สังคม

เปิดวงจรปิด เด็กถือเชิงเทียนวิ่งเข้ากุฏิ - พระพยอมยัน ไม่มีใครล็อกประตู เหตุไฟคลอกเด็กดับ 3 ศพ

โดย nattachat_c

24 พ.ค. 2567

215 views

จากกรณี เหตุไฟไหม้ศาลากุฎิภายในวัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี มีเด็กชาย 3 คน (ฝาแฝดอายุ 11 ปี 2 คน คือ ด.ช.ปัณณวิทย์ หรือน้องเอ็ม, ด.ช.ปัณณวัฒน์ หรือน้องเอส / อายุ 9 ปี 1 คน คือ ด.ช.ธีรพงษ์ หรือน้องพงษ์) เป็นเด็กกำพร้าที่ทางวัดได้อุปการะไว้ และส่งเรียนหนังสือ ถูกไฟคลอกเสียชีวิตนอนกอดกันอยู่ตรงประตูทางออก สภาพศพถูกไฟไหม้เกรียม เหตุเกิดกลางดึกวันที่ 22 พ.ค. 2567 ที่ผ่านมา


วานนี้ (23 พ.ค.) ทีมข่าวลงพื้นที่ ได้ภาพวงจรปิดเวลา 22.15 น. บริเวณอาคารที่พักอุบาสกอุบาสิกา จับภาพขณะที่ ด.ช.ธีรพงษ์ หรือน้องพงษ์ อายุ 9 ขวบ วิ่งออกมาจากอาคารดังกล่าว จากนั้น วิ่งกลับมาที่อาคารหลังเดิมโดยในมือถือสิ่งของบางอย่าง ก่อนจะวิ่งออกมา และวิ่งตรงไปที่บริเวณศาลากุฎิที่เกิดไฟไหม้ ซึ่งอยู่ห่างกันไม่ถึง 10 เมตร และมีการเปิดประตูเข้าไปภายในศาลากุฎิหลังนี้ โดยที่ด้านในกุฎิ มีเด็กชายฝาแฝด 2 คน อาศัยอยู่ด้านใน


เวลา 23.29 น. กล้องตัวเดียวกัน จะเห็นว่าทางด้านขวาเริ่มเห็นแสงไฟ ซึ่งเป็นจุดที่ตั้งของกุฏิ จากนั้น มีพระลูกวัดวิ่งถือไฟฉายมาที่กุฏิ ก่อนจะวิ่งไปตามเจ้าหน้าที่ รปภ. โดยจะสังเกตเห็นว่าในแสงไฟตรงกุฏิเริ่มรุนแรงขึ้น ก่อนที่จะมีพระลูกวัดอีกรูป วิ่งเข้ามาตักน้ำในถังพยายามดับไฟ


เวลา 23.31 เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนั่งรถกอล์ฟมา และพยายามช่วยกันดับไฟ เอาถังดับเพลิงมาดับไฟ โดยจากการสังเกตในกล้องวงจรปิด แสงไฟจะดับลงในเวลา 23.32 น. ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ และพระลูกวัดที่ช่วยกันดับไฟ


ขณะเกิดเหตุ มีคลิปเหตุการณ์บางช่วงบางตอน ขณะที่เพลิงกำลังลุกไหม้ ได้มีเจ้าหน้าที่ตะโกนถามว่ามีใครอยู่ไหม ๆ แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ


โดยในคลิปจะเห็นได้ว่าขณะเกิดเหตุยังมีฝนตกโปรยปรายลงมา ก่อนจะมีเสียงคนพูดว่า “เฮ้ย! มีคนอยู่”


หลังเกิดเหตุ ก็เข้าไปสำรวจด้านใน ก็พบว่า สภาพภายในเหลือแต่ขี้เถ้า และโครงเหล็กของตัวกุฏิ และพบร่างของเด็กทั้ง 3 คน อยู่ในกุฏิ

----------------------

ทีมข่าวได้คุยกับ พระชินชนัตถ์ ปัญญาวโรพระลูกวัด วัดสวนแก้ว ที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า เมื่อคืนนี้ ราว 5 ทุ่มกว่า ขณะจำวัดอยู่ภายในกุฏิ แล้วได้ยินเสียงเด็กกรี๊ดจากภายในกุฏิที่เกิดเหตุ เสียงเหมือนแม่หมูกำลังคลอดลูก ก็เลยลุกออกมาดู


