สังคม

ถ้าไม่หลบ คุณก็จะชน! ปล่อยบั้งไฟไม่สนเครื่องบิน อ้างแจ้งวิทยุการบินแล้ว แฉเล่นพนันโจ๋งครึ่ม

โดย nattachat_c

21 พ.ค. 2567

16 views

จากเหตุการณ์นักพนันบั้งไฟโวยเจ้าหน้าที่ตำรวจห้ามจับเวลา-ขานบอกเวลา ขณะบั้งไฟขึ้นสู่อากาศ เหตุเกิดที่งานประเพณีบุญบั้งไฟแสน บ้านแข้ด่อน ต.เบิด อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ที่ผ่านมา  


ต่อมา เมื่อวันที่ 19 พ.ค.67 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าจะมีการลักลอบเล่นการพนันลักษณะเดียวกัน ในงานประเพณีบุญบั้งไฟแสนที่ด้านหลังวัดสว่างอารมณ์ บ้านจังเกา ม.10 ต.หนองไผ่ล้อม อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์ จึงได้เข้าสอบถามกับทางนายวิรุต ตรียวง นายอำเภอสำโรงทาบ ถึงมาตรการการป้องกันไม่ให้มีการเล่นการพนันบั้งไฟในงานบุญ แต่เนื่องจากเป็นวันหยุดราชการ จึงได้สอบถามทางโทรศัพท์


โดยนายอำเภอ กล่าวว่า ได้สั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองลงพื้นที่สอดส่องดูแลป้องกันแล้ว และหากมีการเล่นการพนันในงานเจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการได้เลย หรือหากว่ามีคลิปที่แสดงให้เห็นว่ามีการเล่นพนัน ก็สามารถส่งมาให้ได้ แต่ถ้าไม่มีปรากฎว่ามีการเล่นการพนัน ตนก็ไม่สามารถไประงับงานเขาได้ เนื่องจากเขาขออนุญาตจุดในงานประเพณีถวายปู่-ตา


แต่ถ้ามีคลิปชัดเจนเจ้าหน้าที่ตำรวจ กำลัง อส. ตนและป้องกันสามารถสั่งระงับได้เลย ส่วนในเรื่องการขานเวลา ตนไม่แน่ใจในประเพณีของเขา เพราะตนเพิ่งมารับตำแหน่งที่นี่ แต่ถ้ามีการนำเงินมาพนันขันต่อกันก็ผิดกฎหมาย ซึ่งทางตำรวจจะเป็นผู้ที่ชำนาญในเรื่องนี้ ซึ่งสื่อมวลชนสามารถประสานเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในงานได้เลย


ต่อมา ช่วงเวลาประมาณ 13.00 น.บั้งไฟบั้งแรกก็ได้ถูกปล่อยให้สู่อากาศ และได้รับคลิปจากผู้ที่อยู่ภายในงานถ่ายส่งมาให้ จำนวนหลายคลิป เป็นคลิปภาพที่มีการเล่นพนันขันต่อกันอย่างโจ๋งครึ่ม มีการประกาศขานเวลาบั้งไฟขึ้นผ่านทางเครื่องขยายเสียงชัดเจน


ผู้สื่อข่าวจึงได้โทรประสานแจ้งปลัดป้องกันอำเภอ ว่ากำลังมีการเล่นพนันบั้งไฟกันอยู่ในงาน ทางปลัดป้องกันก็ได้ยืนยันว่า ไม่มีเพราะตนเพิ่งออกมา และส่งคลิปที่ได้ให้กับปลัดป้องกันอำเภอสำโรงทาบดู และฝากให้ส่งต่อรายงานให้กับทางนายอำเภอรับทราบด้วย เพื่อให้หามาตรการป้องกันเหตุหรือดำเนินการระงับตามที่นายอำเภอได้กล่าวไว้


ขณะที่ บั้งไฟก็ทยอยขึ้นฐานไฟเรื่อยๆ แต่ก็ไม่มีมาตรการใดๆ ออกมา นักพนันบั้งไฟก็ยังคงเล่นกันอย่างสบายใจเหมือนเดิม ผู้สื่อข่าวได้ประสานทั้งนายอำเภอ ปลัดป้องกันอำเภอและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต่างก็เงียบกริบ และไม่มีใครรับสายหรือแจ้งกลับให้ทราบ


จากนั้นทีมผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ เพื่อตรวจสอบความจริงตามคลิปที่ได้รับ พบว่าผู้ที่จะเข้าไปในงานประเพณีบั้งไฟแสน ต้องซื้อโบว์ติดเพื่อเข้าไปชม คนละ 100 บาท ภายในงานพบนักพนันจำนวนหลักพันกว่าคน กำลังต่อรองราคาเล่นพนันกันอย่างโจ๋งครึ่ม ก่อนที่บั้งไฟจะขึ้นสู่อากาศ โดยมีกรรมการกลางคอยประกาศบอกเวลาผ่านเครื่องขยายเสียงให้เซียนพนันได้รับทราบ ทุกครั้งที่บั้งไฟขึ้นจากฐานปล่อยลอยอยู่บนอากาศ ก่อนสรุปเวลาให้ได้รับทราบ


