จนทำให้พวกเขาได้รับความเดือดร้อน สุดท้ายต้องยอมทำตามเงื่อนไขของเจ้าหน้าที่รายนี้ โดยเหตุเกิดตั้งแต่ปี 2561-2562 ต่อเนื่องกันมา

ทำให้มีชาวนาตกเป็นเหยื่อจำนวน 32 ราย ที่มีเอกสารการยืมกู้เงิน และยังมีชาวนาอีกกว่า 20 ราย ที่ไม่มีหลักฐานการยืมเงิน รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาทโดยที่ผ่านมาพวกเขาได้ติดตามทวงถามกับทางธนาคารดังกล่าว สาขาท่าบัว แต่ก็ไม่ได้รับการคืนเงิน อีกทั้งยังปัดความรับผิดชอบโดยอ้าวว่าเป็นการยืมเงินกันเอง อีกทั้งลูกค้าจะกู้เงินรอบใหม่ เพื่อไปลงทุนทำการเกษตรก็ไม่ได้ จนทำให้ได้รับความดือดร้อน พอไปแจ้งความไว้เรื่องก็เงียบ จึงรวมตัวกันมาขอความช่วยเหลือ

นางบังอร ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า พนักงานรายนี้หลอกเงินชาวบ้านตำบลท่าบัว ไปหลายราย ยกตัวอย่าง เช่น ชาวนาจะกู้เงินแค่ 5 แสนบาทให้เซ็นทำเรื่องกู้เงินเป็นเงิน 7 แสนบาท บอกว่าขอยืมต่อเป็นเงิน 2 แสนบาท ถ้าไม่ตกลงให้ก็จะไม่ได้ทำสัญญากู้เงิน หรือดองเรื่องเอาไว้

ต่อมา ผู้ว่าฯ ได้มารับหนังสือร้องเรียนกับชาวนาด้วยตนเอง พร้อมสั่งให้ศูนย์ดำรงธรรมฯ ตั้งคณะกรรมการเข้ามาแก้ปัญหา โดยให้ชาวนาชดใช้เงินตามวงเงินที่กู้ตามความจริงกับธนาคารไปก่อน ส่วนวงเงินที่เกินยังไม่ต้องชดใช้ จนกว่าคณะกรรมการฯ จะได้ข้อสรุปว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรในการเยียวยาช่วยเหลือ

ด้านนายสุชาติ กลิ่นเสือ ผู้อำนวยการธนาคารดังกล่าว ในจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องธนาคารได้ตรวจสอบ และมองว่าเป็นการสมรู้ร่วมกันระหว่างลูกค้ากับพนักงาน เลยไม่เข้าหลักเกณฑ์การเยียวยา ในส่วนของพนักงานที่กระทำผิด ได้ลงโทษให้ออกไปแล้ว ตั้งแต่ปี 2565 พร้อมกับดำเนินคดีทางอาญา เพราะทำให้ธนาคารได้รับความเสื่อมเสีย