สังคม
วันนั้นแค่ทดลองยกถุง เตรียมขน 'กากแคดเมียม' กลับตาก 3 พ.ค. - 'ดร.เอ้' ชำแหละปมขนย้าย ต้องทำยังไง
โดย nattachat_c
2 พ.ค. 2567
26 views
จากกรณี วันที่ 30 เม.ย. 67 เวลา 08.20 น. ที่ บริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) ตั้งอยู่ที่จังหวัดตาก ซึ่งเป็นโรงงานกักเก็บกากอุตสาหกรรมแคดเมียม ที่เป็นต้นทางของการขนสารแคดเมียมไปที่จังหวัดสมุทรสาคร และกรุงเทพมหานคร ซึ่งได้ทำการขนย้ายนำกลับมายังแหล่งต้นทาง ในช่วงกลางดึกคืนวันที่ 29 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งระหว่างขนย้ายแคดเมียมทั้งหมดลงเก็บไว้ในที่ปลอดภัย เพื่อคอยการขนย้ายแคดเมียมในล็อตต่อไป เกิดปัญหาขึ้นคือ 'โซ่บิ๊กแบ็กถุงแรกขาด' ขณะรถแบคโฮยกถุงบิ๊กแบ็กบรรจุกากแคดเมียมลงจากรถพ่วงไปใส่รถบรรทุกอีกคัน ทำให้ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมต้องสั่งยุติการลำเลียงทันที ก่อนประชุมปรับแผนในช่วงบ่าย
วานนี้ (1 พ.ค. 67) ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะทำงานแก้ไขปัญหา และขนย้ายกากตะกอนแคดเมียม เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชน เป็นประธานการประชุมคณะทำงานฯ ครั้งที่ 2/2567 ณ ห้องประชุมตากสิน ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดตาก โดยมีนายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก คณะทำงาน ผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) บริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมด้วยนายคริษฐ์ ปานเนียม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตาก เขต 1 พรรคก้าวไกล และผู้แทนประชาชนในพื้นที่รอบโรงงาน เข้าร่วมด้วย
ดร.ณัฐพลกล่าวว่า คณะทำงานฯ ได้ปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบกระบวนการขนย้ายกากตะกอนแร่แคดเมียมทั้งหมด รวมทั้งอำนวยการ จัดการ และกำกับดูแลในการแก้ไขปัญหาการขนย้ายกากตะกอนแร่แคดเมียมกลับไปฝังกลบในพื้นที่โรงงานจังหวัดตาก โดยคณะทำงานฯ ได้ร่วมกันหารือแนวทางการดำเนินงาน พร้อมวางแผน ซักซ้อมความเข้าใจ และทำการทดสอบประกอบการขนย้ายอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งที่ผ่านมาการทดสอบต่างๆ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งกระบวนการทดสอบการซ้อนถุงและมัดปากถุงเพื่อป้องกันการรั่วไหล (double bag) การชั่งน้ำหนัก การชักตัวอย่างเพื่อทดสอบ การระบุรายละเอียด และหมายเลขถุง การทดสอบโหลดถุงขึ้นรถ และการทดลองขนย้าย ซึ่งกระบวนการทดสอบต่าง ๆ เป็นไปด้วยความราบรื่น
แต่มาพบปัญหา และอุปสรรค ในช่วงเช้าของวันที่ 30 เมษายน 2567 ขณะเริ่มทำการทดลองยกถุงเพื่อเปลี่ยนถ่ายไปยังรถบรรทุกขนส่งภายในโกดังพักคอยของบริษัท ของบริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) จังหวัดตาก ซึ่งพบปัญหาเนื่องจากเสียสมดุลขณะยกถุง ทำให้โซ่ที่ใช้ในการยกถุง big bag ขาด ส่งผลให้ถุงกากตะกอนแร่ร่วงหล่นลงบนกระบะของรถบรรทุกขนย้าย โดยบริษัทฯ ได้ใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดผงกากตะกอนแร่กลับไปเก็บรอการฝังกลบ ส่วนถุง big bag ชั้นในไม่ได้เกิดการฉีกขาดแต่อย่างใด เมื่อเกิดเหตุจึงได้สั่งหยุดการขนย้าย และการดำเนินการทุกขั้นตอน
