สังคม
เตรียมย้าย 'ดาบต้าร์' รักษา รพ.ตำรวจ ญาติยังไม่พร้อมให้คนขับชน เข้าเยี่ยม-ขอขมา
โดย passamon_a
18 เม.ย. 2567
616 views
ตร.ยัน สาวขับรถชนดาบตำรวจทางหลวง ไม่ได้หลบหนี เจ้าตัวตกใจนั่งสั่นอยู่บนรถ เผยผลสอบไม่มีดื่มแอลกอฮอล์ ระบุยังไม่แจ้งข้อกล่าวหา ต้องรอคำวินิจฉัยอาการคนเจ็บจากแพทย์ก่อน ด้านแพทย์เผย ชีพจรคนไข้คงที่ มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ประเมินสถานการณ์เตรียมย้ายดาบตำรวจทางหลวง เข้ารักษา รพ.ตร. วันนี้ (18 เม.ย.) พร้อมขอรับบริจาคเลือดกรุ๊ป A เพิ่ม
เมื่อวันที่ 17 เม.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า เหตุที่ตำรวจทางหลวงลพบุรีถูกรถเก๋งพุ่งเข้าชน ขณะที่เจ้าตัวปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกการจราจรให้แก่ประชาชน ในช่วงระหว่างที่ประชาชนเดินทางกลับเข้าทำงาน หลังหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ เกิดเมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 16 เม.ย.67 ที่ผ่านมา
ซึ่งเป็นเวลาที่ ดต.ปิยนันท์ สีเสื้อ ตำรวจทางหลวง หมวดทางหลวงบ้านดีลัง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ขณะปฏิบัติหน้าที่อำนวยสะดวกด้านการจรจร อยู่บนทางหลวงหมาเลขที่ 21 หมู่ที่ 4 ต.ดีลัง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ได้มีรถเก๋งยี่ห้อนิสสัน สีขาว ขับมาชนจน ดต.ปิยนันท์ กระเด็ดลอยไปไกลราว 10 เมตร ศีรษะด้านหน้ากระแทกกับพื้นล้มหมดสติอาการสาหัส โดยมีเจ้าหน้าหน่วยกู้ภัยจากมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่อยู่ใกล้กันกับตำรวจ ซึ่งขณะนั้นได้ช่วยอำนวยความสะดวดด้านการจราจรอยู่ด้วยกัน ได้รีบนำตัว ดต.ปิยนันท์ ส่งยังโรงพยาบาลพัฒนานิคม
สำหรับผู้ขับขี่รถเก๋งยี่ห้อนิสสัน สีขาว เป็นสุภาพสตรี ทราบชื่อต่อมา น.ส.พรเพ็ช หลังจากชน ดต.ปิยนันท์ รถยนต์ไม่สามารถไปไหนได้ จึงถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมไปดำเนินการสอบสวน ยังสถานีตำรวจภูธรพัฒนานิคม
ส่วนสาเหตุที่ขับมาชนตำรวจทางหลวงนั้น เป็นเพราะในช่วงขณะเกิดเหตุ เป็นช่วงที่ตำรวจทางหลวงได้วางกรวยขยายช่องทางพิเศษ เพื่อให้รถวิ่งโดยสะดวก แต่พอมาถึงที่เกิดเหตุเป็นทางคอขวด และช่วงนั้น ดต.ปิยนันท์ ยืนคอยโบกรถอยู่ น.ส.พรเพ็ช ไม่ทันสังเกตเห็น จึงขับมาชนอย่างแรง จนทำให้ ดต.ปิยนันท์ บาดเจ็บสาหัส
สำหรับ ดต.ปิยนันท์ เป็นตำรวจทางหลวง ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยเคลื่อนเร็ว เมื่อยามคับขัน ตรงไหนที่มีการจราจรติดขัด ก็จะรีบไปอำนวยความสะดวกทันที โดยเฉพาะในวันที่เกิดเหตุ เป็นวันที่ประชาชนและนักท่องเทียวกำลังจะเดินทางกลับจากภูมิลำเนา เพื่อกลับเข้าทำงานหลังหยุดยาวช่วงเทศกาลสงกรานต์ รถติดขัดหนาแน่นมาก โดยเฉพาะในช่วง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี บนถนนสายหล่มสักมุ่งหน้าสระบุรี
