สังคม

คณะสงฆ์สั่งสอบปมแม่ชีกระโดดหน้าต่างออกจากกุฏิ พระยัน แม่ชีไม่ได้อยู่ในกุฏิ เชื่อถูกกลั่นแกล้ง

โดย paranee_s

7 พ.ค. 2567

672 views

กรณีชาวบ้านถ่ายคลิป หญิงแต่งกายคล้ายแม่ชี ระบุว่าเพิ่งปีนออกจากหน้าต่างกุฏิพระสงฆ์ ซึ่งพระในคลิปให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวบอกว่าเป็นรักษาการเจ้าอาวาส ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า เป็นเพียงพระลูกวัด บอกว่าแม่ชีมาล้างซวยเพราะเหยียบแมวตาย โดยมาทำพิธี 3 วัน วันดังกล่าวเป็นวันสุดท้ายในการทำพิธีล้างซวย พร้อมกับสอบถามหญิงที่แต่งกายคล้ายแม่ชีว่าเข้ามาทำไมดึกๆ ดื่นๆ แต่หญิงที่แต่งกายคล้ายชีก็ไม่ตอบ และกดโทรศัพท์เพียงอย่างเดียว โดยมีทางผู้นำชุมชน ตำรวจ สภ.บ้านไผ่ ชาวบ้าน เข้าตรวจสอบและเกิดเหตุการณ์ชุลมุน


โดยเจ้าคณะตำบลขอความร่วมมือกับชาวบ้านให้แยกย้ายกันไปก่อน กระทั่งชาวบ้านในชุมชนแบ่งเป็นสองฝ่าย ทั้งปกป้องพระและออกมาขับไล่พระ ซึ่งทางเจ้าคณะตำบลบ้านไผ่ ยังไม่มีคำตอบแน่ชัดว่าจะดำเนินการตามวินัยของสงฆ์อย่างไร ซึ่งล่าสุดวันนี้ ทางด้านนายพิชัย วันตา นายอำเภอบ้านไผ่ ได้เรียกผู้ใหญ่บ้านและผู้นำที่อยู่ในเหตุการณ์มาให้ข้อมูล และจะเข้าไปตรวจสอบกับทางเจ้าคณะอำเภอบ้านไผ่อีกทางเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม


ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 พ.ค.2567 ที่วัดในม.5 ต.บ้านไผ่ อ.บ้านไผ่จ.ขอนแก่น พระพี่ชาย และลูกศิษย์ของ พระ เอ ซึ่งยืนยันแล้วว่าเป็นพระลูกวัดที่วัดสวาทบ้านธาตุ เนื่องจากยังไม่มีการแต่งตั้งเจ้าอาวาสหรือมีรักษาการเจ้าอาวาส กำลังขนย้ายข้าวของ และอัฐบริขารส่วนตัวพระไปจำวัดอื่น ภายหลังจากรับทราบมติของพระผู้ใหญ่ ที่มีมติให้ย้ายออกไปจากวัด แต่ยังไม่มีการลงโทษถึงขั้นสึกให้ลาสิกขาไปแต่อย่างใด


ซึ่งบรรยากาศในช่วงขนข้าวของนั้น พระเอถึงกับน้ำตาคลอ และพูดบ่นว่ายอมแพ้แล้ว ไม่สู้แล้ว ซึ่งผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่าไม่สู้กับอะไร ยอมแพ้ให้อะไร ซึ่งพระเอบอกว่า ถูกคนบางคนบางกลุ่มกลั่นแกล้ง ไม่อยากให้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาส เพราะที่ผ่านมาอยู่ที่วัดนี้มากว่า 10 ปี เคยจะขึ้นเป็นเจ้าอาวาส ได้เป็นรักษาการ แต่ก็ถูกหาเรื่องจนถูกปลดเป็นเพียงพระลูกวัด


