สังคม

พระหลอกหญิงมีเซ็กส์-ถ่ายคลิปแบล็กเมล์ ซ้ำใช้ปืนขู่จ่อหัว ค้นกุฏิเจอยาบ้าเพียบ

โดย nattachat_c

1 เม.ย. 2567

296 views

จากกรณี วันที่ 18 มี.ค. 2567 นางบี (นามสมมุติ) อายุ 49 ปี ชาว ต.เหล่าใหญ่ อ.กุฉินารายณ์ จ.กาพสินธุ์ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ตำรวจ สภ.กุฉินารายณ์ ดำเนินคดีกับ พระชัยชนะ ธนชัยภิวัฒนกุล อายุ 47 ปี ชาว ต.เชียงยืน อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี ซึ่งมาจำวัดอยู่ที่ สำนักสงฆ์พระธาตุภูหินกอง ต.เหล่าใหญ่ อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์


นางบี (นามสมมุติ) เปิดเผยว่า ตัวเอง และสามี เข้าวัดทำบุญที่สำนักสงฆ์บ้านโพนสวาง ต.กุดสิมคุ้มใหม่ อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ มาโดยตลอด กระทั่ง เจ้าอาวาสรูปเก่าถูกยิงมรณภาพ


ต่อมา พระชัยชนะ ก็ธุดงค์มาที่สำนักสงฆ์ สามีจึงนิมนต์พระรูปนี้ให้อยู่จำวัด เพราะดูท่าทางเป็นพระนักปฎิบัติ ชาวบ้านก็พากันเลื่อมใสศรัทธา มีตำรวจ และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่หลายคน เคารพนับถือ และเธอเองก็เคารพศรัทธา


แต่...ต่อมา เหมือนพระรูปนี้ทำคุณไสย์ใส่ หลอกไปมีอะไรด้วยครั้งแรก แล้วก็ถ่ายคลิปไว้แบล็กเมล์ จากนั้น ก็บังคับให้ไปหา และมีอะไรกันตลอด และขู่ว่า หากไม่มาสนองความต้องการ ก็จะประจาน เธอจึงไม่กล้าขัดขืน และเมื่อใดที่ไม่ได้ดั่งใจ ไม่ตามใจ ก็จะถูกทุบตี ถูกเอาปืนจ่อหัว เธอจะหนีก็กลัวหนีไม่พ้น เพราะเป็นพระที่มีลูกศิษย์เคารพศรัทธาจำนวนมาก เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย


ล่าสุด เธอเพิ่งจะถูกยิงปืนเฉียดแขน และทำร้ายร่างกาย จนต้องหนีไปอยู่กับลูกสาวที่กรุงเทพฯ และตัดสินใจเข้าแจ้งความกับตำรวจ


ซึ่งก่อนหน้านี้ เธอยังพบยาบ้าของพระรูปนี้บนรถ จึงตัดสินใจเอาไปเผาไฟทิ้ง เธอบอกว่า ที่ผ่านมา เหมือนตกนรกทั้งเป็น ตั้งใจจะไปสร้างบุญที่วัด แต่กลับต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ ทำให้ครอบครัวอยู่ไม่เป็นสุข จึงตัดสินใจว่า จะยอมตาย เพื่อออกมาแฉพระรูปนี้ และเชื่อว่า ยังมีผู้หญิงอีกหลายคน ที่โดนเหมือนกับเธอ


นางบี (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย ยังได้นำคลิปหลักฐานที่พระชัยชนะ วิดีโอคอลมาหาเธอ หลังจากที่เธอหนีออกมา ซึ่งพระรูปนี้ ใช้น้ำเสียงเกรี้ยวกราดด้วยความโมโห พยายามบอกให้เธอกลับไปหา แต่ผู้เสียหายกลัวโดนทำร้าย ไม่กล้ากลับไป และกลัวพระรูปนี้จะฆ่าครอบครอบของเธอ


ในคลิป เธอบอกกับพระรูปนี้ว่า “เคยสัญญาว่าจะไม่ทำร้าย แต่ก็ยังทำร้าย” ซึ่งพระรูปนี้ตะเบ็งเสียง “มึงไม่มีเหตุผลพอนี่ โกหกกูนี่”