โดยอาการที่สาหัสทางสมองของ ดต.ปิยนันท์ สำนักงานตำรวจทางหลวงลพบุรี ได้ติดต่อประสานงานกับกองบินตำรวจ เพื่อขอสนับสนุนให้นำเฮลิคอปเตอร์มารับผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลพัฒนานิคม จ.ลพบุรี เพื่อส่งต่อไปยังโรงพยาบาลตำรวจ ใน กทม. จนกระทั่งเวลา 22.00 น. วันเกิดเหตุ เฮลิคอปเตอร์จากกองบินตำรวจ พร้อมแพทย์และอุปกรณ์การแพทย์ฉุกเฉิน ได้บินมาลงจอด ณ สนามโรงเรียนพัฒนานิคม ซึ่งอยู่ห่างจากโรงพยาบาลราว 1 กิโลเมตร เพื่อรับตัว ดต.ปิยนันท์ เพื่อนำตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลตำรวจ แต่หลังจากที่เฮลิคอปเตอร์ได้ยกตัวขึ้นไปได้ประมาณ 5 นาที นักบินได้ประสานกลับลงมายังภาคพื้น เพื่อนำเฮลิคอปเตอร์บินกลับมาลงจอด ณ จุดเดิม โดยได้รับแจ้งจากทีมแพทย์ที่ดูแลอยู่บนเครื่อง ว่าชีพจรของ ดต.ปิยนันท์ ตกอย่างกะทันหัน ความดันไม่คงที่ เนื่องจากความกดอากาศ คนไข้อยู่ในอาการวิกฤต ไม่สามารถนำไปต่อได้ จึงได้ให้รถพยาบาลมารับออกจากเฮลิคอปเตอร์ นำไปยังโรงพยาบาลพัฒนานิคม เหมือนเดิม
ซึ่งหลังจากทีมแพทย์ได้ประเมินแล้ว จึงได้ขอส่งต่อ ดต.ปิยนันท์ ด้วยการเคลื่อนย้ายทางรถยนต์ ไปยังโรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช อ.เมืองลพบุรี ซึ่งเป็นโรงพยาบาลประจำจังหวัดขนาดใหญ่ อยู่ห่างไปราว 40 กิโลเมตร แต่มีเครื่องไม้เครื่องมือ และบุคลากรทางการแพทย์พร้อมมากกว่า โดยระหว่างการเคลื่อนย้าย ตำรวจทางหลวงลพบุรีได้วิทยุประสานขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร รวมถึงมูลนิธิต่าง ๆ ทั้งร่วมกตัญญู และปอเต็กตึ้ง ที่มีรถสัญญาณไฟฉุกเฉิน ช่วยอำนวยความสะดวกในการปิดเส้นทางการจราจรเป็นการชั่วคราว ในขณะที่รถ Ambulance ทำการเคลื่อนย้าย เพื่อส่งต่อคนเจ็บเป็นกรณีพิเศษ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุซ้ำซ้อน ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี
โดยเบื้องต้นขณะนั้นทีมแพทย์ประเมินว่า ดต.ปิยนันท์ เสียเลือดมาก และมีภาวะสมองบวม ถือเป็นอาการที่มีความรุนแรงมาก หากไม่รับการรักษาอาจทำให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ หรือหากรับการรักษาช้าเกินไป ก็อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนในระยะยาวตามมา ซึ่งต้องได้รับการผ่าตัดเป็นการด่วน โดยเบื้องต้นได้ให้ยากระตุ้น เพื่อให้ชีพจรและความดันกลับมาคงที่ แต่ต้องดูอาการหลังการผ่าตัดอีกครั้ง และยังคงต้องอยู่ในความดูแลของทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด
ต่อมาวันที่ 17 เม.ย.67 เวลา 15.00 น. พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1 และ พล.ต.ต.อภิรักษ์ เวชกาญจนา ผบก.ก.จว.ลพบุรี เดินทางมาที่โรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช ตรวจเยี่ยมและมอบสิ่งของเป็นขวัญกำลังใจให้แก่ ดต.ปิยนันท์ โดยมี พญ.นุชรินทร์ อักษรดี ผอ.รพ.พระนารายณ์มหาราช และคณะแพทย์ให้การต้อนรับ และชี้แจงการรักษา ทั้งนี้ยังได้มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นและกระเช้าดอกไม้ให้แก่ภรรยา ดต.ปิยนันท์
แพทย์หญิงนุชรินทร์ อักษรดี ผอ.รพ.โรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช ได้เปิดเผยอาการ ดต.ปิยนันท์ ว่า ได้รับประสานงานมาจากโรงพยาบาลพัฒนานิคม ลพบุรี นำส่ง ดต.ปิยนันท์ ช่วง 23.00 น. อาการเลือดไหลในบริเวณปอดและสมอง สมองมีอาการบวม กระดูกต้นคอร้าวและหัก ใบหน้ามีบาดแผล แพทย์ได้เจาะระบายเลือดออก อาการในเช้าวันที่ 17 เม.ย. พบว่าอาการดีขึ้น ตอบสนองได้ดี ชีพจรคงที่ มีแนวโน้มที่ดี
