สังคม

ไม่ตรงปก! พระใช้รูปสมัยฆราวาสหาคู่ในแอป หนุ่มเจอตัวจริงไม่เล่นด้วย โดนฉุดขึ้นรถ ก่อนรถชน

โดย petchpawee_k

28 มี.ค. 2567

413 views

ไม่ตรงปก พระครูปลัดวัย 32 ปี ใช้รูปโปรไฟล์ขณะยังเป็นฆราวาสเล่นแอพพลิเคชั่นหาคู่นัดพบคู่ขาหนุ่มที่ขอนแก่น อีกฝ่ายปฏิเสธโดนลากขึ้นรถ ก่อนตัดสินใจหักพวงมาลัยจนพุ่งชนฟุตบาทกลางถนนบาดเจ็บ  เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือพบอุปกรณ์การเสพยาเสพติดเพียบ  เจ้าคณะจังหวัดทราบเรื่องสั่งการตรวจสอบค้นกุฎิเจออุปกรณ์การเสพยาไอซ์ ลงมติให้สึกทันทีหลังรักษาตัวเสร็จ


กรณีโลกโซเชียลแชร์ภาพรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ทะเบียนขอนแก่น ขับมาประสบอุบัติเหตุชนเกาะกลางถนน ถนนศรีจันทร์ หน้าโรงพยาบาลขอนแก่นราม ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น สภาพรถล้อหน้าข้างซ้ายถูกกระแทกจนขาด คาดว่าชนกับขอบฟุตบาท และมีผู้บาดเจ็บ 1 รายเป็นพระสงฆ์ ทราบชื่อตามบัตรประชาชนคือ พระครูปลัดนรินทร์ อายุ 32 ปี โดยมีข้อความระบุว่า

“จากเหตุเมื่อวานกำลังตรวจสอบทั้งหมดเบื้องต้นค้นกุฎิเช้านี้พบยาไอซ์พร้อมอุปกรณ์ 11.17 น. 26 มี.ค.2567 มีอุบัติเหตุรถยนต์ชนเกาะกลาง จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณถนนศรีจันทร์ หน้าโรงพยาบาล ขอนแก่นราม มีผู้บาดเจ็บ ส่วนเกี่ยวข้องสนับสนุนจุดเกิดเหตุในเวลานี้ (คาดการณ์ว่าทรัพย์สินทางราชการน่าจะเสียหาย) นัดกันผ่านแอปหาคู่เกย์ น้องมาจากนครพนม พอมาถึงไม่ตรงปก เลยจะไม่ โยโย่ เยเย้ กัน พระเลยขืนใจ จับขึ้นรถ น้องเลยตัดสินใจ หักพวงมาลัย


เหตุเกิดแถว รพ.ขอนแก่นราม คนขับรถคือพระ!! น้องเกย์น้อยมาแต่นครพนม เล่นแอปหาคู่ นัดเจอที่โรงแรม แต่พระเอาโปรไฟล์ตอนยังไม่บวชคุย พอถึงโรงแรมแล้วไม่ตรงปก น้องเกย์น้อยเลยปฏิเสธไม่เอาแต่พระไม่ยอมจะเอาให้ได้ เลยลากน้องเกย์ น้อยขึ้นรถมา น้องคงกลัวมาก เลยตัดสินใจหักพวงมาลัยใส่ที่กั้นถนน รถเลยเสียหลักชนที่กั้น ยางแตก โชคดีที่มีพลเมืองดี เห็นเหตุการณ์ ได้เข้าไปช่วยและแจ้งตำรวจเป็นที่เรียบร้อย พระคือฉุดน้องมาจากโรงแรม น่ากลัวมาก ระวังกันแน่เด้อ ไม่ทราบพระวัดไหน มีภาพแค่นี้ขอบคุณพลเมืองดี”


เมื่อวานนี้ ( 27 มี.ค.67 ) เวลา 10.00 น.คณะสงฆ์อำเภอมัญจาคีรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน กำลัง อส.ฝ่ายปกครอง อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบภายในกุฏิของพระครูปลัดนรินทร์ ผู้บาดเจ็บและเป็นคนขับรถ ภายในวัดแห่งหนึ่ง


ซึ่งจากการตรวจค้นกุฏิพบอุปกรณ์การเสพยาไอซ์ พร้อมยาไอซ์จำนวนหนึ่ง และถุงซิปล็อกขนาดเล็กจำนวนหลายถุงภายในลิ้นชักในกุฏิพระนรินทร์ โดยมีเจ้าอาวาส คณะกรรมการวัด ลูกศิษย์วัด และชาวบ้านในพื้นที่ร่วมเป็นสักขีพยานในการตรวจค้นกุฏิวันนี้และพบอุปกรณ์การเสพยาเสพติดดังกล่าว