กระทั่งมาเกิดเรื่องนี้ซึ่งไม่ได้เป็นไปตามที่ถูกกล่าวหา พร้อมกันนี้ยังได้พาผู้สื่อข่าวเข้าไปดูภายในกุฏิ และบอกกับผู้สื่อข่าวว่า วันเกิดเหตุแม่ชีไม่ได้ขึ้นมาบนกุฏิ และไม่ได้กระโดดออกจากกุฏิ เพราะไม่สามารถทำได้ เนื่องจากมีตู้เก็บของขนาดใหญ่ตั้งบังอยู่ และหากจะเคลื่อนย้ายต้องใช้แรงมากถึงจะสามารถเปิดหน้าต่างที่มีหน้าต่างมุ้งลวดอีกชั้นได้ เนื่องจากเวลาเปิดของหน้าต่างจะชนตู้ ต้องเคลื่อนตู้ให้พ้นรัศมีการเปิดออกมา


เมื่อเปิดหน้าต่างไปได้ก็จะมีโครงเหล็กตั้งคอมเพลสเซอร์แอร์ และในจุดดังกล่าวไม่มีไฟส่องสว่างมองเห็น อาจะจะพลาดเหยียบแล้วตกได้รับบาดเจ็บได้ และหลังเกิดเหตุหน้าต่างก็ปิดอยู่ตามเดิม หากอยู่บนกุฏิและกระโดดออกทางหน้าต่างก็เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก และหน้าต่างบานอื่นก็มีมุ้งลวดเหล็กดัดติดตั้งไว้ทั้งหมด


โดยจากการลงพื้นที่ ไปที่วัดดังกล่าว พระเอ (นามสมมุติ) อายุ 45 ปี (พระลูกวัดดังกล่าว เปิดเผยว่า บวชมานานและจำพรรษาที่วัดแห่งนี้มา 11 ปีแล้ว ส่วนกรณีที่มีชาวบ้านจับตัวหญิงแต่งชุดขาวว่าเป็นแม่ชีกระโดดออกจากกุฏินั้น หญิงรายดังกล่าวชื่อนางบี (นามสมมุติ) เป็นแม่ชีจริง บวชวัดที่วัดใน ต.บ้านลาน อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น


โดยก่อนหน้านี้ นางบี มีสามีและหย่าขาดกับสามีชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จากนั้นได้มาบวชชี ด้วยศรัทธาที่มีต่อพระเอ จึงนับถือผูกเป็นพี่น้อง โดยแม่ชีบีนับถือพระเอเป็นพี่ชาย โดยก่อนเกิดเรื่องนั้น แม่ชีได้มาหาพระเอที่วัดแล้วบอกว่า ขับรถเหยียบแมวตาย จึงมาหาพระเอ ล้างซวย ล้างบาปให้ โดยเริ่มทำพิธีในช่วงเย็นวันที่ 30 เมษายน 2567 ต่อด้วยเย็นวันที่ 1 พ.ค.และเย็นวันที่ 2 พ.ค. เป็นเย็นสุดท้ายที่จะทำพิธีล้างซวยให้ ด้วยการเอาน้ำล้างบาตร ราดที่ตัวรถของแม่ชี


ต่อมาเย็นวันสุดท้ายคือวันที่ 2 พ.ค นั้น แม่ชีมาพร้อมญาติโยมใช้รถ 2 คัน เมื่อขับรถของตัวเองมาถึงวัด แม่ชีได้จอดรถไว้ที่หน้าศาลธรรมสังเวช จากนั้นก็ออกจากวัดไปกับญาติโยม กลับเข้าวัดมาประมาณ 2 ทุ่ม เมื่อญาติโยมส่งแม่ชีที่วัดแล้วก็ขับรถออกไป จากนั้นจึงทำพิธีล้างซวยที่รถให้ ส่วนแม่ชีก็นั่งในรถ เสร็จพิธีสามทุ่มกว่า จึงเดินเข้ากุฏิ ปิดไฟเมื่อจะนอน


จากนั้นก็มีเสียงผู้ใหญ่บ้าน ตำรวจและชาวบ้านมาเรียกเพื่อขอตรวจค้นกุฏิ จึงออกจากกุฏิมาคุยกันที่ศาลาหน้ากุฏิ และไม่ให้ค้นกุฏิ เพราะไม่รู้ว่าค้นด้วยเหตุใด เกิดอะไรขึ้น จึงไม่ให้ค้น จากนั้นไม่นานก็มีชาวบ้าน ตะโดนบอกว่า จับตัวได้แล้ว และคุมตัวแม่ชีเดินมาที่ศาลาหน้ากุฏิ พร้อมกับบอกว่า คุมตัวแม่ชีไว้ได้หลังจากกระโดดลงมามจากหน้าต่าง