ทั้งนี้ ในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน บริษัทฯ ได้ปรับเปลี่ยนไปทดลองใช้แผนสำรองตามที่คณะทำงานฯ ได้เตรียมการไว้ โดยการทดสอบปรับใช้สลิงผ้าใบในการยกถุง และใช้รถบรรทุกติดเครน หรือรถเฮี๊ยบ ซึ่งเป็นรถที่ใช้ในการขนส่งหรือขนย้ายสิ่งของที่มีขนาดใหญ่ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว สามารถปรับระดับความสูงต่ำของเครนเพื่อลดความเสี่ยงในการขนย้ายกากตะกอนแร่ ผลการทดลองปรากฎว่า การใช้รถเฮี๊ยบร่วมกับสลิงผ้าใบในการยกถุงมีความเหมาะสมที่จะใช้กับงานขนย้ายกากตะกอนแร่แคดเมียมได้อย่างปลอดภัย
ขณะที่ในช่วงบ่าย คณะทำงานฯ ได้ร่วมกันประชุมหารือแบบเปิดที่เน้นการมีส่วนร่วม เปิดให้ประชาชนและผู้แทนชุมชนรอบโรงงานที่ตั้งของบ่อฝังกลบ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสื่อมวลชนเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นเพื่อร่วมกันหาทางออกและแก้ไขปัญหาให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการและข้อห่วงใยของประชาชนในพื้นที่ให้มากที่สุด
---------------
ด้าน นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ ดร.เอ้ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กทม. ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว หลังจากสังเกตการณ์ และตรวจสอบข้อมูลการขนย้ายกากแคดเมียมซึ่งมีความอันตรายสูง หากเกิดข้อผิดพลาดระหว่างขนย้าย ซึ่งสารแคดเมียมมีโอกาสแพร่ใส่ผู้ปฏิบัติงานหรือประชาชนทั่วไปได้ เช่นกรณีที่เกิด 'โซ่ขาดขณะยกถุงบิ๊กแบ็ก' ทำให้ถุงตกลงมาแตกเกิดการฟุ้งกระจายของกากแคดเมียม
1. เปลี่ยนรถบรรทุกกากแคดเมียมจากรถบรรทุกเปิดใช้เพียงผ้าใบคลุม ซึ่งบางคันยังคลุมไม่มิดชิด ทั้ง ๆ ที่เพิ่งขนไม่กี่คัน ถ้าต้องขนเพิ่มอีกนับร้อยเที่ยวจะเกิดอะไรขึ้น ดังนั้น การขนกากแคดเมียมจากนี้ ต้องใช้รถบรรทุกตู้ปิดทั้งหมด และต้องมีการติดป้ายระบุว่าเป็นวัสดุอันตราย ให้เห็นอย่างชัดเจน
2. ระหว่างการขนย้ายจากโรงงานขึ้นรถบรรทุก ต้องมีคณะกรรมการที่มีตัวแทนชุมชนและนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม ร่วมตรวจสอบ ยืนยันความปลอดภัยก่อน จึงจะเคลื่อนย้ายได้
3. ในขบวนขนย้าย ต้องมีทีมป้องกัน และแก้ปัญหา หากเกิดอุบัติเหตุระหว่างขนย้าย ได้ทันทีและมีประสิทธิภาพ
4. การยกถุงบิ๊กแบ็ก ต้องใช้วิธีที่ถูกหลัก ป้องกันการตกหล่นหรือเอียงเสียศูนย์ รวมทั้งอุปกรณ์ทุกส่วนต้องได้มาตรฐาน ผ่านการคำนวณทางวิศวกรรมแล้วว่าสามารถขนย้ายได้
จากภาพการขนย้ายล็อตแรก ที่ใช้รถแบคโฮขึ้นไปจอดบนเนินที่ทำขึ้นชั่วคราว เพื่อให้สูงพอจะยกบิ๊กแบ็กออกจากรถบรรทุกได้ เป็นภาพที่ไม่น่าเชื่อว่าจะได้เห็นในการขนย้ายวัสดุอันตรายขนาดนี้ แสดงถึงความไม่พร้อมของอุปกรณ์ และความหละหลวมในการวางแผนอย่างชัดเจน
5. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ออกมาแถลงข่าวถึงความพร้อมทั้งงบประมาณ อุปกรณ์ และวิธีการขนย้าย ก่อนจะขนย้ายล็อตต่อไป เพื่อให้สังคมได้รับทราบ และตรวจสอบ
ข้อสังเกตตรงนี้คือ ก่อนการขนย้ายล็อตแรก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมออกมาให้สัมภาษณ์อย่างดิบดีว่า มีความพร้อมในการขนย้าย แต่เมื่อลงมือจริง ๆกับหละหลวมมาก จนน่าสงสัยว่าท่านรัฐมนตรีถูกข้าราชการวางยาเอาหรือเปล่า
โดยเฉพาะงบที่ใช้ในการขนย้าย ต้องชี้แจงออกมาให้ชัดเจน เพราะเท่าที่ดู ไม่เหมือนการขนย้ายกากอุตสาหกรรมอันตรายที่เป็นปัญหาระดับชาติ แต่ 'อุปกรณ์ที่นำมาใช้ เหมือนเครื่องมือก่อสร้างห้องแถวไม้ชั้นเดียว' เท่านั้นเอง น่าอนาถมาก
-------------------
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/-Qp3phIYo0E