จากนั้น ตนก็เห็นแสงไฟ เหมือนไฟฉาย ผ่านช่องหน้าต่างภายในกุฏิ  ซึ่งในตอนนั้นยังไม่มีประกายไฟเกิดขึ้น ตนก็เลยลุกขึ้นมาห่มจีวรจนเรียบร้อย แล้วหยิบไฟฉายออกมาจากห้องพัก เพื่อจะไปเตือนกลุ่มเด็ก ๆ ว่า อย่าเล่นกันเสียงดัง


ไม่ถึง 5 นาที พอออกมา กำลังจะข้ามสะพานไปฝั่งกุฏิ ก็หันไปมองเห็นไฟกำลังลุกไหม้กุฏิอย่างรุนแรง ตนก็ตกใจรีบวิ่งไปแจ้งกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของวัด แต่ตอนนั้น ไม่มีเสียงเด็กกรี๊ดแล้ว


จากนั้น จึงตะโกนขอความช่วยเหลือจากคนในวัด และไปแจ้งกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็รีบขับรถเข้ามาระงับเหตุ พร้อมกับถังดับเพลิง หลังจากนั้น คนในวัดก็รีบพากันมาช่วยดับไฟ


ส่วนเรื่องว่า เด็กมาเล่นกันอยู่ที่กุฏิหลังนี้บ่อยไหมนั้น ตนไม่รู้ แต่กุฏิเป็นกุฏิเก่า ตอนนี้ ไม่มีคนอยู่ ส่วนเด็ก ๆ ปกติมีคนดูแลอยู่ตลอด ก็เลยไม่ได้ไปยุ่งกัน พระหลังทำวัดเสร็จ ก็จะแยกย้ายกันเข้ากุฏิ ทำกิจของสงฆ์ แล้วก็พากันจำวัด


พระชินชนัตถ์ ปัญญาวโร ยังสันนิษฐานว่า ตอนที่เด็กกรี๊ด อาจเป็นไปได้ว่าอาจจะเกิดจากไฟดูด ที่เกิดจากไฟรั่ว เพราะกุฏิที่เกิดเหตุเป็นโครงเหล็ก ทำให้เด็กไม่สามารถออกจากกุฏิได้ เด็กก็เลยกรี๊ดเพื่อขอความช่วยเหลือ

----------------------

นายสุริยทิตย์ ทองเสมอ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยวัดสวนแก้ว เล่าว่า หลังได้รับแจ้งจากพระลูกวัด ตนเองจึงนั่งรถกอล์ฟไป และรีบนำถังดับเพลิงมา 2 ถัง ฉีดเข้าไปที่ กุฏิ ซึ่งยอมรับว่าใช้ถังดับเพลิงทั้งหมด 2 ถังเพลิงไฟถึงมอดลง


จากนั้น ตนเองได้พยายามเปิดประตูกุฏิและก็พยายามสาดน้ำเข้าไป ในระหว่างนั้นเอง ตนเองก็สังเกตเห็นว่ามีอะไรบางอย่างคล้ายตุ๊กตาอยู่ในกุฏิ ตอนแรกก็ไม่เอะใจ ก็รีบดับเพลิง และสาดน้ำให้เสร็จ เมื่อทุกอย่างสงบลง เข้ามาตรวจสอบ ดูจนกระทั่งทราบว่าไม่ใช่ตุ๊กตา แต่เป็นเด็ก 3 คน


ตอนนั้น ก็ได้รีบแจ้งกับพระว่า พบเด็กเสียชีวิตภายในกุฏิ พระจึงให้นำเด็กออกมาโดยด่วน หลังจากนั้นก็ประสานเจ้าหน้าที่เข้ามายังพื้นที่เพื่อดำเนินการตรวจพื้นที่เกิดเหตุ


ยืนยันว่า กุฏิไม่ได้มีการล็อคกุญแจใด ๆ ทั้งสิ้น ตนเองยังเป็นคนใช้มือเปิดประตูขณะที่กำลังร้อนผ่าวอยู่ เพื่อสาดน้ำลดความร้อนภายใน ทำให้มือของตนเองเรียกได้ว่าร้อนความร้อนจนมือพอง