ทั้งนี้ ผู้เสียหายพยายามบอกพระรูปนี้ว่า สามีเห็นหลักฐานทุกอย่างในโทรศัพท์มือถือแล้ว


ด้าน นายทิน อายุ 53 ปี สามีของผู้เสียหาย บอกว่า ตัวเองยอมรับว่า เป็นคนนิมนต์พระรูปนี้มาเป็นเจ้าอาวาส เพราะเห็นว่า สำนักสงฆ์ขาดพระ เนื่องจากเจ้าอาวาสรูปเก่าถูกยิงมรณภาพ


และเห็นว่า โปรไฟล์พระรูปนี้ดี เป็นอดีตทหารเรือ อ้างเป็นลูกศิษย์หลวงตามหาบัว จึงได้ขอให้มาอยู่พัฒนาสำนักสงฆ์แห่งนี้ แต่ไม่คิดว่าจะมาทำอย่างนี้กับภรรยาของตน เอาผ้าเหลืองบังหน้า และยังเคยขู่จะยิงตนด้วย หลังจากรู้ตนเรื่องการเสพเมถุนกับเมียตน


นอกจากนี้ พระรูปนี้ยังชอบยิงปืนในวัดบ่อยครั้ง โดยเฉพาะวันพระ อ้างว่ายิงเพื่อบูชาหลวงปู่ที่ปกปักรักษาภูหินกอง และสิ่งที่เขารับไม่ได้เลยคือ พระรูปนี้มาขอเป็นผัวน้อย ให้อยู่กันแบบสามคนผัวเมีย


นอกจากพบว่า พระรูปนี้ เอาขนเพชรใส่โหล เอาไปแอบไว้หน้าคอนโซลรถ ไม่รู้เล่นของหรือไม่


ด้านลูกสาวของผู้เสียหาย อายุ 28 ปี บอกว่า ไม่คิดว่า ครอบครัวต้องมาเจอเรื่องเลวร้ายแบบนี้ เพราะมารศาสนาเพียงคนเดียว ยอมรับว่า ก่อนหน้านี้ พระรูปนี้ก็เคยหลอกล่อเธอ โดยการเปิดแอปธนาคาร และเอาเงินในบัญชีมาโชว์จำนวน 7 ล้านบาท แต่เธอไม่ได้สนใจ และยังบอกว่า ถ้าเธอจะเข้าวัดนุ่งสั้นก็เข้ามาได้ เธอก็เอะใจ เพราะมันเป็นการแต่งกายที่ไม่สุภาพ แต่กลับมาพูดแบบนี้


เธอบอกว่า กรณีนี้ อยากให้เป็นบทเรียนกับอีกหลายครอบครัว โดยเฉพาะลูก ๆ อยากให้ดูแลพ่อแม่ อย่าไว้ใจว่าไปปฎิบัติธรรมไปวัดแล้วปลอดภัย และอยากให้ตำรวจดำเนินคดีกับมารศาสนา ที่หากินกับผ้าเหลืองแบบนี้ ให้ถึงที่สุด


ทั้งนี้ จากการตรวจสอบ พบว่า พระรูปนี้ ยังมีพฤติกรรมถอดผ้าเหลืองเปลี่ยนใส่ชุดธรรมดา พาผู้หญิงเข้าโรงแรมอีกด้วย


อีกทั้ง มีการส่งภาพลับ คลิปลับ ของนางบี ผู้เสียหาย ให้กับครอบครัวผู้เสียหายเพื่อข่มขู่ ให้ผู้เสียหายกลับไปหา

--------------

วานนี้ (31 มี.ค. 67) 'กัน จอมพลัง' ได้พาผู้เสียหาย และครอบครัว ไปติดตามความคืบหน้าทางคดี ที่ สภ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์


โดยช่วงที่ไปถึงโรงพัก ก็ได้รับแจ้งว่า ตำรวจได้ออกหมายจับ และไปติดตามตัวพระชัยชนะ ได้พอดี หลังหลบหนีไปอยู่สำนักสงฆ์แห่งหนึ่ง ในพื้นที่ จ.อุดรธานี พร้อมยึด

  • อาวุธปืนขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก
  • เครื่องกระสุนปืน 9 มม. 43 นัด
  • กระสุนปืน แบลงค์กัน 8 นัด
  • ยาบ้าจำนวน 51 เม็ด
  • โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง
  • SD Card จำนวน 2 อัน


