สังคม

แท็กซี่ขโมยของ 16 ครั้ง อ้างไม่มีเงินดูแลเมียป่วยติดเตียง เมียร่ำไห้จะกู้เงินมาประกัน ลูกไหว้ขอโอกาสให้พ่อ

โดย petchpawee_k

30 พ.ค. 2567

369 views

รวบโชเฟอร์แท็กซี่ลักทรัพย์ร้านสะดวกซื้อร้านเดิม 16 ครั้ง ลูกสาวร่ำไห้ยกมือไหว้ นายกเล็ก และประธานกต.ตร. ขอโอกาส สัญญาจะพูดคุยกันในครอบครัวให้มากขึ้น

จากกรณีช่วงเย็นวันที่ 28 พ.ค.67  ตำรวจ สภ.บางศรีเมือง  จ.นนทบุรี  จับกุมตัวนายทองสุก  อายุ 53 ปี โชเฟอร์แท็กซี่  ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ในข้อหา ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน  โดยจับกุมตัวได้ที่บ้านพัก  ต.บางกร่าง อ.เมือง จ.นนทบุรี


สืบเนื่องจากนายทองสุกก่อเหตุลักทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ  สาขาหมู่บ้านเจ้าพระยา อ.เมือง จ.นนทบุรี ทั้งหมด 16 ครั้ง ต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 15 เม.ย.67 ถึงวันที่ 11 พ.ค.67 รายการสินค้าทั้งหมด 53 รายการ รวมมูลค่า  4,444 บาท โดยสินค้าส่วนใหญ่จะเป็นของกินของใช้ ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ น้ำยาปรับผ้านุ่ม  ขโมยสินค้าราคาไม่เกิน 500 บาทต่อวัน


จนวันที่ 28 พ.ค. ชุดสืบสวนได้รับแจ้งจากสายลับว่า นายทองสุข พักอยู่ที่บ้านพักในพื้นที่ ต.บางกร่าง อ.เมือง จ.นนทบุรี  จึงนำกำลังพร้อมหมายศาลจังหวัดนนทบุรี ไปจับกุม  ซึ่งนายทองสุขยอมรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง แต่จำไม่ได้ว่าลักทรัพย์ไปกี่ครั้ง  สาเหตุเพราะตนเองป่วย ตกงาน ไม่มีเงินซื้อข้าว ซื้อยา และผ้าอ้อมผู้ใหญ่ สำหรับดูแลภรรยาวัย 58 ปี ที่นอนป่วยติดเตียง มีโรคประจำตัวเบาหวาน ความดัน โรคไต


ต่อมาวานนี้ (29 พ.ค.67)  พม.จ.นนทบุรี พร้อมด้วยตำรวจ สภ.บางศรีเมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  พานายทองสุข เดินทางไปที่บ้าน  เพื่อช่วยเหลือนางอัญชลี ภรรยาของนายทองสุข ซึ่งเป็นอดีตข้าราชการบำนาญโรงพยาบาล  เนื่องจากหลังจากนายทองสุขถูกจับ ก็ไม่มีใครดูแลภรรยาที่ป่วยติดเตียง ต้องฉีดยาและกินยาเป็นประจำทุกวัน  เจ้าหน้าที่จึงวางแผนช่วยเหลือระยะยาว โดยจะประสานทีมช่วยเหลือคนพิการ  เข้ามาดูแลนางอัญชลี ตั้งแต่วันนี้ (30 พ.ค.67) เป็นต้นไป


นายทองสุก  บอกว่า ปกติตนจะต้องดูแลภรรยาทุกวัน พาไปอาบน้ำ พาเข้าห้องน้ำ ป้อนข้าวป้อนยา ฉีดยาให้ (ฉีดอินซูลิน เพราะเป็นเบาหวาน) และต้องเจาะเลือดวันละ 2 ครั้งเช้าเย็น  ซึ่งทำอย่างนี้มานานกว่า 7 ปีแล้ว