ส่วนเด็ก ๆ ปกติตนเองก็เห็นเด็กกลุ่มนี้เป็นประจำ บางทีเด็กก็ชอบไปเล่นลานหน้าวัด เพราะมีสัญญาณ wifi แต่ไม่ทราบว่าเมื่อคืนที่เกิดเหตุ เด็ก ๆ เข้าไปทำอะไร โดยก่อนเกิดเหตุ ตนก็บอกให้เด็กรีบกลับไปนอนที่อาคารที่พัก และตนเองก็จะตรวจตราดูความเรียบร้อย ดับธูป ดับเทียน แล้วกะว่าสักพักจะเดินไปตรวจความเรียบร้อยด้านหลังตรงกุฏิที่เกิดเหตุ แต่มีพระลูกวัดวิ่งมาแจ้งก่อน

----------------------

นางจำลอง อินยาศีร อายุ 64 ปี ย่าของน้องเอ็มและน้องเอส อายุ 11 ปี เด็กชายฝาแฝดที่ถูกไฟคลอกเสียชีวิต พร้อมด้วยนายชัยเดช ผู้เป็นลุง อายุ 60 ปี รวมทั้งนางต้อย ผู้เป็นป้าของเด็กชายฝาแฝด ได้เดินทางมาที่วัดต่างพากันร้องไห้เศร้าโศกเสียใจ


โดยนางจำลอง เล่าทั้งน้ำตาว่า หลานชายทั้งสองคน เพิ่งบวชสามเณรภาคฤดูร้อนเป็นเวลา 1 เดือน ที่ผ่านมาที่วัดแห่งนี้ ก่อนที่จะสึกออกไป เพื่อกลับไปเรียนหนังสือ


ทางหลวงพ่อพระพยอม เจ้าอาวาสวัดรักใคร่เอ็นดูเนื่องจากเป็นเด็กชายฝาแฝด พูดกับตนเสมอว่า ที่วัดก็มีโรงเรียน ถ้าอยากมาเรียนเรียนที่นี่ได้นะ ตนจึงได้นำหลาน 2 คน ซึ่งปกติก็เป็นเด็กร่าเริงนิสัยดีเรียบร้อย มาฝากไว้ที่วัดได้ 2 อาทิตย์ เพื่อให้หลวงพ่ออบรมบ่มเกลานิสัยให้เป็นเด็กดี ในวันข้างหน้า ไม่คิดว่าหลานจะมาเสียชีวิตในสภาพแบบนี้ รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก

----------------------

นางเกษร อินต๊ะ อายุ 42 ปี แม่ของสองเด็กชายฝาแฝดที่เสียชีวิต เดินทางมาที่วัดสวนแก้ว


เจ้าตัวกรีดร้องด้วยความเสียใจ มีอาการจะเป็นลมจนนักข่าวต้องพยุงตัวไปนั่งเก้าและนำยาดมมาให้ดม พร้อมเปิดเผยว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุที่เกิดขึ้น โดยวันที่ 8 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ตั้งใจจะมาเยี่ยม แต่ไม่ได้มา คนเป็นแม่ใจจะขาด ตนไม่ทราบว่าเกิดเหตุการณ์นี้ได้อย่างไร


ทั้งนี้ ตนเลี้ยงลูกมากับมือไม่คิดว่าจะต้องมาเสียชีวิตอย่างนี้ ทำไมต้องเกิดเหตุร้ายกับลูกของตนขนาดนี้ อย่างไรก็ตาม อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ให้ดีที่สุด ตนก็ยังไม่สามารถระบุได้ว่าสงสัยในประเด็นใด เพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์


ตอนนี้พูดอะไรไม่ออก ไม่ได้เจอหน้าลูกมาปีกว่าแล้ว ส่วนใหญ่ย่าเป็นคนดูแล ไม่เคยคิดไม่เคยฝันว่า จะต้องเจอลูกเสียชีวิตในสภาพนี้ เสียใจมาก ใจสลายไม่เหลืออะไรแล้ว

----------------------

ทีมข่าวได้คุยกับ ด.ช.ธีรพัฒน์ รบศรี อายุ 9 ขวบ เรียน ป.3 แฝดพี่ข อง ด.ช.ธีรพงษ์ รบศรี อายุ 9 ขวบ (เสียชีวิต) กล่าวว่า ด.ช.ธีรพงษ์ เป็นน้องของตน ตนตื่นขึ้นมาแล้วไม่เจอน้อง จึงถามหาพงษ์กับแม่ว่าน้องหายไปไหน แม่ก็ตอบว่าพงษ์อยู่โรงพยาบาล ซึ่งเมื่อคืน ไม่ได้ลงไปเล่นกับพวกเขาเพราะหลับ หลังจากที่ดูกล้องวงจรปิดว่า พงษ์แฝดน้องถือเข้าไปในกุฏิด้วยคือที่วางเทียน