แพทย์หญิงนุชรินทร์ กล่าวต่อว่า มีผู้ใหญ่ห่วงใยอาการของ ดต.ปิยนันท์ ทางท่านผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เดินทางมาเยี่ยม และท่านผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี เดินทางมาเยี่ยมเช่นกัน และทาง รอง ผบ.ตร. ฝากห่วงใยดาบตำรวจทางหลวง ทางโรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช จะรักษาดาบตำรวจสุดความสามารถ จะเดินทาง รถพยาบาลจะส่งต่อไปโรงพยาบาลตำรวจได้หรือไม่ ต้องประเมินอาการอีกที เช่นคนไข้อาการคงที่ ประสานงานการปิดถนนเพื่อนำคนให้ส่งต่อที่โรงพยาบาลตำรวจต่อไป ปัจจุบันกำลังประสานงานกันอยู่ว่าจะประเมินอาการคนไข้อีกทีว่าจะส่งได้หรือไม่ ทางโรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราชจะดูอาการอย่างเต็มที่ ความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป
ด้าน ภรรยาดาบตำรวจทางหลวง เปิดใจ โดยฝากขอบคุณผู้บังคับบัญชาที่ลงมาช่วยดูแลสามี และเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวตั้งแต่วันเกิดเหตุ รวมถึงประชาชนทุกคนที่ส่งกำลังใจมาให้กับทางครอบครัว ส่วนอาการของสามีเองก็ยังอยู่ในช่วงวิกฤตอยู่แต่ทางทีมแพทย์ก็ดูแลอย่างเต็มที่ หากวันนี้ (18 เม.ย.) เป็นไปตามแผน ทางเจ้าหน้าที่จะเคลื่อนย้ายสามีไปโรงพยาบาลตำรวจในช่วงเช้า
ส่วนเรื่องคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พัฒนานิคม ให้ข้อมูลทีมข่าว ภายหลังสอบปากคำคนขับรถชน ดต.ปิยนันท์ โดยยืนยันว่า ตอนเกิดเหตุตกใจ นั่งสั่นอยู่ในรถ ไม่ได้หลบหนีไปไหน เบื้องต้นให้การว่า เดินทางมาจากบ้านที่ อ.บึงสามพัน เพื่อจะกลับไปทำงานที่ อ.หนองแค จ.สระบุรี มาถึงจุดที่เกิดเหตุซึ่งมีรถติดยาวเป็นจำนวนมาก จึงขับรถตามกันมา และเห็นมีช่องทางพิเศษ จึงขับเข้ามา แต่ไม่เห็นตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ จึงพุ่งชนได้รับบาดเจ็บ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ปรากฏว่าไม่มีการดื่มสุราแต่อย่างใด ขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา เพราะหลัก ๆ แล้วต้องรอแพทย์วินิจฉัยก่อนว่าได้รับบาดเจ็บสาหัสมากน้อยแค่ไหน ซึ่งตอนนี้ทางตำรวจได้ปล่อยตัวแล้ว ภายหลังสอบปากคำ เนื่องจากว่าไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา ส่วนรถที่ก่อเหตุได้นำมาตรวจสอบ และจะมอบคืนภายหลัง
เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่า เบื้องต้นคนขับมีการพูดถึงเรื่องการเยียวยา ดต.ปิยนันท์ แล้ว แต่ไม่ขอเปิดเผยในส่วนนี้ ขณะเดียวกันคนขับรถได้ติดต่อผ่านเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อขอเยี่ยมและขอขมากับญาติ ของ ดต.ปิยนันท์ แต่ทางญาติยังไม่พร้อมและทำใจไม่ได้ จึงยังไม่อนุญาตให้เข้าเยี่ยม
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/-7D-_slNnPg
แท็กที่เกี่ยวข้อง ดาบต้าร์ ,ขับรถชนตำรวจ