ส่วนที่ตนต้องขโมยของ เพราะไม่มีเงิน แต่ละครั้งจะขโมยแค่ของใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อเอามาใช้ที่บ้าน เพราะตนขับแท็กซี่แต่เงินไม่พอใช้  ได้เงินมาก็เอาไปจ่ายค่าเช่ารถหมด บางวันไม่มีผู้โดยสารก็ต้องเลิกขับ ตอนนี้คืนรถแท็กซี่ไปแล้ว  เพราะตนก็ป่วยมีโรคประจำตัวปอดติดเชื้อ  ส่วนภรรยามีโรคเบาหวาน ความดัน โรคไต ตนจะต้องคอยดูแลตลอด 24 ชม.  


แต่ละครั้งตนขโมยแค่ของกินของใช้ที่จำเป็น เพราะไม่มีเงินจริงๆ ไม่เคยขโมยสร้อยแหวนเงินทองของมีค่า เวลามีปัญหาไม่เคยบอกใคร  ทุกวันนี้มีกันแค่ 2 คนสามีภรรยา  ตอนนี้ตนเครียดมาก เป็นห่วงภรรยาต้องอยู่คนเดียว  ไม่มีใครหาข้าวให้กิน  ไม่มีใครพาไปหาหมอและเอายาให้  แม้ว่าตนจะมีลูกที่อาศัยอยู่บ้านเดียวกัน  แต่ลูกไม่เคยรู้เรื่อง เพราะไม่คุยกัน และลูกอาศัยอยู่ที่ชั้น 2 ของบ้าน ตอนนี้ไม่รู้จะทำอย่างไร บอกภรรยาได้แค่ว่า “อดทนไว้”


ด้านนางอัญชลี พูดทั้งน้ำตา ว่าจะไปหากู้เงินเพื่อนำมาประกันตัวสามี เพราะทุกวันนี้มีแต่สามีที่คอยดูแล เมื่อสามีถูกจับ ก็ต้องขอเบอร์วินจักรยานยนต์รับจ้าง ให้ช่วยซื้อข้าวให้กินประทังชีวิตไปวันๆ


ด้านนางสาวลลิตา นิยมรัตน์ นักสังคมสงเคราะห์  สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนนทบุรี  เปิดเผยว่า จากการพูดคุยเบื้องต้น นางอัญชลี ไม่สะดวกจะไปอยู่สถานสงเคราะห์ ยืนยันที่จะอยู่บ้านของตัวเอง เจ้าหน้าที่จึงต้องวางแผนระยะยาว เพื่อดูแลเรื่องของความเป็นอยู่และการเข้าการรักษาพยาบาล การใช้ชีวิตประจำวัน  โดยทาง พม.จะประสานทีมช่วยคนพิการให้มาดูแลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป (30 พ.ค.67) พร้อมทั้งช่วยเหลือเป็นเงินเบื้องต้น  3,000 บาท


ขณะที่พนักงานสอบสวน สภ.บางศรีเมือง ต้องสอบปากคำนายทองสุข อย่างละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากก่อเหตุลักทรัพย์ถึง 16 ครั้ง ซึ่งตามกฎหมาย ความผิดฐานลักทรัพย์  มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท ส่วนกรณีลักทรัพย์ในเวลากลางคืน  อาจบวกโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี - 5 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000 -  100,000 บาท  ที่สำคัญ เป็นการทำความผิดต่างกรรมต่างวาระ ก่อเหตุ 1 ครั้ง ก็ถูกดำเนินคดี 1 กระทง ก่อเหตุ 16 ครั้ง ก็ถูกดำเนินคดี 16 กระทง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่นายทองสุข จะถูกคุมตัวกลับไปที่ สภ.บางศรีเมือง เพื่อดำเนินคดี นายทองสุขขอโอกาสป้อนข้าวภรรยาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะโอบกอดบอกลาทั้งน้ำตา  และพูดกับนางสาวอำไพพรรณ อายุ 28 ปี พนักงานร้านสะดวกซื้อ ซึ่งเป็นลูกสาวของนายทองสุขและนางอัญชลี ว่า “ขอโทษกับสิ่งที่พ่อทำลงไป”