----------------------

พ.ต.อ.ศุภชัย ไตรสมบูรณ์ รอง ผบก.ศพฐ.1 พร้อมทีม พฐ.1 และพฐ.นนทบุรี เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบโครงสร้างกุฏิที่ถูกไฟไหม้ ทั้งด้านในและด้านนอก รวมทั้งระบบไฟฟ้า โดยตรวจสอบโครงสร้างเปรียบเทียบกับกุฏิที่ตั้งอยู่คู่กัน ซึ่งมีลักษณะการก่อสร้าง และใช้วัสดุในการก่อสร้างใกล้เคียงกัน ที่ส่วนใหญ่เป็นโครงเหล็ก


จากการตรวจสอบพบว่า สร้างมาประมาณ 20 ปี ใช้สำหรับรับรองพระสงฆ์ และญาติโยมที่มาขอพักอยู่ที่วัด ซึ่งไม่มีพระสงฆ์อาศัยอยู่ประจำ สภาพภายในถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด พบพัดลมเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเดียว เครื่องนอนด้านในไฟไหม้เสียหายทั้งหมด


ส่วนประตูที่มีประเด็นเรื่องถูกล็อก ตรวจสอบเขม่าควันไฟพบว่าประตูไม่ได้ล็อค สามารถเปิดออกได้ง่าย คาดว่าเด็กทั้ง 3 คน น่าจะอยู่ระหว่างนอนหลับ พอเกิดไฟไหม้มีกลุ่มควัน จึงทำให้ตกใจหาทางออกไม่ถูก

----------------------

พระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กลฺยาโณ เปิดเผยว่า เปิดเผยว่า


ทางวัดเลี้ยงเด็กมาเกือบ 30 ปี เด็กรุ่นแรก ๆ มีครอบครัวจบการศึกษาปริญญาก็มี ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ เพิ่งเกิดครั้งแรก และบังเอิญเป็นวันวิสาขบูชา อาตมาเทศน์เสร็จก็ไปเวียนเทียน จากนั้น ต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไปทำกิจวัตรประจำวัน


ซึ่งเด็กก็คงเห็นโอกาสไม่มีผู้ใหญ่ดูแล จึงลงไปเล่นกัน ทำให้เกิดเหตุที่ไม่คาดฝัน เด็กที่อยู่รุ่นแรกๆ อยู่กันเป็นร้อยมากกว่านี้เยอะ ตอนนี้เหลือน้อยมาก อาตมาเลี้ยงเด็กมา 20-30 รุ่น


ทำงานด้านนี้มา 50 ปี เด็กรุ่นแรก ๆ ก็มีงานมีการทำกันหมดแล้ว ไม่เคยเกิดเหตุครั้งนี้ถือเป็นครั้งประวัติศาสตร์ของวัด  อาตมาจะพูดเล่าเหตุการณ์แค่บางส่วนแต่ความจริงต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน


ข่าวอาจจะมีความคลาดเคลื่อน ทำให้ทางวัดเสียหาย คือว่าเด็กวิ่งไปบอกกับ รปภ. ซึ่งทางวัดมี รปภ.อยู่เป็น 10 คน ก็วิ่งเอาถังดับเพลิงมาฉีดดับไฟ ที่สื่อบางช่องบางฉบับลงว่าไปถึงแล้วเข้าไม่ได้เพราะล็อกกุญแจหน้าห้องไว้ ไม่ใช่เรื่องจริง สาเหตุที่ดับไฟทันเป็นเพราะประตูไม่ได้ล็อก เรื่องประตูล็อกก็พูดว่าพระล็อกประตูไว้เรียบร้อย ออกข่าวแบบนี้ พระเข้าคุกแน่ เรียกว่าฆาตกรรมเด็กชัด ๆ วัดนี้เลี้ยงเด็กมา 20-30 รุ่นแล้ว ได้ดีบ้าง ติดคุกไปบ้าง ตายไปบ้าง ถูกขับรถชนตาย แต่ไม่เคยมีเคสถูกไฟไหม้ตาย


