สลด แท็กซี่ขับชนตำรวจดับ อ้างดื่มแต่ไม่เมา แต่แอลฯพุ่ง 287 เมียร่ำไห้เล่าสุดยื้อ

สลด รองสารวัตรจราจร สน.บางเขน ยืนโบกรถดูแลงานวิ่งของ ม.ดัง แท็กซี่เมาขับพุ่งชนร่างกระเด็น ก่อนสิ้นใจที่ รพ. วัดปริมาณแอลกอฮอล์พุ่งปรี๊ด 287 มก.% เจ้าตัวรับดื่มจริงแต่ไม่ได้เมา อ้างตำรวจเดินออกมาขวางหน้ารถกะทันหัน พยายามหักหลบแต่ไม่พ้น เมียเผยสามีรักอาชีพนี้ สุดท้ายต้องมาจบชีวิตกับคนไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคม


เมื่อวันที่ 28 เม.ย.67 เวลา 06.00 น. เกิดเหตุ ร.ต.ต.อัสดา จำเนียรศรี รองสารวัตร (จร.) สน.บางเขน อายุ 54 ปี ขณะอำนวยความสะดวกการจราจร บริเวณหน้าอู่รถประจำทางสาย 95 ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ ในการจัดงานเดินวิ่งการกุศล วิทยาลัยราชภัฏพระนคร ถูกรถแท็กซี่สีเขียวเหลือง ขับรถมาเฉี่ยวชนบาดเจ็บสาหัส จนต้องมีการเรียกกู้ชีพจากโรงพยาบาลราชวิถี มาทำการช่วยเหลือนำส่งที่โรงพยาบาลภูมิพล แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา


เหตุการณ์นี้กล้องวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์วินาทีชนได้ จะเห็นว่า ร.ต.ต.อัสดา ยืนอยู่ข้างถนน จากนั้นได้เดินออกมากลางถนนเพื่อโบกรถ จังหวะนั้นรถแท็กซี่ขับมาด้วยความเร็วพุ่งชนร่างของ ร.ต.ต.อัสดา ลอยขึ้นไปกระแทกกับกระจกหน้ารถแตก แล้วร่วงลงมากระแทกกับพื้นถนน มีแผลยาวที่ศีรษะ 6 เซนติเมตร หมดสติไม่รู้สึกตัว


ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายวราบุตร์ หรือบอย อายุ 44 ปี อาชีพขับรถแท็กซี่ โดยตำรวจได้นำรถแท็กซี่มาจอดไว้ที่ สน.บางเขน สภาพกระจกหน้ารถฝั่งขวาแตกร้าว คาดว่าน่าจะพุ่งชนอย่างแรงจนร่าง ร.ต.ต.อัสดา ลอยกระเด็น


จากนั้นตำรวจได้ควบคุมตัวนายวราบุตร์ คนขับรถแท็กซี่ ไปที่ สน.บางเขน ทำการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์พบมีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดสูงถึง 287 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จากนั้นได้คุมตัวเข้าห้องควบคุมผู้ต้องหา เนื่องจากเจ้าตัวอยู่ในอาการมึนเมา ไม่มีสติ ยังไม่สามารถให้ปากคำได้


ต่อมา 14.20 น. ตำรวจได้คุมตัวนายวราบุตร์ ออกจากห้องขังมาสอบปากคำ เจ้าตัวก็ยังอยู่ในอาการมึน ๆ กลิ่นเหล้าหึ่ง ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม ให้การว่าก่อนเกิดเหตุ ตนเองขับรถไปดูฟุตบอลและดื่มกินกันเพื่อนย่านห้วยขวาง พอบอลจบ กำลังจะขับรถกลับบ้านย่านวงเวียนบางเขน พอมาถึงจุดเกิดเหตุตำรวจจราจรได้เดินออกมาขวางหน้ารถกะทันหัน ตัวเองพยายามหักหลบแต่ไม่พ้น ยอมรับว่าดื่มมาจริงแต่ไม่ได้เมา เมื่อถามว่าตอนชนรู้ตัวมั้ยเจ้าตัวไม่ตอบ