พระเอ กล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น วันต่อมา ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน เจ้าคณะตำบลและชาวบ้านก็มาพูดคุยกันที่วัด โดยสรุปว่าให้ตนออกจากวัด ซึ่งเมื่อมติของพระและชาวบ้านเห็นตรงกันก็ปฏิบัติตาม ว่าจะออกจากวัด จึงเรียกญาติโยมมาขนของออกจากกุฏิที่วัดสวาท บ้านธาตุ ม.5 ต.บ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่นไปอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในตำบลคึมชาติ อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น เพื่อความสงบสุขของญาติพี่น้องในหมู่ และไม่ขอปฏิเสธใดๆ กับเรื่องดังกล่าว แม้ว่าไม่ได้ทำผิดอะไร ก็ไม่ขอโต้เถียง


ทางด้าน นายประพันธ์ อายุ 87 ปี ชาวบ้านที่มาช่วยพระเอขนสิ่งของ กล่าวว่า ตั้งแต่พระเอมาจำพรรษาที่วัด ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร เพราะพระเอเป็นพระที่รู้ขนบประเพณีและรู้เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา และไม่เคยมีปัญหาเรื่องเรี่ยไรเงินหรืออยากได้เงิน มีแต่ช่วยเหลือคนยากคนจน ใครตายที่ไหน ไม่มีเงินจัดงานศพ ไม่มีโลงศพพระเอช่วยเหลือมาตลอด กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวัดครั้งนี้


โดยส่วนตัวมองว่า คนที่จะกระโดดออกจากหน้าต่างกุฏิพระ ต้องบาดเจ็บไม่มากก็น้อย และคงจะกระโดดยาก เพราะหน้าต่างจุดดังกล่าวมีตู้ขนาดใหญ่ตั้งปิดหน้าต่างไว้ ต้องใช้คน 2-3 คน ยกตู้ออกจึงจะเปิดหน้าต่างได้ ส่วนนอกหน้าต่างก็มีเหล็กครอบคอมเพลสเซอร์แอร์ตั้งอยู่ คนที่กระโดดหน้าต่างต้องบาดเจ็บไม่มากก็น้อย แล้วการที่มีคนมาห้อมล้อมกุฏิพระเอาไว้ ทำไมไม่จับแม่ชีตั้งแต่ตอนออกมาจากหน้าต่าง ทำไมไปคุมตัวได้ที่รถยนต์ที่จอดอยู่ จึงมองว่า มีขบวนการทำร้ายพระเอ ต้องการขับไล่พระเอออกจากวัด


ส่วนแม่ชีรายดังกล่าวนั้นทราบว่า ผูกความเป็นพี่น้องกับพระเอมานานแล้ว และพยายามจะทำนุบำรุงภายในวัดวัดสวาท บ้านธาตุมาตลอด และไม่เห็นแม่ชีมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และการถูกคุมตัวนครั้งนี้ ก็น่าจะมีคนไม่หวังดีใส่ร้าย เพื่อขับไล่พระเอ ออกจากวัด แต่เมื่อชาวบ้านบางส่วนไม่เอาพระเอ ต้องการให้พระเอออกจากวัดจึงพาพระเอ ไปอยู่ที่วัดในตำบลคึมชาติ อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น จะได้จบปัญหากันไป


ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้คุยกับ นางสุพร อายุ 66 ปี ชาวบ้านธาตุที่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าว ทราบว่า ก่อนที่ชาวบ้านจะพากันไปที่วัดกับผู้นำชุมชนนั้น มีชาวบ้านอีกคนมาบอกว่าเห็นแม่ชีเข้ามาในวัดในเวลา 20.00 น เมื่อทางผู้นำได้ทราบเรื่อง ก็ได้ประสานทางตำรวจสภ.บ้านไผ่ พระผู้ใหญ่ และกำนัน พร้อมทั้งได้บอกกับชาวบ้านว่า ถ้าไม่ถึงช่วงเวลา 22.00 น ยังไม่ต้องออกไปที่วัด กระทั่ง 22.00 น. ตนเองออกไปที่วัดก็เห็นทางผู้นำเถียงกับทางพระอยู่แล้ว อยู่บริเวณหน้ากุฏิ แต่ยังไม่ได้เห็นแม่ชี


