หนุ่มสุดทน! ฝากถึง 'เศรษฐา' ยอมรับความจริงแก้ฝุ่นพิษไม่ได้ - ‘เสี่ยตัน’ แจกจริงหมู่บ้านละ 1 แสนลดเผาป่า

หนุ่มสุดทนฝุ่นพิษเชียงใหม่ โพสต์ถึงนายกรัฐมนตรี แนะต้องยอมรับความจริงว่ายังแก้ไขปัญหาไม่ได้ หยุดหลอกคนทั้งโลกว่าอากาศดีเพราะมัวห่วงแต่การท่องเที่ยว ลั่น นโยบายแก้ไข PM 2.5 ก็แค่คำ "หลอกลวง" ไม่มีใครทำเพื่อประชาชนจริง ๆ เชื่อ  “ไม่มีวันทำได้” “วอนรัฐขอให้เห็นชีวิตคนพื้นที่มาก่อนที่จะห่วงเศรษฐกิจ” 

วานนี้ (19 มี.ค.) ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Tanuwat Weraphongkamon ได้โพสต์ภาพตัวเองสวมใส่หน้ากากอุปกรณ์ป้องกันมลพิษอากาศและป้ายที่เขียนข้อความแจกฟรีหน้ากาก N95 พร้อมเขียนข้อความในโพสต์แสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะถึงนายกรัฐมนตรีในกรณีของสถานการณ์ปัญหาฝุ่นควันของจังหวัดเชียงใหม่โดย ระบุว่า

“นักท่องเที่ยวมาเชียงใหม่ คนท้องถิ่นจมฝุ่นพิษตาย ถ้าจะประคับประคองต้องดูแลทั้ง 2 ฝ่ายครับ ผมขอเสนอแนะท่านนายกรัฐมนตรีแบบนี้ครับ 1.แจกหน้ากาก N95และให้ความรู้กับประชาชนทุกคน ถ้าทำไม่ได้ขอแจกให้ได้ 80% ของจำนวนประชากร อ้างอิงจากทะเบียนราษฎรได้เลยครับ จำนวนหน้ากากที่แจกต้องคนละไม่น้อยกว่า 90 ชิ้นเพื่อให้เพียงพอใช้ทุกวัน ตลอด 3 เดือน (ด่วนที่สุด) 2.ท่านโปรโมตการท่องเที่ยวมาเลยครับเต็มที่ขอเยอะ ๆ 3. อย่าลืม!!!แก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุด้วย ผมคนเชียงใหม่รอได้ครับและผมเข้าใจว่ามันต้องใช้เวลา

ขออย่างเดียวครับอย่าไปหลอกชาวโลกว่าอากาศดีมาเที่ยวเชียงใหม่กันเยอะๆ อากาศไม่ดีคือไม่ดีครับแต่ไม่พูดก็ไม่ผิดครับ สมัยนี้โลกมันขับเคลื่อนด้วย Internet ผมรู้ว่าท่านเข้าใจที่ผมพูดรับอาสาเป็นที่ปรึกษาให้ท่านได้ครับไม่คิดเงินสักบาท ให้เลขาฯ ท่าน Inbox ติดต่อผมมาได้เลยหวังว่าข้อความนี้ท่านคงจะได้เห็นสักวันหนึ่งด้วยความเคารพ#ประชาชนคนเชียงใหม่ #safechiangmai #ถึงนายกรัฐมนตรี”

ก่อนหน้านี้ยังมีการโพสต์ถึงปัญหาฝุ่นจังหวัดเชียงใหม่ว่า จำให้ขึ้นใจไว้นะประชาชน นโยบายแก้ไข PM 2.5 มันก็แค่คำ ”หลอกลวง” ไม่มีใครทำเพื่อประชาชนจริง ๆ กันสักคนและวันนี้ผมก็ยังคงเชื่อว่า “ไม่มีวันทำได้” RIP เชียงใหม่

ทีมข่าวได้คุยกับนายธนันวัฒน์ วีระพงศ์กมล ชาวจังหวัดเชียงใหม่ เผยว่า เจตนาของตนต้องการสื่อสารไปยังนายกรัฐมนตรี เข้าใจว่านายกฯ ต้องการโปรโมทให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวเพิ่มขึ้น แต่ในปัจจุบันมลพิษทางอากาศ PM 2.5 ที่จังหวัดเชียงใหม่หนักมาก ตนอยากให้นายdฯ เข้าใจว่าความเป็นจริงคืออะไร เรื่องโปรโมทเศรษฐกิจนายกฯ ทำได้ดี แต่ในมุมการดูแลประชาชนต้องดีกว่านี้ เราควรจัดการปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นก่อนคือการดูแลก่อนก่อน เพราะเรื่องฝุ่นควันกระทบต่อสุขภาพประชาชนค่อนข้างหนัก

ทั้งนี้ ตนเข้าใจว่าการแก้ปัญหาที่ยั่งยืนต้องใช้เวลา แต่ตอนนี้ต้องเยียวยาประชาชนก่อน ส่วนที่ตนบอกว่านโยบายแก้ไข PM 2.5 ก็แค่คำ "หลอกลวง" ตนคิดว่าเราไม่รอ เรารู้อยู่แล้วว่าช่วงไหนจะมีฝุ่นควันซึ่งสามารถจัดการได้ก่อนอยู่แล้วทำไมไม่มีการเตียมตัวแก้ปัญหา ทำให้ประชาชนต้องจมอยู่กับมลพิษทางอากาศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ส่วนประเด็นประกาศภาวะฉุกเฉิน ก็พอเข้าใจรัฐบาลว่าอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ แต่ในความเป็นจริงทุกวันนี้ค่าฝุ่น PM 2.5 ที่สูงเกินมาตรฐานหลาย 10 เท่าตัว ถ้าเราไม่ประกาศภาวะฉุกเฉินประชาชนก็จะไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เพราะคิดว่ายังปกติเป็นค่าที่ไม่มีปัญหา ภายในเมืองและท้องถนนแทบไม่มีคนใส่หน้ากาก ตนมองว่าประชาชนบางส่วนยังไม่เข้าใจอันตรายจากฝุ่นควันพิษ

----------------------------------------------

คุณตัน ภาสกรทวี ประกาศให้รางวัลหมู่บ้านละ1 แสน 69 หมู่บ้านใน 2 อำเภอถ้าทำได้ ลดการเผาลง 80% ใน 40 วัน แจกเงินหมู่บ้านละ 1 แสนบาท

เย็นวานนี้ (19 มี.ค. 67) ที่ ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง มูลนิธิ ตันปัน นำโดย คุณตัน ภาสกรนที นักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย พร้อมด้วย มูลนิธิป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นควันจังหวัดเชียงใหม่ นำโดย นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และ นายทศพล เผื่อนอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงนายอำเภอแม่ริมและนายอำเภอหางดง ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อร่วมมือกันแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ในพื้นที่ 69 หมู่บ้าน ของอำเภอแม่ริม และ อำเภอหางดง

สำหรับข้อตกลงร่วมกันในครั้งนี้ ถือเป็นบททดสอบและเป็นความท้าทายอย่างยิ่งในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ของ 47 หมู่บ้านในอำเภอแม่ริม และ 22 หมู่บ้านในอำเภอหางดง รวม 69 หมู่บ้าน โดย คุณตัน ภาสกรนที ในนามของมูลนิธิ ตันปัน จะสนับสนุนงบประมาณเป็นเงินรางวัลผ่านมูลนิธิป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นควัน จังหวัดเชียงใหม่ หมู่บ้านละ 100,000 บาท ให้กับหมู่บ้านที่สามารถดำเนินการลดจุดความร้อนได้ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับจำนวนจุดความร้อนในช่วงระยะเวลาเดียวกันในปี 2566 โดยจะเริ่มเก็บสถิติใน 40 วัน นับจากนี้เป็นต้นไป คือ ช่วงระหว่างวันที่ 20 มีนาคม – 30 เมษายน 2567

โอกาสนี้ คุณตัน ภาสกรนที ได้นำเครื่องดื่มในเครือบริษัท ซึ่งประกอบด้วย น้ำสมุนไพรจับเลี้ยง “เย็น เย็น” และ เครื่องดื่มชูกำลัง “ตัน พาวเวอร์” จำนวน 2,000 กล่อง รวมถึง เครื่องเป่าลม จำนวน 4 เครื่อง และรองเท้ากันไฟ จำนวน 40 คู่ ให้จังหวัดเชียงใหม่นำไปมอบให้กับเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า โดยจังหวัดเชียงใหม่จะบริหารจัดการแจกจ่ายให้ครอบคลุมทั้ง 25 อำเภอ ตามความเหมาะสมต่อไป

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/zTpzmBjwyPM