สังคม
สุดรันทด! แม่ชราเร่หางานทำหวังเลี้ยงลูกตาบอด 2 คน แต่ไม่มีใครรับ กินข้าวกับมะม่วงประทังชีวิต
โดย chalanthorn_l
17 พ.ค. 2567
10.9K views
17 พฤษภาคม 2567 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งเรื่องจากพนักงานสถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่งในจังหวัดสิงห์บุรี ว่ามีหญิงชรา รูปร่างเล็ก ร่างกายแคระ มาขอสมัครงานทำความสะอาดในสถานีบริการน้ำมัน แต่เจ้าหน้าที่ไม่ประสงค์จะรับไว้ เมื่อสอบถามถึงเรื่องราวชีวิต พบว่ามีชีวิตความเป็นอยู่ค่อนข้างรันทด
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยัง ตำบลหัวไผ่ อำเภอเมืองสิงห์บุรี เพื่อติดตามหาตัวหญิงชรา แต่เมื่อเดินทางไปถึงบ้านหลังดังกล่าว พบเพียง นางสาวอุทัยรัตน์ อายุ 49 ปี และนายมนตรี อายุ 50 ปี สองพี่น้องนั่งอยู่ที่ใต้ถุนบ้านเพียงสองคน เมื่อสอบถามนางสาวอุทัยรัตน์ กล่าวว่า หญิงชราร่างเล็กนั้น เป็นแม่ของตนเอง ชื่อนางชนาภา อายุประมาณ 70 ปี ซึ่งครอบครัวของตนอาศัยอยู่ด้วยกันเพียงสามคน มีแม่ พี่ชายที่พิการตาบอดทั้งสองข้าง และตนที่พิการตาบอด มองเห็นเลือนรางเช่นกัน ส่วนผู้เป็นพ่อเสียชีวิตไปนานหลายสิบปีแล้ว โดยแม่จะเป็นผู้ออกไปทำงานรับจ้าง หาเลี้ยงตนและพี่ชาย แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยมีงาน แม่จึงตะเวนออกไปหาสมัครงานตามที่ต่างๆ ซึ่งหากวันใดที่ไม่มีงาน ไม่มีเงิน แม่ก็จะไปขออาหารที่วัดใกล้บ้านมาให้ทานกัน หากวันไหนไม่มีอาหารก็ทานข้าวกับมะม่วงสุกที่แม่ไปเก็บมา
ที่บ้านมีรายได้จากเบี้ยผู้สูงอายุของแม่ เดือนละ 600 บาท ส่วนตนและพี่ชาย ได้เงินอุดหนุนผู้พิการ เดือนละ 800 บาทต่อคน ซึ่งเงินที่ได้ทุกเดือน ก็นำมาใช้จ่ายเป็นค่าน้ำ ค่าไฟ และข้าวสาร อาหารกระป๋องเก็บไว้ทาน แต่ก็ไม่เคยพอ ต้องไปหยิบยืมเพื่อนบ้านมาบ้าง และเมื่อได้รับเงินก็นำไปคืนเขาทุกเดือน ส่วนเรื่องสายตาที่พิการนั้น นายมนตรี เปิดเผยว่า เดิมทีก็มองเห็นเป็นปกติ มีอาชีพรับจ้างทั่วไป ชีวิตไม่ได้เดือดร้อนอะไรมาก กระทั่งเมื่อปี 2557 สายตาเริ่มมัว มองไม่ชัด ไม่มีเงินไปหาหมอจึงปล่อยมาจนเริ่มมองไม่เห็น ส่วนน้องสาวก็คาดว่าน่าจะเป็นโรคเดียวกัน ส่วนบ้านที่พักอาศัยอยู่นั้น เป็นบ้านที่กาชาดจังหวัดสิงห์บุรี ได้สร้างให้เมื่อปี พ.ศ.2544 ส่วนสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสิงห์บุรี ก็เคยลงมาให้ความช่วยเหลือบ้าง เฉลี่ยปีละ 2 ครั้ง รู้สึกสงสารแม่มากที่ต้องตะเวนหางาน หาเงินมาเลี้ยงพวกตน
ด้านเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ๆ เปิดเผยว่า ครอบครัวนี้น่าสงสาร เพราะแม่ชราต้องหาเลี้ยงลูกเพียงคนเดียว เพราะหลังจากที่ทั้งสองเป็นผู้พิการก็ไม่สามารถทำงานได้อีกเลย เพื่อนบ้านก็คอยให้ความช่วยเหลือบ้างเป็นครั้งคราว เนื่องจากก็ลำบากเหมือนกัน
ระหว่างทางจะเดินทางกลับ ผู้สื่อข่าวได้พบกับนางชนาภา แม่ชรากำลังขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างกลับบ้าน จึงได้พูดคุยสอบถาม ทราบว่าไปหาสมัครทำงาน แต่ก็ไม่มีที่ใดรับ เพราะเป็นคนตัวเล็ก ร่ายกายแคระ ผู้ว่าจ้างเกรงว่าจะทำงานไม่ไหว แต่ตนยืนยันว่าทำไหวอย่างแน่นอน ซึ่งการไปสมัครงานแต่ละครั้งจะต้องบอกว่าตัวเองอายุ 60 ปี เพราะเกรงว่าหากบอกอายุจริง จะไม่มีใครจ้างทำงาน เพราะอายุมากแล้ว
แท็กที่เกี่ยวข้อง แม่ชราเลี้ยงลูกพิการ