โดยทางเจ้าหน้าที่กับพระ ก็ได้พูดคุยกันอยู่นานกว่า 30 นาที ซึ่งจากที่ฟังได้ยินเจ้าหน้าที่ขอเข้าไปดูในกุฏิ แต่ทางพระไม่ยอมให้เข้าไปดู ทำให้ไม่มีใครกล้าเข้า โดยพระพูดจะเอาเรื่องทางพวกผู้นำอย่างเดียวและจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ว่าถูกทางผู้นำกลั่นแกล้ง


จากนั้นก็ได้ยินเสียงเปิดหน้าต่าง และได้ยินเสียงตุ๊บลงมา ดูมีลักษณะเป็นแม่ชีเลยเพราะมีการโกนหัว แม่ชีก็คงร้อนใจอยู่ไม่ได้ จึงได้กระโดดออกมาจากทางหน้าต่าง ทางกุฏิที่พระนอน แต่ทางผู้นำก็ได้นัดกันไว้แล้วว่าให้ผู้นำ หรือชาวบ้านกลุ่มหนึ่งรออยู่หลังกุฏิ และอีกกลุ่มหนึ่งให้รออยู่ทางกำแพง กระทั่งเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น


อย่างไรก็ตามนายวิชัย นายอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า หลังทราบเรื่องได้ให้นายธนา สุขุม ผู้ใหญ่บ้าน บ้านธาตุ มาพบปลัดอาวุโส เพื่อให้ข้อมูลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากนั้นในช่วงบ่ายจะลงพื้นที่วัดตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนที่จะสรุปเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดรายงานไปยังจังหวัดขอนแก่นและสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดขอนแก่นตามขั้นตอนต่อไปเพื่อพิจารณาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเข้าข่ายความผิดหรือไม่


ส่วนแม่ชีนั้นทราบว่าเป็นแม่ชีอยู่ที่สำนักสงฆ์แห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลภูเหล็ก อำเภอบ้านไผ่โดยหลังจากที่เจ้าหน้าที่และชาวบ้านได้เข้าไปพบเจอตัวก็ได้กลับไปที่สำนักสงฆ์โดยไม่ได้มาที่วัดอีกเลย


ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง พระเทพวิสุทธิกุล เจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น เบื้องต้นทางเจ้าขอนแก่นยังได้ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นยังไม่มีรายงานเรื่องจากเจ้าคณะตำบลบ้านไผ่ หากมีรายงานเข้ามาก็จะได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงหากมีมีความผิดทางวินัยสงฆ์จริง ก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป


ต่อมาเวลา 14.00 น. วันที่ 7 พ.ค.2567 พระครูปริยัติ รองเจ้าคณะอำเภอบ้านไผ่ รักษาการเจ้าอาวาสวัดที่เกิดเหตุ เรียกประชุมคณะสงฆ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จากสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย นายพิชัย วันตา นายอำเภอบ้านไผ่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านไผ่ รวมทั้งกำนันตำบลบ้านไผ่ ผู้ใหญ่บ้าน บ้านธาตุม.5 เพื่อหารือและเพื่อหาข้อสรุปกับเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับพระเอและแม่ชี โดยการประชุมเสร็จสิ้นในช่วงเวลา 16.00 น.