ทางวัดมีนโยบาย มีเป้าหมายให้การศึกษากับเด็กที่ไม่มีญาติ และครอบครัวที่ไม่มีกำลังจะส่งลูกหลานเรียน อย่างเช่นเด็ก 2 คนนี้ทางวัดได้ตัดเสื้อผ้าชุดละ 1,000 บาท เรียนได้ 2 วัน วันวิสาขบูชา เขาก็หยุด พอหยุดเรียนเขาก็เสียชีวิต โดยแต่ละปีทางวัดตั้งงบประมาณไว้ 3-4 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการศึกษา และเที่ยวนี้เด็กเพิ่งกลับไปเมื่อ 7-8 วันนี้เองรอบนี้เด็กมา 280 คน มานอนพักอยู่ในวัด ไม่เคยเกิดเรื่อง แต่คราวนี้เป็นเด็กเล็ก ก็ถือเป็นเหตุสุดวิสัย แม่ขาวแต่ละคนเขาก็ดูแลเด็ก พาไปเข้าเรียน พาไปตัดเสื้อผ้า ใช้จ่ายโดยเงินมูลนิธิวัดทั้งนั้น ไม่มีเรื่องแอบแฝงอะไรกับเด็ก


เมื่อก่อนนี้เด็กมากที่สุด แต่มาพักหลังนี้อาตมามีงานเทศมากขึ้น ก็จ้างคนมาควบคุมดูแลเด็ก แล้วคนดูแลเขาไปตั้งเนื้อตั้งตัวดูแลธุรกิจ เขาก็ทิ้งงานเรื่องเด็กไว้ ทางวัดจึงต้องเริ่มลดจำนวน รับไม่เกิน 20 ถึง 30 คน แต่โรงเรียนปิดเทอมจะรับได้ 500-700 คน วัดจะจ้างคนดูแลทีมอุบัติเหตุ ซึ่งเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของวัดในรอบ 50 ปี


อาตมาเคยได้ยินข่าวว่าถ้าใช้แท็บเล็ต ต้องอย่าเสียบสายชาร์จ ต้องชักออกแล้วค่อยเล่น แต่อาตมาเคยได้ยินเด็กบอกว่าถ้าไม่อยากให้แบตหมด ต้องเสียบแล้วเล่น แต่ตอนเหตุการณ์จริง ก็ไม่รู้ว่าเด็กไปเสียบอะไรไว้ตรงไหนหรือเปล่า จุดที่เกิดเหตุไฟไหม้ เมื่อก่อนเป็นกุฏิพระ ต่อมาพระเหลือน้อย เด็กเขาก็เลยไปหลบเล่นกันบ้างแล้วถึงขึ้นไปนอน


วันเกิดเหตุมีเด็กเล่นกันอยู่ 5 คน แต่ 2 คนขึ้นไปนอนเพราะบอกว่าเบื่อเล่นแล้ว สองคนนี้เลยรอด พ่อแม่ของเด็กแยกทางกันบางคนก็ตายไปแล้ว ก็มีย่ายายเอามาฝากอาตมา ก็ไม่ได้คุยอะไรมากขอที่อยู่เขาไว้ เวลาเป็นอะไรจะได้ติดต่อได้ เด็กที่เสียชีวิตเป็นฝาแฝด 2 คู่ ตายไป 1 คู่ อีกคู่ตายคนเดียว เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเหตุการณ์ที่เหลือเชื่อคาดไม่ถึง หากเด็ก 2 คน นั้นถ้าไม่ขึ้นมานอนบนอาคารอาจจะเป็น 5 ศพ


อาตมาก็ไม่ได้เห็นตรงจุดเกิดเหตุเพราะเข้านอนแล้ว แต่ไทยรัฐมาก่อนเพื่อน ไทยรัฐเห็นหมด อาตมาก็ไม่ได้เห็น แล้วไทยรัฐรับประกันว่าไม่ล็อก และที่ไม่เปิดประตูข้างหน้าเข้าไปเพราะร้อนมาก ก็เลยไปงัดด้านหลังออก


ทีนี้ ก็มีการสันนิษฐานหาเรื่องว่าวัดล็อกประตูข้างหน้า ต้องถามไทยรัฐถ้าอาตมาพูดเอง วัดพูดเอง ก็เหมือนกับเป็นการแก้ตัว ถ้าไม่เชื่อกันก็แล้วแต่ดุลยพินิจ แต่มีคลิปโชคดีที่ รปภ.ไหวตัวทัน เข้าไปถึงจึงถ่ายไว้คลิปไว้ก่อน

----------------------

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/sd2yG2LOP0k

คุณอาจสนใจ

Related News