พ.ต.อ.อนันต์ วรสาตร์ ผู้กำกับการ สน.บางเขน เผยว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา ขับรถโดยประมาท, ขับรถเฉี่ยวชนผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ขับรถโดยสารสาธารณะขณะมึนเมา และสั่งการให้ตรวจสอบสิทธิข้าราชการทุกรายการ, ประสานเรื่องสิทธิสวัสดิการต่าง ๆ ประสานญาติเรื่องการจัดทำพิธีกรรมทางศาสนาและสิทธิต่าง ๆ เพื่อให้ ร.ต.ต.อัสดา และครอบครัวได้รับสิทธิต่าง ๆ พึงมีพึงได้โดยครบถ้วนต่อไป โดยร่างของ ร.ต.ต.อัสดา ผู้เสียชีวิต ขณะนี้อยู่ระหว่างชันสูตรที่โรงพยาบาลภูมิพล วันนี้ (29 เม.ย.) เวลา 11.00 น. ทางครอบครัวจะเข้าติดต่อรับศพนำไปประกอบพิธีกรรมบำเพ็ญกุศลที่วัดพรพระร่วงประสิทธิ์ ถนนสุขาภิบาล 5 ต่อไป


ทีมข่าวได้คุยกับ นางเบญจวรรณ ภรรยาของ ร.ต.ต.อัสดา เปิดเผยว่า สามีรีบเข้านอนแต่หัวค่ำและเตรียมขัดรองเท้าไว้ เพื่อที่จะไปปฏิบัติหน้าที่ในการอำนวยความสะดวกงานวิ่ง เช้าวันที่ 28 เม.ย. และสามีได้รีบตื่นไปตั้งแต่ตี 3 เพื่อไปปล่อยแถวตอนตี 4 กระทั่ง 6 โมงเช้า ตนได้รับสายโทรทัศน์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางเขน บอกว่าให้ทำใจดี ๆ เพราะสามีประสบอุบัติเหตุรถชน ตอนนั้นตนช็อกมาก รีบเรียกลูก ๆ ให้ไปดูพ่อที่โรงพยาบาล


เมื่อไปถึง หมอบอกว่าสามีเลือดออกเยอะมาก จนทำให้ความดันต่ำ สุดท้ายก็หยุดหายใจ ตนขอให้หมอพยายามยื้อชีวิตโดยการปั๊มหัวใจไปถึง 5 ครั้ง แต่สุดท้ายก็ยื้อไว้ไม่ไหว เสียชีวิตในที่สุด ยอมรับว่าตนเสียใจมาก เพราะเหตุการณ์มันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่ทันได้ร่ำลากัน อีกทั้งตนยังมีลูก ๆ อีก 4 คน ต้องดูแล สามีเป็นเสาหลักของบ้าน


ทั้งนี้ กล้าพูดได้เลยว่าสามีของตนเป็นตำรวจน้ำดี ขยันตั้งใจในการปฏิบัติหน้าที่ และรักในอาชีพนี้มาก แต่สุดท้ายต้องมาจบชีวิตกับคนที่ไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคมแบบนี้ และที่คนก่อเหตุอย่ามาอ้างว่าไม่เมา ตนไม่เชื่อเด็ดขาดเพราะปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดสูงถึง 287 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ และหลังจากที่ตนได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิด ผู้ก่อเหตุขับมาด้วยความเร็วไม่ได้เบรกเลยแม้แต่น้อย จะมาบอกว่าสามีตนเดินไปตัดหน้าก็ไม่ใช่ เพราะขณะที่สามีเดินออกไป ในตอนนั้นรถโล่ง และสามีต้องออกไปอำนวยความสะดวกให้กับคนที่มาวิ่งอยู่แล้ว


ส่วนเรื่องคดี ตนยืนยันว่า "จะดำเนินคดีเอาเรื่องให้ถึงที่สุด อยากให้ติดคุก เพราะสุดท้ายไม่ว่าคุณจะติดคุกแต่ยังไงคุณก็จะได้ออกมา แต่สามีของตนไม่ว่าจะทำอย่างไรเขาก็ไม่มีทางที่จะกลับมาได้อีกแล้ว"

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/EP041a5TieQ