นายพิชัย นายอำเภอบ้านไผ่ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวภายหลังประชุมถึงกรณีดังกล่าวว่า ทางอำเภอร่วมกับคณะสงฆ์โดยเจ้าคณะอำเภอ บูรณาการร่วมกันกับฝ่ายปกครอง คณะสงฆ์และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้มีการร่วมกันตรวจสอบข้อเท็จจริง และทางคณะสงฆ์จะมีการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน และในระหว่างนี้มีคำสั่งให้พระสงฆ์รูปดังกล่าวในคลิป มาประจำที่วัดในสังกัดเจ้าคณะอำเภอในเมืองบ้านไผ่ เพื่อให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง และทราบผลภายใน 15 วัน ด้วยความเป็นธรรม และเบื้องต้นทราบว่าพระรูปนี้ได้ออกจากวัดไปแล้ว


ส่วนแม่ชีจากการลงพื้นที่ไปตรวจสอบก็ทราบว่าไม่อยู่แล้ว ทราบเพียงว่าเป็นชาวภาคกลาง โดยในการตรวจสอบนั้น หากถามถึงความผิดด้านวินัยสงฆ์ การที่เข้าไปในเวลาดังกล่าวนั้น มีการพูดคุยกันและสอบสวนเบื้องต้น ทั้งพระและชีได้ปฏิเสธจึงมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา เพื่อหาข้อมูลหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ได้นำไปชั่งน้ำหนักในการตรวจสอบให้รู้ผลภายใน 15 วัน เพื่อชี้ความผิดและดำเนินการลงโทษตามระเบียบวินัยของสงฆ์และทางโลกหากพบว่าเข้าข่ายการกระทำความผิด ซึ่งยืนยันให้ความเป็นธรรม


ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 7 พ.ค.67 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่สถานปฏิบัติธรรมที่แม่ชีมาบวช ในพื้นที่ บ้านหนองรู้แข้ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น โดยได้พูดคุยกับพระที่ดูแลสถานปฏิบัติธรรมดังกล่าว ทราบว่า แม่ชีมาบวชชีได้ 5 เดือน มาปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิจะไม่เปิดวาจา สวดมนต์เริ่ม ตี 3 ปฏิบัติธรรมไปจนถึงสามทุ่มของทุกวัน เรื่องส่วนตัวหรือการได้พูดคุยกันนั้นจะน้อย ส่วนใหญ่ตามปฏิบัติธรรมของใครของมัน เมื่อเสร็จก็แยกย้าย


และเมื่อวานที่ผ่านมาแม่ชีได้มากราบลาพระอาจารย์หลังจากฉันข้าวเสร็จแล้ว จะขอสึก โดยบอกเหตุผลว่าลูกไม่สบาย ซึ่งพระอาจารย์ก็ได้เพียงบอกเดินทางปลอดภัยโชคดีและอวยพรให้ ส่วนข่าวที่เกิดขึ้นนั้นก็เพิ่งจะทราบ ซึ่งเราไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์เราก็พูดไม่ได้ว่าเจตนาของคนนั้นเป็นอย่างไร ส่วนช่วงเวลาที่เกิดเหตุนั้นก็อยากให้ดูที่เจตนาพิจารณาเหตุผล


จากการสอบถามแม่ชีด้วยกันภายในสถานปฏิบัติธรรมดังกล่าว บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ถ้าถามว่ามีแม่ชีขับรถเก๋งสีขาวหรือไม่ ก็จะมีอยู่หนึ่งคนคือแม่ชี้แนน เป็นชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แต่ในระหว่างที่ปฏิบัติธรรมนั้นต่างคนต่างตั้งมั่นทำสมาธิจะไม่มีใครสนใจกันและจะไม่ได้เล่นโซเชียล จึงไม่ไม่ทราบเกี่ยวกับข่าวที่เกิดขึ้นว่าเป็นเรื่องอะไร แต่เห็นแม่ชีแนน ช่วงเช้ายังอยู่ที่สถานปฏิบัติธรรม แต่หลังจากช่วงเที่ยงก็ไม่พบเห็นแล้ว


แต่ทราบเบื้องต้นว่าแม่ชีแนนได้ขอลาสิกขากลับบ้าน เนื่องจากลูกสาวไม่สบาย แต่ในส่วนของข่าวที่เกิดขึ้นนั้นทุกคนในสถานปฏิบัติธรรมไม่มีใครทราบรายละเอียดแต่อย่างใดแต่ทราบจากทางสื่อมวลชนที่ลงพื้นที่มาถาม


อย่างไรก็ตามทางคณะสงฆ์จะมีการประชุมกันเพื่อเข้าสู่กระบวนการทางสงฆ์ ซึ่งความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