นักร้องหนุ่มร้องสายไหมต้องรอด ภรรยาถูกพระข่มขืนจนท้อง 7 เดือน ซ้ำยังตามคุกคามถึงบ้าน

นายวรุต อายุ 36 ปี นักดนตรี เป็นสามีของภรรยาที่ถูกอดีตพระวัดป่าแห่งหนึ่ง ในตำบลดงมะไฟ อำเภอทรายมูล จังหวัดยโสธร ข่มขืนกระทำชำเราในขณะเป็นพระ จนภรรยาตั้งท้อง และยังมาข่มขู่คุกคามคนที่บ้าน เพื่อต้องการเอาลูกในท้องของภรรยาไป จึงมาร้องนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอให้ช่วยประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดคดีที่ภรรยาถูกข่มขืน และต้องการเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองพยาน



นายวรุต ระบุว่า ตอนแรกตนเองไม่ทราบเรื่องอะไรเลย เพราะภรรยาตนเองไม่ค่อยอยู่บ้าน แต่เป็นสภาบุญ ทำให้ตระเวนทำบุญตลอด ไม่ทราบว่าภรรยาตั้งท้อง จนกระทั่งคู่กรณี ซึ่งเป็นอดีตพระขับรถกู้ภัยบุกมาที่บ้าน เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เปิดไฟวับวาบสร้างความเดือดร้อนให้คนในชุมชน และประกาศเรียกชื่อภรรยาตนเอง เมื่อตนเองไปเปิดประตูบ้าน อีกฝ่ายก็เรียกให้ไปคุยหน้าซอย แต่ตนเองไม่ยอมคุย จนกระทั่งอีกฝ่ายกลับบ้านไป ภรรยาจึงสารภาพว่าตั้งท้องกับคู่กรณี 7 เดือนแล้ว ภรรยาบอกว่าโดนข่มขืนครั้งแรก ที่วัดป่าแห่งหนึ่งในจังหวัดยโสธร หลังไปทำบุญที่วัด หลังจากนั้นก็โดนข่มขู่ให้ภรรยามีเพศสัมพันธ์ด้วย โดยอ้างว่ามีคลิปวิดีโอที่ถ่ายไว้แบล็คเมล์ และบอกว่ามีปืน ทำให้ภรรยาต้องยอม และภรรยาก็ไม่กล้าบอกตนเอง



ทั้งนี้ตนเอง ครอบครัว และคนรอบข้าง มักจะโดนคู่กรณีข่มขู่คุกคาม ด้วยการบอกว่ามีพรรคพวก และพูดทำนองว่าอาจจะเกิดอะไรไม่ดีขึ้นกับครอบครัว พ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายเคยพยายามไกล่เกลี่ยแล้ว โดยฝ่ายคู่กรณีต้องการลูกที่อยู่ในท้องภรรยาของตนเอง ภรรยาตนเองไม่ยอมทิ้งลูกแน่นอน และตนเองคุยกับภรรยาแล้ว ภรรยาไม่ต้องการไปอยู่กับอีกฝ่าย และยืนยันจะอยู่กับตนเอง เคยแจ้งความกับตำรวจให้ดำเนินคดีคู่กรณีแล้วในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราและ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ แต่คดียังไม่มีความคืบหน้า



ทั้งนี้ผู้เสียหายบอกอีกว่า ตอนนี้ไม่รู้อนาคตจะเป็นอย่างไร มีแต่ทำงาน ๆ หาเงินเลี้ยงภรรยา และแม่ยาย ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ก่อนที่จะร้องไห้ออกมา และบอกอีกว่า ถ้ามีปืน ผมไปฆ่ามันแล้ว แต่ผมไม่อยากนอนในคุก มันไม่ใช่เรื่องที่ผมสร้าง และตอนนี้ตนเองถูกคุกคามตลอด



ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ระบุว่า สภ.เมืองอุบลราชธานี ซึ่งเป็นท้องที่บ้านของผู้เสียหาย เพื่อพาผู้เสียหายเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองพยานตามกฎหมาย เน้นให้ผู้เสียหายปลอดภัยก่อน ส่วนคดีก็จะดำเนินการประสาน สภ.ไทรมูล เร่งรัดให้สืบสวนหาข้อเท็จจริงกรณีข่มขืนกระทำชำเรา เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด