ผู้ว่าฯ สั่งตั้งกรรมการสอบ "นายอำเภอ" เมากร่างด่าตำรวจ ยอมรับดื่มแอลกอฮอล์จริง

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีคลิปเหตุการณ์ชายคนหนึ่ง อ้างว่าเป็นข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยไปโต้เถียงกับตำรวจ ขณะที่กำลังตั้งด่านตรวจกวดขันวินัยจราจร ช่วงสงกรานต์ โดยมีญาติคนหนึ่งของชายที่อ้างว่าเป็นข้าราชการระดับสูง ถูกจับข้อหาเมาแล้วขับ จึงได้เข้าไปเคลียร์ ทำให้มีการโต้เถียงกันกับตำรวจตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 12 เม.ย. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุพงษ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนได้ทราบข่าวเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งตนเห็นว่าทางกระทรวงมหาดไทย และรัฐบาล ได้มีนโยบายและมีคำสั่งในการกวดขันจับกุมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเข้มงวด ซึ่งจากคลิปตามข่าวนั้น ท่านปลัดกระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้ตนทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งตนได้แต่งตั้งคณะการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้แล้ว ยืนยันว่าจะดำเนินการตามระเบียบกฎหมาย และวินัยที่กำหนดไว้อย่างเต็มที่ โดยจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายตามพยานหลักฐานที่เกิดขึ้น


ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านพักนายอำเภอยางชุมน้อย จังหวัดศรีสะเกษ ได้พบกับนายสฤษดิ์ นายอำเภอยางชุมน้อย กับนายวิระศักดิ์ ญาติของนายอำเภอที่มาช่วยทำหน้าที่เป็นพนักงานขับรถ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นวันที่ 11 เมษายน 2567 เวลาประมาณ 13:00 น. เกิดเหตุเกิดที่บริเวณแยกบายพาส อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญโดยในวันดังกล่าวตนได้ไปช่วยงานบวชหลานชายที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง เขตจังหวัดอำนาจเจริญ ต่อมานายวิรศักดิ์ที่มาช่วยขับรถได้มาแจ้งให้ตนทราบว่าหลานเขยถูกจับข้อหาเมาแล้วขับ อยู่ที่แยกบายพาส ตนจึงได้เดินทางมาที่จุดที่เกิดเหตุ ตนจึงได้เข้าไปแสดงตัวและบอกว่าเรื่องนี้ขอกันได้หรือไม่ เพราะว่าหลานเขยเป็นคนทำมาหากิน ไม่ได้เกเร เป็นการดื่มเหล้าในงานบุญ แต่หากขอไม่ได้ก็ขอให้ดำเนินการปรับตรงนั้นเลยได้หรือไม่ แต่ว่าตำรวจแจ้งว่าจะต้องไปปรับที่ศาล



นายอำเภอยางชุมน้อย กล่าวต่อว่า แต่ปรากฏว่าหลังจากที่ตนแสดงตัวไปว่าเป็นข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยแล้ว ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ไม่ได้ให้เกียรติตนแต่อย่างใด แต่ใช้คำพูดที่เป็นการไม่ให้เกียรติกัน ซึ่งขณะนั้นตนแต่งกายด้วยชุดธรรมดา ไม่ได้สวมเครื่องแบบข้าราชการ แต่การที่ตำรวจใช้คำพูดแบบไม่ให้เกียรติตนนั้นถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ควรทำ ซึ่งยอมรับว่าตนดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาจริง แต่ไม่ได้มึนเมาแต่อย่างใด ส่วนคนขับรถของตนนั้นก็ไม่ได้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แต่อย่างใด เพราะว่าทำหน้าที่ขับรถ ส่วนรถที่ขับไปครั้งนี้ก็เป็นรถส่วนตัว อีกทั้งตำรวจแจ้งว่าจะจับกุมตนด้วย ตนก็จะให้จับกุม ส่วนตามคลิปที่บอกว่า ตนจะเข้าไปทำร้ายตำรวจนั้นไม่ใช่ความจริงแต่อย่างใดเพียงแต่ว่า ตนเดินเข้าไปหาตำรวจแล้วสะดุดพื้น ทำให้เซเข้าไป ตนคงไม่กล้าที่จะเข้าไปทำร้ายตำรวจที่พกพาอาวุธปืน และอยู่กันกลุ่มใหญ่อย่างแน่นอน



นายอำเภอยางชุมน้อย กล่าวต่อไปว่า เรื่องที่เกิดขึ้นตนยอมรับผลที่จะตามมา แล้วแต่ผู้บังคับบัญชาจะพิจารณา แต่ตนขอยืนยันว่าภาพตามคลิปไม่ใช่ข้อเท็จจริงทั้งหมด เป็นคลิปที่ออกมาจากทางฝ่ายตรงข้ามเพียงด้านเดียว ตนปฏิบัติตามหน้าที่ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัด ส่วนการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงงานบุญนั้น ตนก็ดื่มเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะว่าเป็นงานบุญ ตนได้รายงานข้อเท็จจริงที่เกิดให้ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษทราบแล้ว และพร้อมที่จะให้ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกับคณะกรรมการสอบสวนที่ทางผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษตั้งขึ้นมา



นายวิระศักดิ์ ญาติของนายอำเภอที่มาช่วยทำหน้าที่เป็นพนักงานขับรถ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ข้อเท็จจริงตามข่าวไม่ใช่ข้อเท็จจริงทั้งหมด ตนทำหน้าที่ขับรถ เมื่อได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จากหลานเขยว่า ถูกตำรวจจับกุมข้อหาเมาแล้วขับ จึงได้แจ้งให้นายอำเภอทราบ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบว่าตำรวจตั้งด่านอยู่และได้ใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสม และไม่ให้เกียรติกับนายอำเภอยางชุมน้อย ทั้งที่นายอำเภอเข้าไปเพื่อขอให้ดำเนินการตามกฎหมาย โดยขอให้ปรับตรงนั้นได้หรือไม่ แต่เมื่อไม่ได้ก็ขอให้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป แต่ว่าตำรวจกลับพูดจาไม่ให้เกียรติกับนายอำเภอ ซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูง จึงได้มีการโต้เถียงกันขึ้น