ชื่นชม! หนุ่มวัย 19 เจอทอง 3 บาทริมถนน ประกาศตามหาเจ้าของจนส่งคืนสำเร็จ

จากเมื่อวันที่ 14 เม.ย. 2567 ผู้ใช้บัญชีเฟสบุ๊กชื่อ Nathakhon Yotharin ได้เช็กอินที่ถนนสงกรานต์ (ถนนข้าวก่ำ) พร้อมโพสต์รูปภาพพร้อมข้อความแบบสาธารณะว่า “ขออนุญาตโพสต์ตามหา ต่อให้ไม่มีหวังแต่ก็ยังหวัง ทองหายที่ถนนข้าวก่ำวันที่ 13/04/2567 ทองตามในภาพ ท่านใดเจอหรือร้านไหนรับซื้อไว้รบกวนติดต่อกลับหน่อยครับ ท่านใดพบเจอนำมาคืนมีสินน้ำใจให้ครับ” หลังจากนั้นก็มีเพื่อนๆ ในเฟซบุ๊กเข้ามาคอมเมนต์และกดแชร์กระจายข่าวสาร


ต่อมาวันที่ 16 เม.ย. 2567 ที่เฟซบุ๊กบัญชีชื่อ ชีส ได้โพสต์รูปภาพพร้อมข้อความแบบสาธารณะว่า “บทเรียนครั้งใหญ่ในชีวิต นึกว่าจะได้คืน ขอบคุณจากใจไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาขอบคุณจริง ๆ สั่นไปหมด” เพราะได้มีพลเมืองดีเก็บสร้อยคอทองคำเส้นดังกล่าวที่ประกาศทองหาย ประกาศตามหาเจ้าของ จนเจ้าของทองได้ไปรับสร้อยคอทองคำคืน


นายธนาทิพย์ จรูญเพ็ญ หรือ น้องบอล วัย 19 ปี บอกว่า วันนั้นเป็นวันที่ 13 เม.ย. 2567 เวลาประมาณ 5 ทุ่มถึงเที่ยงคืน ตนเองได้ไปเล่นสงกรานต์ ที่ถนนสงกรานต์ (ถนนข้าวก่ำ) เดินเล่นอยู่แล้วเห็นก็เลยเก็บมา ก็เลยเอาขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นสร้อยทอง ก็เลยถือไว้เผื่อมีคนที่ทำหล่นมาเอาคืน แต่ก็ไม่มี ก็เลยเอาไปโพสต์เฟซบุ๊ก เพื่อประกาศตามหาเจ้าของ ก็ไม่มีคนทักมา


ก็เลยไปเห็นเพจกาฬสินธุ์โพสต์ประกาศตามหาคนเก็บสร้อยคอทองคำพอดี จึงติดต่อไปยังเบอร์ที่เขาให้ไว้ ตอนที่เก็บได้ก็ไม่คิดว่าจะเอาไปเป็นของเจ้าของ คิดว่ากว่าเจ้าของสร้อยจะเก็บเงินซื้อได้ ตัวเองก็ไม่สบายใจด้วย แล้วถึงแม้ว่าจะเป็นทองแท้หรือทองปลอม ตนเองก็ต้องคืนเจ้าของอยู่แล้ว


ตอนนี้ตนเองเพิ่งเรียนจบ ม.6 จากโรงเรียนเมืองกาฬสินธุ์ เพิ่งเข้าทำงานกับ AIS ส่วนเจ้าของที่ได้ทองคืนก็ขอบคุณที่เก็บทองไว้ให้ ตัวเจ้าของเองก็ไม่คิดว่าจะได้คืน เพราะปกติส่วนใหญ่คนเก็บของมีค่าแล้วจะไม่ค่อยคืนกัน ก็จะเอาไปขาย ตนเองก็พอรู้ว่าตอนนี้ราคาทองคำแพง บาทละเกือบ 4 หมื่นบาท สงสารเจ้าของทอง พอได้ส่งคืนเจ้าของไปแล้วก็รู้สึกสบายใจ เพราะมันไม่ใช่ของตัวเอง


ด้านนายพันธุ์ศักดิ์ อายุ 48 ปี คุณพ่อของน้องบอล บอกว่า ปัจจุบันตนเองทำงานอยู่กองสาธารณสุข เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ รู้สึกดีใจที่น้องบอลลูกชายของตนเอง เก็บของมีค่าได้แล้วส่งคืนเจ้าของ เพราะตนเองสอนลูก ๆ ประจำว่าของอะไรที่ไม่ใช่ของเราอย่าเอามาเก็บไว้ เพราะจะไม่สบายใจ


ด้านสภาพทางการเงินของครอบครัวก็ขัดสน แต่ขอสู้ด้วยลำแข้งอย่างสุจริตแล้วสบายใจ ก็สอนลูกๆ ทุกคนว่าแม้เงินเล็กน้อย สลึงหนึ่ง ก็อย่าไปหยิบของใครเพราะไม่ใช่ของเรา แม้ของพ่อเองที่วางไว้ก็ห้ามหยิบ ต้องขอก่อนพ่อถึงจะให้ ห้ามหยิบโดยพลการอย่างเด็ดขาด ตอนนี้รู้สึกภูมิใจในตัวลูกเป็นอย่างมาก


อย่างไรก็ตาม เจ้าของสร้อยคอทองคำได้มอบสินน้ำใจตอบแทนให้น้องบอล จำนวน 10,000 บาท แทนคำขอบคุณไว้แล้ว ส่วนผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ ก็ได้มอบผลิตภัณฑ์น้ำปลาร้าแม่บุญล้ำ ที่ส่งเสริมให้คนทำความดีได้มีกำลังใจในการทำความดีไว้อีกด้วย