สังคม

ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ตำรวจขับเบียดรถผู้ต้องหาจนล้มแล้วเสียชีวิต

โดย jeeraphat_d

25 เม.ย. 2567

213 views

ความคืบหน้ากรณี มีผู้ใช้เฟสบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ในสื่อโซเชียล ขอความเป็นธรรม แม่ถูกตำรวจขับรถชนเสียชีวิต โดยระบุข้อความว่า “ขอความเป็นธรรมให้หนูหน่อยค่ะ พอดีแม่หนูโดนตำรวจทำเกินกว่าเหตุ ขับรถชนแม่หนูตาย ทั้งๆ ที่แม่หนูไม่ได้รู้เรื่องอะไร น้องหนูยังเล็กหนูต้องมาเสียแม่ไป เพราะความประมาทของตำรวจ หนูไม่รู้จะเอายังไงต่อดี หนูเสียแม่ไปทั้งที่ไม่ได้บอกลา ขอรบกวนพี่ๆ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้คำปรึกษาและหาความเป็นธรรมให้หนูและน้องหนูด้วยค่ะ กำลังรวบรวมหลักฐานและทนาย #หนูเสียแม่ไปทั้งๆ ที่แม่หนูไม่รู้เรื่องอะไร”


ซึ่งเหตุการณ์เกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 23 เมษายน 2567 บนถนนท่าช้าง-หนองหัวแรต บริเวณบ้านโสง หมู่ 6 ต.หนองยาง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นอุบัติเหตุรถกระบะเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ ในที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อคือ น.ส.กรรณิกา และนายสมชาย อายุ 29 ปี


จากการสอบถามพยานที่เกี่ยวข้องเป็นการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.จอหอ อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา ขับรถกระบะออกติดตามจับกุม นายสมชาย ผู้ต้องหาตามหมายจับฐานลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ โดยนายสมชาย ขับรถจักรยานยนต์และ น.ส.กรรณิกา แฟนสาวนั่งซ้อนท้าย มาจากบริเวณด้านหลังโรงเรียนบ้านโสงคุรุประชาสรรค์ ผ่านออกมายังบริเวณหน้าที่ทำการอบต.หนองยาง ที่อยู่ก่อนถึงจุดเกิดเหตุ ซึ่งรถกระบะของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตมาอย่างกระชั้นชิด ก่อนที่จะเร่งเครื่องแซงเข้าประกบด้านข้าง ก่อนจะทำให้รถจักรยานยนต์ เสียหลักตกถนนแล้วไปอัดเข้ากับต้นไม้ข้างทาง จนทำให้มีผู้เสียชีวิต


ตำรวจชุดจับกุม สภ.จอหอ ได้เดินทางมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สภ.เฉลิมพระเกียรติ ญาติผู้เสียชีวิตได้เดินเข้าไปสอบถามเหตุการณ์ แต่เจ้าหน้าที่รีบเดินขึ้นรถกระบะทำให้มีปากเสียง สร้างความไม่พอใจให้กับญาติผู้เสียชีวิต


ญาติผู้เสียชีวิตบอกว่า การที่ตำรวจขับรถไล่ติดตามจับกุมนายสมชาย แล้วเบียดให้รถจักรยานยนต์เสียหลักตกข้างทาง ทำให้มีผู้เสียชีวิต เป็นการปฏิบัติงานตามยุทธวิธีจริงหรือไม่ ทำไมต้องขับไล่เบียดจนตกถนน หากติดตามไปเรื่อยๆ น้ำมันเชื้อเพลิงรถจักรยานยนต์ต้องหมดก่อน จึงมองว่า มีเจตนาไม่ดี และทำเกินกว่าเหตุ


ขณะที่ พ.ต.อ.นธีร์ สุคุณา ผกก.สภ.จอหอ ได้ออกมาชี้แจงว่า เจ้าหน้าที่ไม่ต้องการให้เกิดความสูญเสีย ไม่มีเจตนาและเหตุผลใดๆ ต้องใช้ความรุนแรง เป็นการปฏิบัติหน้าที่ติดตามสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาตามขั้นตอน ซึ่งนายสมชาย มีพฤติกรรมก่อเหตุโชกโชน เข้าออกเรือนจำ 6 ครั้ง ในคดีทำร้ายร่างกาย ครอบครองยาเสพติด และโจรกรรมทรัพย์สินในพื้นที่ อ.สีคิ้ว และ อ.เมืองนครราชสีมา ทางเจ้าหน้าที่ฯ ได้รวบรวมพยานหลักฐานจนทราบผู้ต้องหา และนำมาสู่การติดตามจับกุมตัวดังกล่าว ซึ่งคดีอุบัติเหตุเกิดขึ้นในพื้นที่ สภ.เฉลิมพระเกียรติ พนักงานสอบสวนจะได้รวบรวมพยานหลักฐาน ยืนยันว่า ไม่มีการใช้อำนาจหน้าที่เข้าแทรกแซงก้าวล่วงในรูปคดีอย่างแน่นอน ตามที่เสนอข่าวไปนั้น


วันนี้ (25 เมษายน 2567) ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง พล.ต.ต.ณรงค์ฤทธิ์ ด่านสุวรรณ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ตอนนี้ทราบเรื่องในเบื้องต้นแล้ว อยู่ระหว่างรอสรุปรายงานจากทาง สภ.จอหอ และ สภ.เฉลิมพระเกียรติ เพื่อมาดูกันอีกทีว่า ปฏิบัติหน้าที่กันอย่างไร ตามขั้นตอนยุทธวิธีหรือไม่ โดยได้เตรียมตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว เพื่อนำสำนวนและพยานหลักฐานมาพิจารณาประกอบ ซึ่งในส่วนของจุดเกิดเหตุ ต้องรอเจ้าหน้าที่ฯ รายงานข้อเท็จจริงเข้ามา ว่าเกิดเหตุในลักษณะใด จากนั้นจะนำพยานหลักฐานทั้งหมดมาประกอบการพิจารณา ก่อนจะฟันธงอีกครั้ง ซึ่งยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ฯ จะพิจารณาตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างแน่นอน


แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