รวบพ่อค้าปุ๋ยซื้อบริการเด็ก 2 รายในวันเดียว เจ้าตัวให้การภาคเสธ อ้างคุยเฉย ๆ น้องชายไม่ตอบสนอง

ที่จังหวัดอุทัยธานี วันนี้ (4 มิ.ย.) พ.ต.อ.บุญเชิด จันทร์มณี ผกก.สภ.ห้วยคต พร้อมด้วย พ.ต.ท.ทองสา พิลาวงศ์ สว.สส.สภ.ห้วยคต และชุดสืบสวน สภ.ห้วยคต พร้อมเจ้าหน้าที่ปกครองอำเภอห้วยคต นำกำลังพร้อมหมายศาลจังหวัดอุทัยธานี จำนวน 2 หมาย ที่ จ.114 /2567 และ จ.115/2567 เข้าจับกุมตัว นายสาคร อายุ 50 ปี เจ้าของร้านขายปุ๋ยขายยาแห่งหนึ่งใน จ.อุทัยธานี หลังซื้อบริการทางเพศเด็ก อายุ 14 ปี และ อายุ 17 ปี ซื้อวันเดียว 2 ครั้ง มาบริการทางเพศในโรงแรมแห่งหนึ่งของ อ.ห้วยคต


ซึ่งพบว่าเป็นผู้ก่อเหตุรายเดียวกัน แต่ไม่พบตัวนายสาครฯ ที่ร้านดังกล่าว ก่อนที่ทางผู้เป็นภรรยา ได้ทำการติดต่อให้นายสาครฯ เดินทางไปพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สภ.ห้วยคต ก่อนที่ทางนายสาครฯ ได้เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่เพื่อรับทราบข้อหาในเวลา 11.30 น. ที่ผ่านมา


สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.2566 เวลา 16.00 น. ที่ โรงแรมแห่งหนึ่งในอ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี นายสาครฯ ได้ให้การรับสารภาพอ้างว่า ได้ติดต่อเด็ก 2 คนทางเฟซบุ๊กหลังจากที่ติดต่อกันได้ อ้างว่าทางเด็กบอกให้มาที่โรงแรมดังกล่าว นายสาครก็มาที่โรงแรมและได้เปิดห้องไว้ 1 ห้อง หลังจากนั้นเด็กหญิงทั้ง 2 คนก็มาที่ห้อง ซึ่งเป็นเด็กหญิงอายุ 14 ปี


โดย นายสาครฯ ได้อ้างว่า ไม่ได้ทำอะไรเด็กหญิงทั้ง 2 แค่นั่งคุยกันเฉย ๆ ประมาณ 20 นาที เนื่องจากน้องชายของตนนั้นไม่แข็งตัว ก่อนที่เด็กทั้ง 2 นั้นได้อ้างว่ามีแขกรออยู่อีกห้องหนึ่งทาง นายสาครฯ จึงได้ทำการโอนเงินให้เด็กหญิงไปเป็นเงินหลักพันบาท ก่อนที่ทาง นายสาครฯ ได้นำเอกสารของแพทย์มาแสดงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูว่า อวัยวะเพศของตนเองไม่แข็งตัว พร้อมขอให้การภาคเสธ ดังกล่าว


โดยหมายศาลจังหวัดอุทัยธานี ที่ จ.114 /2567 ในข้อหากระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี ซึ่งไม่ใช้ภรรยาของตนเอง โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อหากำไร หรือเพื่อการอนาจารและชักจูงส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กมีพฤติกรรมไม่สมควร หรือน้าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสียงต่อการกระทำผิด และ หมายศาลจังหวัดอุทัยธานี ที่ จ.115/2567 ในข้อหาพรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปี ไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อหากำไรหรือเพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์เต็มใจไปด้วย และชักจูงส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กมีพฤติกรรมไม่สมควร หรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด