สังคม

ลูกสาววัย 17 ร้องถูกพ่อแท้ๆ ติดกล้องแอบถ่ายขณะอาบน้ำ

โดย nutda_t

19 เม.ย. 2567

3.8K views

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 19 เมษายน 67 ที่มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ถ.แจ้งวัฒนะต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นางสาวฝน อายุ 33 ปี พาลูกสาว อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในจ.นครราชสีมา เข้าร้องเรียนกับนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิ ขอให้ช่วยติดตามคดี หลังถูก นายสุรศักดิ์ หรือ สอ อายุ 40 ปี อดีตสามี ซึ่งเป็นพ่อแท้ๆของลูกสาว แอบติดตั้งกล้องไว้ในห้องน้ำและห้องนอน โดยได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แก้งสองนาง เพื่อให้ดำเนินคดีกับอดีตสามี ในข้อหาอนาจาร


แม่ฝน เล่าทั้งน้ำตาว่า ตนอยู่กินกับนายสอ มานาน 8 ปี จนมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน หลังจากนั้นมาตนกับอดีตสามี ได้แยกทางกัน โดยลูกสาวอยู่กับนายสอ ตั้งแต่ยังเล็ก ซึ่งสามี มีอาชีพเป็นช่างติดตั้งกล้องวงจรปิด และถูกจับคดียาเสพติดหลายครั้ง แต่ก็ถูกปล่อยตัวมา เนื่องจากถูกจับข้อหาเสพ แค่เพียงนำไปบำบัดรักษาแล้วก็ปล่อยตัวมา


จนกระทั่งเมื่อวันที่ 17 เมษายน 67 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.แก้งสนามนาง เข้ามาตรวจค้นที่บ้านของนายสอ เพื่อตรวจหายาเสพติด จึงพบว่าคอมพิวเตอร์ และกล้องวงจรปิดที่วางอยู่บนโต๊ะ มีภาพถ่ายอนาจารของลูกสาว ซึ่งเป็นลูกแท้ๆ ของนายสอ รวมทั้งมีภาพหลานสาวของนายสอ อายุ 27 ปี ถูกแอบถ่ายเช่นเดียวกัน โดยเป็นภาพขณะที่เด็กทั้งสองคนกำลังอาบน้ำในห้องน้ำ รวมทั้งยังมีแชตข้อความที่นายสอ คุยกับเพื่อน ถึงลูกสาวแบบเสียๆ หายๆ หยาบคายจนอ่านแทบไม่ได้ เมื่อสอบถามนายสอ ก็อ้างว่าแค่ติดตั้งไว้เพื่อ สังเกตพฤติกรรมของคนในบ้านเท่านั้น


ต่อมาเมื่อวันที่ 18 เมษายน 67 ตนจึงพาลูกสาวและหลานสาวของนายสอ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.แก้งสนามนาง เพื่อให้ดำเนินคดีกับอดีตสามี ในข้อหาอนาจาร แต่ตำรวจ กลับบอกว่า ไม่สามารถดำเนินคดีในขั้นนั้นได้ เนื่องจากยังไม่มีการถูกเนื้อต้องตัว อาจจะดำเนินคดีได้แค่เพียงก่อความเดือดร้อน เป็นเหตุให้ขุ่นข้องมองใจ ทำให้ทนายรณณรงค์ ถึงกับอึ้ง รีบต่อสายถึง พ.ต.ท.ปพน ชัยศักดิ์ศรี พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ซึ่งชี้แจงกลับมาว่า เบื้องต้นยังไม่มีการถูกเนื้อต้องตัวกัน จึงได้อธิบายให้กับคุณแม่อย่างนั้น แต่ตอนนี้ทางพนักงานสอบสวน ไม่ได้นิ่งนอนใจ ออกหมายเรียกในข้อหาอนาจารกับนายสอ ไปแล้วตามที่ผู้เสียหายต้องการ คุณแม่อาจจะสื่อสารและเข้าใจผิดที่ตนอธิบายไป ยืนยันเจ้าหน้าที่ตำรวจ กำลังดำเนินการอย่างเร่งด่วน โดยแจ้งข้อหาอนาจาร ตามที่ผู้เสียหายต้องการ


ด้าน ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า คดีนี้ไม่ใช่เพียงแค่ข้อหาอนาจาร ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท ตามมาตรา 278 ทางมูลนิธิจะตรวจสอบดูว่า ผู้เป็นพ่อแท้ๆ มีการส่งภาพลามกของลูกสาวขณะแอบถ่าย ให้กับเพื่อนๆ ที่พบว่าพูดคุยกันในแชต ยืนยันว่าการเป็นพ่อแม่ไม่มีสิทธิ์แอบถ่ายลูกสาว เพราะเป็นสรีระส่วนตัวของเขา การทำแบบนี้เข้าข่ายผิดกฎหมายอาญาหลายข้อหา จะต้องตรวจสอบและดำเนินการว่าพ่อแท้ๆ รายนี้ ทำผิดข้อหาอะไรบ้าง เพื่อดำเนินการเอาผิดตามกฎหมาย ซึ่งผู้เป็นแม่และลูกสาว ต้องการดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

แท็กที่เกี่ยวข้อง  แอบถ่ายในห้องน้ำ

คุณอาจสนใจ

Related News