รอง สวป. ร้องสื่อ หลานถูกกระบะชนสาหัส คู่กรณี อ้างสนิทรอง ผกก.-หลาน สจ. ลั่นพลิกคดีผิดเป็นถูกได้

เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 24 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง สภ.พานทอง ได้พบกับร้อยตำรวจโทอภิวัฒน์ รองสารวัตรป้องกันและปราบปรามสถานีตำรวจภูธรพานทองหลังได้นำหลักฐานเจ้าร้องสื่อจากกรณีที่เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2567 เวลาประมาณ 12.00 น.หลานชายได้ประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ถูกรถกระบะชนรถพังยับได้รับบาดเจ็บขาหักจนอาการสาหัสนอนรักษาตัวกว่า 2 เดือนไปเรียนไม่ได้ โดยเหตุเกิดถนนเส้นบายพาสโรงพยาบาลตาพระยา หมู่ 1 ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว


ร้อยตำรวจโท อภิวัฒน์ รอง สารวัตรป้องกันและปราบปรามสถานีตำรวจภูธรพานทอง เล่าว่า หลานชายได้ขี่รถจักรยานยนต์จะไปทางตลาด พอออกมาจากบ้านมีรถตู้ทึบชะลอจอดให้หลานชายก็ออกมาและกำลังข้ามไปอีกฝั่งคลองถนน ซึ่งเป็นถนนเลนสวนมีเส้นทึบชัดเจน แต่ในจังหวะที่หลานชายข้ามถนนไปใกล้จะถึงอีกฝั่ง มีรถกระบะของคู่กรณีได้แซงเส้นทึบและเป็นทางโค้ง ทำให้พุ่งชนหลานเต็มแรงจนได้รับบาดเจ็บขาหัก เลือดออกในสมองรักษาตัวหลายวันไม่สามารถไปเรียนต่อให้จบ ม.3 ได้ และตอนนี้ก็ยังใส่เหล็กตามกระดูกที่ขา พักรักษาตัว


ซึ่งหลังจากที่เกิดเหตุ ตนได้ไปดูหลาน ฝ่ายทางคู่กรณีที่เป็นคนขับรถกระบะก็ได้พูดจาใหญ่โตอวดเบ่ง รู้จักกับรองผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรตาพระยาในพื้นที่เกิดเหตุ สนิทกับรองผู้กำกับในพื้นที่ และสามารถทำให้สำนวนคดี จากผิดเป็นถูกได้ ส่วนฝ่ายคนเจ็บ หากอยากได้เงินก็ให้ไปฟ้องร้องเอา จนกระทั่งมีการเจรจาไกล่เกลี่ยกันมาโดยตลอด ก็ไม่สามารถตกลงกัน


ได้จนกระทั่งเมื่อวันที่ 21 เมษายน ที่ผ่านมาก็ได้มีการไปเจรจาไกล่เกลี่ยอีกครั้ง และครั้งนี้พี่ชายของคนที่อ้างตัวว่าเป็นคนขับรถกระบะได้มาที่ สภ.ตาพระยา ได้มาพูดอีกว่าเป็นหลานของ สจ. ยังไงก็ไม่กลัว เพราะสามารถทำคดีให้ผิดเป็นถูกได้


หลังจากนั้นไม่นานร้อยเวรเจ้าของคดีคือ พันตำรวจโทเอกณรัษ์ สารวัตรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรตาพระยาก็ได้มีการออกมาทำสำนวน และชี้ว่าฝ่ายหลานตนที่เป็นคนขับรถจักรยานยนต์เป็นฝ่ายผิด เพราะขับรถโดยประมาท ซึ่งที่จริงแล้วฝ่ายที่ประมาทน่าจะเป็นรถกระบะ เพราะแซงทางโค้งเส้นทึบมาชนรถของหลานตนจนได้รับบาดเจ็บ


จากเหตุการณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะฝ่ายคู่กรณีมาเบ่งใส่และมาขู่อ้างว่ารู้จักทั้งรองผู้กำกับสภ. ตาพระยาและเป็นหลานของ สจ.ในพื้นที่ ต้นจึงอยากฝากถึงผู้บังคับบัญชาในพื้นที่หรือผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรตาพระยาอยากให้ลงมาดูแล เรื่องคดีและสำนวนเพราะตนคิดว่าไม่มีความเป็นธรรมในการทำสำนวนและคดีและฝากถึงผู้บังคับบัญชาระดับสูงให้ตรวจสอบตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเป็นร้อยเวรในคดีนี้อย่างละเอียดเพราะหลักฐานในที่เกิดเหตุวัตถุพยาน และพยานที่เห็นเหตุการณ์มีครบหมด แต่ทำไมร้อยเวรไม่ทำสำนวนให้เป็นกลาง