ทั้งนี้ จากการสังเกตพบว่า ไม่พบมีเจ้าหน้าที่แต่งกายในชุดเครื่องแบบอยู่ภายในงาน และบริเวณฐานจุดบั้งไฟดังกล่าวยังพบว่ามีเครื่องบินจากสายการบินต่าง ๆ บินผ่านจำนวนหลายเที่ยวบิน ในจำนวนนั้น “มีหนึ่งสายการบินที่เกือบถูกบั้งไฟพุ่งชน รอดผ่านไปได้อย่างเฉียดฉิว” ก่อนที่จะได้ยินเสียงประกาศผ่านทางเครื่องขยายเสียงว่า การจุดครั้งนี้ได้มีการแจ้งจุดปล่อย และแจ้งวิทยุการบินแล้ว ทีมนักบินก็เหมือนกัน ถ้าคุณไม่หลบคุณก็จะชน ขณะที่การจุดบั้งไฟยังคงดำเนินการต่อไปอย่างต่อเนื่องจนเสร็จงาน


อย่างไรก็ตาม ขณะที่ผู้สื่อข่าวกำลังเดินทางกลับ ได้รับโทรศัพท์จากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าได้มีการเข้าไปจับกุมผู้หาได้จำนวน 2 ราย กำลังนำตัวส่งดำเนินคดี โดยผู้สื่อข่าวได้แนะนำว่า ให้ทางเจ้าหน้าที่ให้กรรมการกลางหยุดประกาศขานเวลา จึงจะหยุดการเล่นนักพนันได้ เพราะถ้านักพนันไม่รู้เวลาก็ไม่สามารถเล่นพนันกันได้ หากจะจับคนเล่นเป็นพันคนคงเป็นไปได้ยาก


ทั้งนี้ ในท้ายราชกิจจานุเบกษา ของประกาศจังหวัดสุรินทร์ ข้อ 3. ให้เพิ่มความต่อไปนี้ เป็นข้อ 5.5 และข้อ 5.6 ของประกาศจังหวัดสุรินทร์ เรื่องมาตรการป้องกันและการรักษาความปลอดภัยและการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชนในการจุดและปล่อย หรือกระทำการอย่างใดเพื่อให้บั้งไฟ ตะไล หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันขึ้นไปสู่อากาศ ลงวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2557


"5.5 หากปรากฏว่ามีการกระทำอันน่าเชื่อได้ว่ามีการลักลอบเล่นการพนันปั้งไฟ ตะไล หรือ วัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน นายอำเภอแห่งท้องที่ อาจพิจารณาไม่อนุญาตให้มีการจุดและปล่อยหรือกระทำการอย่างใด เพื่อให้บั้งไฟ ตะไล หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันขึ้นไปสู่อากาศในพื้นที่ดังกล่าวในปีถัดไป 5.6 หากปรากฏในภายหลังว่า มีการดำเนินการใดที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ หรือเงื่อนไขแห่งการอนุญาต หรือมีการปฏิบัติที่ไม่เหมาะสม เสี่ยงต่อการเกิดอันตราย หรือการกระทำอื่นใด อันมีลักษณะเป็นอย่างเดียวกัน นายอำเภอแห่งท้องที่ มีอำนาจสั่งระงับมิให้มีการจุดและปล่อยหรือกระทำการอย่างใดเพื่อให้บั้งไฟ ตะไล หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันขึ้นไปสู่อากาศได้" 4. ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2567 โดยนายพิจิตร บุญทัน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์

-------------------------

ผู้ใช้ X @visualfeastwang โพสต์คลิปงานประเพณีบั้งไฟของไทย ที่เดี๋ยวนี้ไม่ได้มีลักษณะเป็นท่อยาว ๆ แล้ว แต่พัฒนาไปถึงขั้นประดิษฐ์ให้เป็นลักษณะคล้ายกงล้อขนาดใหญ่ ต้องวางบนแท่น ใช้คนหลายคนช่วยกันจุดไฟ ก่อนที่บั้งไฟจะพ่นควันขโมง แล้วหมุนเป็นวง โดยมีเสียงพิธีกรในงานพากย์แบบลุ้นระทึก


เมื่อบั้งไฟหมุนวงรอบได้ที่ ก็พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ในลักษณะหมุนเป็นวง มีประกายไฟพุ่งออกมาจากบั้งไฟ ราวกับจรวดที่กำลังทยานขึ้นสู่อวกาศ ควันที่พวยพุ่งออกมา หมุนเป็นเกลียว ท่ามกลางเสียงโห่ร้องของกองเชียร์


เมื่อทะยานขึ้นไปสูงมากๆ แล้ว ก็ถึงเวลาที่บั้งไฟจะตกลงมา แต่ไม่ได้ลงมาแบบธรรมดา เพราะมันสามารถดีดร่มชู่ชีพที่ติดอยู่กับตัวบั้งไฟออกมาได้ด้วย ทำให้บั้งไฟค่อย ๆ โรยตัวลงสู่พื้น


ชาวเน็ตต่างชาติที่ได้ชมคลิป ต่างพากันบอกว่า เป็นคลิปที่ amazing มากๆ หลายคนอยากมาเที่ยวชมงานประเพณีนี้สักครั้ง  ในขณะที่ชาวเน็ตไทยแชร์คลิป พร้อมกับโพสต์ข้อความว่า “นาซา ควรมาดูงาน”  นอกจากนี้ยังมีคนแซวว่า คณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์ด้านเฟสติวัล ต้องเข้าด่วน

-------------------

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/8rQFKBePgJM

คุณอาจสนใจ

Related News