ซึ่งนางสาวอำไพพรรณ ยกมือไหว้เจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ ทั้งน้ำตา ขอให้ช่วยเหลือประกันตัวพ่อ  พร้อมบอกว่า ตนอาศัยอยู่ที่ชั้น 2 ของบ้าน  ทำงานได้เงินเดือน  18,000 บาท ซึ่งตกลงกับพ่อว่า ตนจะจ่ายค่าบ้าน ค่าน้ำไฟ และค่ากินอยู่ต่างๆ อยู่แล้ว แต่พ่อไม่เคยพูดว่าเงินไม่พอใช้ ไม่เคยรู้ว่าพ่อคิดสั้นไปก่อเหตุขโมยของ ซึ่งบ้านหลังนี้ พวกตนอาศัยอยู่มา 5 ปีแล้ว ต้องผ่อนเดือนละ 8,000 บาท ตนก็มีปัญหาเรื่องเงินจึงค้างค่าเช่า บ้านจะถูกยึดอีก 2 เดือนข้างหน้า  เมื่อพ่อถูกจับก็ยอมรับว่าเดือดร้อนหนักกว่าเดิม จึงอยากขอโอกาสกับทางผู้ใหญ่ให้ช่วยประกันตัวพ่อ  พร้อมรับปากว่าจะวางแผนในการดำเนินชีวิตใหม่ จะพูดคุยกันมากกว่าเดิม  และยืนยันว่า “ตนไม่เคยไม่รักพ่อ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม”


ด้านนางสาวสุวรรณา โล้สมบูรณ์ นายกเทศมนตรีเมืองบางกร่าง ระบุว่า ก่อนหน้านี้ ตนเคยมาเยี่ยมนางอัญชลีเป็นประจำ เพราะเป็นผู้ป่วยติดเตียง แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ โดยขณะนี้ทุกหน่วยงานกำลังหารือเรื่องการประกันตัวผู้ต้องหา ซึ่งต้องทำตามขั้นตอนกฎหมาย  รวมทั้งเรื่องการทำมาหากินหลังจากนี้ ส่วนเรื่องภรรยาที่ป่วยติดเตียง ทางหน่วยงาน พม.จะเป็นผู้ดูแลร่วมกับเทศบาล


ขณะที่นายชัยเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์   ประธานคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามบริหารงานตำรวจ (กต.ตร.) เปิดเผยว่า ตนจะช่วยเหลือเรื่องทนายความมาต่อสู้คดี แต่ยืนยันว่า จะไม่ช่วยเหลือคนทำความผิด เพราะเมื่อทำความผิดแล้วก็ต้องรับโทษตามกฎหมาย แต่ตนจะช่วยเหลือในเรื่องการประกันตัวและหาทนายสู้คดีให้ผ่อนหนักเป็นเบา  เนื่องจากตรวจสอบประวัตินายทองสุขแล้ว ไม่พบว่าเคยก่อเหตุอาชญากรรมอื่น  แต่ก่อเหตุเพราะจำเป็น  ส่วนที่มีคนวิจารณ์ว่า หากตนช่วยเคสนี้ อาจมีคนก่อเหตุเลียนแบบเพราะไม่ต้องติดคุก ตนยืนยันว่า กรณีนายทองสุข ต้องรับโทษจำคุกแน่นอน แต่ตนจะช่วยเหลือให้เขาได้มีโอกาสต่อสู้คดี ได้มีโอกาสทำมาหากินและดูแลภรรยา  หากยังทำผิดซ้ำซากอีก ตนก็จะไม่ช่วยเหลืออีกแล้ว


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/tKsze_btbzc

คุณอาจสนใจ

Related News