จากนั้น ได้ควบคุมตัวพระชัยชนะ ไปลาสิกขาที่วัดป่าบ้านตาด ส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.กุฉินารายณ์ ทำการสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป แล้วแจ้งข้อหา ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดหรือไม่กระทำการใดโดยใช้อาวุธฯ ไปก่อน


ส่วนข้อหาอื่น ๆ จะต้องรอสอบปากคำ และรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งเรื่องของการบุกรุกลักทรัพย์รถยนต์ของผู้เสียหาย และข้อหาอื่น ๆ  

-------------

จากนั้น เจ้าหน้าที่เดินทางไปตรวจสอบที่สำนักสงฆ์ ซึ่งมีพระลูกวัดอยู่เพียง 1 รูป ซึ่งศาลาของวัด ก็มีภาพของพระรูปดังกล่าว ที่ถ่ายกับบุคคลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น อดีตผู้ว่า ศิลปินพื้นบ้านชื่อดัง ติดไว้บริเวณผนังเป็นจำนวนมาก


จากนั้น ฝ่ายปกครอง และสำนักพุทธฯ ในพื้นที่ ก็ได้ตรวจค้นภายในสำนักสงฆ์อีกครั้ง พบ

  • แมกกาซีนปืน 9 มม.
  • กระสุนที่ใช้แล้ว ขนาด 9 มม.
  • ปลอกกระสุนปืนของแบงค์กัน
  • ปลอกกระสุนปืนสงคราม เอ็ม 16
  • พบร่องรอยกระสุนหลายแห่ง ที่พระรูปนี้มักจะซ้อมยิง ตั้งแต่บริเวณป้ายบอกทางโค้งของทางหลวง ก็มีร่องรอยกระสุนถูกยิงเสียหาย (สามีของผู้เสียหายบอกว่า พระรูปนี้เป็นคนยิง เพราะตัวเองอยู่ด้วย)


นอกจากนี้ ภายในวัดยังมีร่องรอยการซ้อมยิงใส่แกลลอน และเป้าที่ทำขึ้นมาเอง


จากการสอบถาม พระลูกวัด บอกว่า ไม่เคยรู้เห็นเรื่องการกระทำของเจ้าอาวาส เพราะตัวเองก็มีแต่ประพฤติปฏิบัติตัว ตามหลักธรรมคำสอน และพระธรรมวินัย


ยอมรับว่า เจ้าอาวาสรูปนี้เป็นคนชักชวนให้มาบวชได้ 2 พรรษาแล้ว แต่เรื่องส่วนตัวไม่ได้เข้าไปยุ่ง เพราะถ้าเจ้าอาวาสเข้ากุฎิด้านบน ก็ห้ามคนอื่นเข้าไปใกล้ เป็นเขตต้องห้าม


ส่วนเรื่องยิงปืน ก็ยอมรับว่ายิงเป็นพุทธะบูชาหลวงปู่เป็นประจำ


ภายหลัง พระชัยชนะ ถูกจับ พบว่า มีคนมาลอกสติ๊กเกอร์ที่ติดหลังรถตู้ออก ซึ่งมีชื่อตำรวจระดับนายพล เป็นผู้ถวาย


พ.ต.อ.เมธาพงษ์ บุญศรี ผู้กำกับการ สภ.กุฉินารายณ์ เปิดเผยว่า แม้พระรูปนี้จะรู้จักกับเจ้าใหญ่นายโต และอดีต ผบ.ตร. ก็ไม่ได้สนใจ


เบื้องต้น ในชั้นจับกุม คัดค้านการประกันตัวแน่นอน แต่หากได้รับการประกันตัวจริงก็คงจะต้องจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูแลครอบครัวผู้เสียหายอย่างเต็มที่


และหากมีผู้หลักผู้ใหญ่มาวิ่งเต้นช่วยขอประกันตัว ก็จะคัดค้านการประกันตัวเช่นกัน ต้องว่ากันตามหลักกระบวนการทางกฎหมาย ยิ่งถ้ามีผู้เสียหายมาแจ้งความเพิ่มเติมอีก ยิ่งจะเพิ่มน้ำหนักคดีขึ้นอีก

--------------


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/hsfR-eIlxyU



คุณอาจสนใจ

Related News