สังคม

สาวท้อง 5 เดือน กุเรื่องถูกคนร้ายจี้ใช้ถุงดำคลุมหัว มัดมือปล่อยทิ้งกลางป่า สารภาพเอาเงินผัวไปใช้หนี้นอกระบบ

โดย gamonthip_s

31 พ.ค. 2567

610 views

วันที่ 31 พ.ค. 67 เมื่อเวลา 01.00 น. ทางครอบครัวของหญิงสาวชาวพิษณุโลก วัย 32 ปี ถ่ายคลิปวิดีโอที่บันทึกไว้เป็นหลักฐาน ในขณะที่ครอบครัวพร้อมกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยป่อเต็กตึ๊งบางเสาธง นำกำลังเดินเท้าบุกลุยเข้าไปในป่ากระถิ่นรกทึบที่ด้านหลังตึกสูง ใกล้สี่แยกการเคหะเมืองใหม่บางพลี ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อค้นหาและช่วยเหลือหญิงสาวชาวพิษณุโลกวัย 32 ปี ซึ่งถูกคนร้ายเป็นชายสองคนใช้มีดจี้บังคับเธอให้ขึ้นรถกระบะก่อนจะใช้ถุงดำคลุมหัว แล้วพาเธอมาปล่อยทิ้งไว้กลางป่า โดยจับเธอมัดมือไพล่หลังไว้กับต้นกระถิ่นกลางป่ารกทึบ ทันทีที่ช่วยเธอได้สำเร็จเจ้าหน้าที่จึงรีบพาเธอ ซึ่งมีอาการหนาวสั่น จากการตากฝนและอยู่ในอาการหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลให้แพทย์ตรวจเช็กร่างกายก่อนจะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.บางเสาธง เข้าตรวจสอบและสอบปากคำ



ล่าสุดทีมข่าวช่อง 3 ได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ด้านหญิงผู้เสียหายรายนี้ เล่าให้ฟังว่า ตนเองพักอาศัยอยู่ในชุมชนการเคหะเมืองใหม่บางพลี แล้วจำเป็นต้องออกมาถ่ายเอกสาร ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พัก หลังจากที่ถ่ายเอกสารเสร็จ กำลังจะกลับห้องพัก ปรากฏว่ามีคนร้ายเป็นชายสองคนสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า เดินประกบเดินจากด้านหลัง โดยใช้มีดจี้บังคับเธอให้ขึ้นรถกระบะของคนร้าย ก่อนจะถูกใช้ถุงดำคลุมหัว กระทั่งคนร้ายพาเธอนั่งมาในรถแล้วนำมาในป่าจุดดังกล่าว และบังคับเอาเงินในบัญชีจำนวน 80,000 บาทไป ซึ่งคนร้ายยังเอาบัตรเอทีเอ็มและซิมการ์ดของเธอไปอีกด้วย ตนเองยืนยันว่าไม่เคยรู้จักกับคนร้ายสองคนนี้มาก่อน



ขณะที่สามีของหญิงรายนี้ บอกกับทีมข่าวว่า ภรรยาตนเองกำลังตั้งครรภ์ได้ 5 เดือน ได้ส่งข้อความบอกจะออกมาถ่ายเอกสาร ซึ่งตอนแรกก็ไม่ได้เอะใจอะไร กระทั่งเงียบหายไปนาน และด้วยความเป็นห่วงภรรยา เห็นว่าออกไปนาน จึงส่งข้อความไปหา แต่กลับพบข้อความตอบกลับมาว่า "ถ้ามึงอยากให้ลูกเมียปลอดภัยก็อย่าแจ้งตำรวจ" ซึ่งฝ่ายสามี พอได้รับข้อความนี้ก็ถึงกับตกใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับภรรยาของตนเอง จึงตั้งสติแล้วส่งข้อความกลับไปหาภรรยาใหม่ ซึ่งในขนาดนั้นยังคิดว่าภรรยาหยอกเล่น และพยายามโทรกลับ แต่ไม่รับสาย กระทั่งมีการส่งรูปกลับมาว่า ตัวภรรยาอยู่ในป่า จึงรีบแจ้งพี่สาวและเพื่อน ๆ ช่วยกันออกตามหากว่า 3 ชั่วโมงจนไปพบถูกมัดอยู่ในป่าจริง