ต่อมาเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 27 มีนาคม 2567 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดเพื่อขอพบกับ พระครูวิสุทธิธีรคุณ เจ้าอาวาสวัดศรีจันทร์และรองเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น ถึงกรณีดังกล่าว ภายหลังจากทางคณะสงฆ์ทราบเรื่อง รองเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า กรณีของพระนรินทร์ที่เกิดขึ้นนั้น เบื้องต้นทางคณะสงฆ์ทราบจากทางสื่อโซเชียลมีเดีย ว่าพระนรินทร์ขับรถคันดังกล่าว ซึ่งเป็นพระในสังกัดวัดแห่งหนึ่ง ใน ต.กุดเค้า อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น และเกิดอุบัติเหตุอยู่ในเมืองขอนแก่น โดยในรถพบว่ามีสิ่งผิดกฎหมายเกี่ยวข้องกับยาเสพติดอยู่ในรถด้วย


ทางคณะสงฆ์จึงได้มีการตรวจสอบกรณีดังกล่าวขึ้น พร้อมทั้งได้สั่งการไปยังเจ้าคณะอำเภอมัญจาคีรี เจ้าคณะตำบล ตำรวจพระ และประสานฝ่ายปกครองในพื้นที่ ขอเข้าตรวจค้นภายในกุฎิพระนรินทร์ ซึ่งก็พบอุปกรณ์การเสพยาเสพติด แต่ไม่พบยาเสพติด ภายหลังการตรวจสอบทางคณะสงฆ์ได้มีการประชุม และมีมติให้พระนรินทร์ต้องทำการลาสิกขาภายหลังจากเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล และแพทย์สามารถให้กลับได้


โดยภายหลังจากการลาสิกขาก็จะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายของทางโลก โดยทางคณะสงฆ์ได้แจ้งให้กับทางพระนรินทร์ได้ทราบในเบื้องต้นดังกล่าวแล้ว โดยพระนรินทร์ก็ยอมรับและจะทำการลาสิกขาให้หลังจากที่พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเสร็จ

ในกรณีของพฤติกรรมที่ พระนรินทร์ มีการเข้ากลุ่มเพื่อนัดพบตามที่ปรากฏในสื่อโซเชียลนั้น เบื้องต้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบซึ่งจะต้องรอให้ทางพระนรินทร์ ทำการรักษาตัวที่โรงพยาบาลให้เสร็จสิ้นก่อน ก็จะจะได้สอบถามรายละเอียดทั้งหมดอีกครั้ง แต่ในเบื้องต้นนั้นทราบว่าภาพโปรไฟล์ที่พระนรินทร์ใช้เข้ากลุ่มในแอปพลิเคชั่นนัดเจอกัน เป็นภาพขณะที่เป็นฆราวาส และพระอีกรูปที่นัดพบ ทราบจากโซเชียลเช่นกันว่ามาจากจังหวัดนครพนม ซึ่งก็สอดคล้องกับข้อมูลที่อยู่ในโซเชียลมีเดียกรณีที่ไม่ตรงปก


รองเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น กล่าวอีกว่า กรณีดังกล่าวนั้นแม้เจ้าตัวจะปฏิเสธ ทางเจ้าหน้าที่บ้านเมืองก็มีการพิสูจน์หาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์อยู่แล้ว ก็จะไม่สามารถปฏิเสธได้ และกรณีที่พระสงฆ์ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ก็จะต้องทำการสึกเท่านั้น และจังหวัดขอนแก่นเอง ทางคณะสงฆ์ได้ประกาศข้อห้ามชัดเจนโดยห้ามพระสงฆ์ขับรถอย่างเด็ดขาด ซึ่งมีการประกาศไว้ตั้งแต่ปี 2557 และหลังจากที่ทำการสึกไปแล้วพระนรินทร์ก็จะไม่สามารถกลับมาบวชใหม่ได้เนื่องจากในช่วงที่เป็นพระมีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและหากตรวจสอบพบว่ามีความผิดในเรื่องของการเสพเมถุนร่วมด้วย ก็จะเป็นการผิดวินัยส่งร้ายแรง ทางคณะสงฆ์ก็จะมีการสลักหน้าใบสุทธิด้วยว่าให้ศึกด้วยสาเหตุใด และปัจจุบันการตรวจสอบประวัติของพระสงฆ์ก็สามารถตรวจสอบได้ง่ายขึ้นว่าใครทำผิดคดีอาญาอะไรบ้าง

คุณอาจสนใจ

Related News