สังคม
ร้อยเวรเท้าไว! ถีบโจรจะใช้เศษขวดแก้วแทงคอ พบทำมาหลายครั้ง หวังเหยื่อสงสารไม่เอาความ
โดย nattachat_c
8 เม.ย. 2567
672 views
มีภาพจากกล้องวงจรปิดภายในห้องสอบสวน ของ สภ.สำโรงเหนือ จังหวัดสมุทรปราการ จับภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. วานนี้ (7 เม.ย. 67)
ขณะที่ ร.ต.อ.ธนาวุฒิ ดวงจินดา รอง สว.(สอบสวน) สภ.สำโรงเหนือ นำตัวนายวิมล จันทร์เทพา อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมในข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถาน มาสอบปากคำ และให้ผู้เสียหายชี้ยืนยันตัว
แต่ในขณะที่ พนักงานสอบสวนกำลังสอบปากคำ ปรากฏว่า นายวิมล ซึ่งในขณะนั้นถูกใส่กุญแจมืออยู่ ได้เอื้อมไปคว้าขวดเครื่องดื่มชูกำลัง ที่วางอยู่บนโต๊ะของพนักงานสอบสวน ต่อหน้าต่อตาตำรวจ ก่อนจะเอาขวดเครื่องดื่มชูกำลัง ทุบที่พื้นเพื่อให้ขวดแตก แล้วใช้เศษแก้วพยายามจะแทงคอตัวเองหลายครั้ง
ร.ต.อ.ธนาวุฒิ ซึ่งเห็นแบบนั้น ก็ไม่รอช้า ใช้เท้าถีบเข้ากลางอกผู้ต้องหาทันที จนหงายท้องเสียหลักพิงกับเก้าอี้ ก่อนจะเข้าล็อกมือ และแย่งเศษแก้วออกไป โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในโรงพักอีก 2-3 นาย พากันเข้ามาระงับเหตุ
จากนั้น จึงควบคุมตัวจะกลับห้องขัง แต่พบว่า ผู้ต้องหามีบาดแผลที่คอเล็กน้อยและเจ้าหน้าที่ตำรวจบางนายถูกเศษแก้วบาดจนมีแผลด้วย จึงประสานอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู มาปฐมพยาบาล
เบื้องต้น พบว่า นายวิมลมีบาดแผลไม่ลึก และไม่ถูกอวัยวะสำคัญ จึงนำตัวกลับเข้าห้องขัง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีประชาชนผู้มาใช้บริการบนโรงพักเห็นเหตุการณ์ ทำให้ตื่นตกใจไปตาม ๆ กัน
สอบถามผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเจ้าของห้องพัก ที่นายวิมล เข้าไปขโมยพระเครื่อง เล่าว่า ตนอยู่ในห้องเช่าแห่งหนึ่ง ก่อนเกิดเหตุ ได้ออกไปซื้อของข้างนอก แต่ก็ล็อกห้องเอาไว้แล้ว
แต่พอกลับมาห้อง เห็น นายวิมล เดินออกมาจากห้องของตนพอดี ตนจึงถามว่าเข้าห้องของตนได้อย่างไร นายวิมลอ้างว่า เข้าห้องผิด ตนจึงบอกว่า ให้อยู่คุยกันก่อน แต่ผู้ก่อเหตุก็พยายามจะหนีอย่างเดียว คนในซอยจึงช่วยกันจับตัวไว้ แล้วก็โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาควบคุมตัว
ส่วนตอนที่ผู้ก่อเหตุพยายามทำร้ายตัวเองนั้น ตนไม่ทราบรายละเอียด เพราะไม่เห็นเหตุการณ์ดังกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.สำโรงเหนือ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า จากการตรวจสอบประวัติ พบว่า ผู้ต้องหารายนี้ เคยก่อเหตุลักทรัพย์มาแล้วหลายครั้ง
ล่าสุด ไปก่อเหตุในท้องที่ของ สน.บางนา พอถูกเจ้าของทรัพย์ หรือตำรวจ จับกุมตัวได้ ก็จะก่อเหตุในลักษณะเดียวกัน ด้วยการทำร้ายตัวเอง เพื่อเรียกร้องให้ผู้เสียหายใจอ่อน และสงสาร จนไม่เอาความ ซึ่งก็เคยได้ผลมาแล้วหลายครั้ง รวมถึงครั้งล่าสุดที่ สน.บางนา เนื่องจากมูลค่าความเสียหายไม่มาก
กระทั่งล่าสุด มาก่อเหตุในท้องที่สำโรงเหนือซ้ำอีก ซึ่งจากประวัติของผู้ต้องหา พบว่า ก่อเหตุเป็นนิสัย สร้างความเดือดร้อนให้ผู้เสียหายหลายครั้ง ครั้งนี้ จึงต้องดำเนินคดีให้เข็ดหลาบ จึงแจ้งข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถานฯ // ทำให้เสียทรัพย์ // ขัดขวางการจับกุมของเจ้าหน้าที่ // และทำร้ายเจ้าหน้าที่
--------------
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/nMU3Svwlp90