ด้านรุ่นพี่ของหญิงสาวรายนี้ ซึ่งเป็นผู้ช่วยออกตามหา และเข้าพบตัวตอนแรก เล่าให้กับทีมข่าวฟังว่า หลังจากที่คนร้ายส่งภาพดังกล่าวมาทางข้อความ ตนเองก็ออกตามหาตามป่ากระถิ่นจนมายังจุดดังกล่าว จึงแจ้งให้กู้ภัยช่วยตามหา จนไปพบ ซึ่งสภาพที่พบในตอนแรกคือเธอถูกมัดมือไพล่หลังตามคลิปที่ถ่ายไว้ นอกจากนั้นยังพบว่ากระเป๋าของเธอถูกรื้อและเทเอกสารภายในกระเป๋าออกจนกระจัดกระจาย จึงช่วยกันแก้มัดมือก่อนจะพาส่งโรงพยาบาล



ส่วน นายธีรพล เจ้าหน้าที่กู้ภัยป่อเต็กตึ๊งที่เข้าไปช่วย บอกว่า ป่าดังกล่าวอยู่หลังตึกร้าง ซึ่งห่างจากถนนหลักไม่กี่สิบเมตร โดยปกติแล้วจะไม่มีใครเข้าไปในป่าดังกล่าว ส่วนสภาพที่เจอหญิงคนดังกล่าวนั้น พบว่าถูกมัดมือไพล่หลังจริง ซึ่งต้องมีคนจับมัดถึงอยู่ในสภาพนั้นได้



แต่ในขณะที่ฝ่ายสืบสวนของ สภ.บางเสาธง ร่วมกับพนักงานสอบสวนเข้าสอบปากคำเบื้องต้น กลับพบพิรุธหลายอย่าง โดยเฉพาะหลักฐานสำคัญในโทรศัพท์ของหญิงคนดังกล่าว ซึ่งพบหลักฐานการโอนเงินให้บุคคลอื่นหลายครั้ง รวมถึงเอกสาร และหลักฐานการกู้เงินนอกระบบ จึงสอบถามทางเจ้าตัว ตอนแรกยอมรับว่าตนเองเคยติดการพนันออนไลน์จริงแต่เลิกไปนานแล้ว และเคยกู้เงินกู้นอกระบบมา แต่ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ตำรวจไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น เพราะพบพิรุธหลายอย่าง จึงเชิญตัวสอบปากคำนานกว่า 3 ชั่วโมง ประกอบกับหลักฐานทางเทคนิคที่ฝ่ายสืบสวนของ สภ.บางเสาธง พบหลักฐานการเงินของผู้เสียหายรายนี้ สุดท้ายยอมเปิดปากรับสารภาพว่า เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น เธอเป็นคนสร้างสถานการณ์นี้ขึ้นมาเอง โดยร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่นอกระบบ ที่จังหวัดอยุธยา ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ที่เธอเคยกู้เงินมาราว 7 หมื่นบาท แต่ตนเองแอบนำเงินเก็บของสามีไปใช้คืน ด้วยความที่กลัวว่าสามีจะรู้เรื่องว่าเงินหายไปไหน จึงวางแผนร่วมกับเจ้าหนี้ ทำทีว่าถูกจี้บังคับเอาเงินจำนวน 8 หมื่นไป ซึ่งเจ้าหนี้ก็ให้ความร่วมมือ และนัดหมายส่งคนมายังพื้นที่ จนกระทั่งถึงเวลานัดมีชายสองคนมาจี้เธอขึ้นรถและใช้ถุงดำคลุมหัว ก่อนจะพาเธอไปมัดปล่อยไว้ที่ต้นไม้กลางป่า จากนั้นส่งข้อความแชตบอกสามีดังกล่าวจนกระทั่งเกิดเรื่องราวดังกล่าวขึ้น



เบื้องต้น สามีขอไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเอาผิดกับภรรยา เพราะสงสารและขอให้เห็นแก่เด็กในครรภ์ ตำรวจจึงทำประวัติและว่ากล่าวตักเตือน พร้อมทั้งให้ข้อคิดกับหญิงคนดังกล่าว ซึ่งเป็นผลมาจากการหลงผิดไปเล่นพนัน

คุณอาจสนใจ

Related News