สังคม

รร.อื่นเตรียมตัวรับ! ผอ.คอลเสียวเบี้ยวจ่ายเงินสาว งุบงิบงบหลวง กินเหล้าในห้องเรียน ถูกตั้งสอบก่อนสั่งย้าย

โดย petchpawee_k

20 มี.ค. 2567

1.1K views

ผอ.คอลสยิว โดนแฉเพิ่ม เบิกงบโรงเรียนไปใช้จ่ายส่วนตัว กว่า 2 แสนบาท ครูในโรงเรียนสุดทน ตั้งแต่ ผอ. คนนี้ย้ายมาใช้ห้องทำงานเป็นเหมือนบ้านพัก บางวันนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวลงมาอาบน้ำตอนเช้า ไม่แคร์สายตาครูนักเรียน ตอนนี้ครูทุกคนรู้สึกไม่ปลอดภัย ผ่านมา 1 ปี เหมือนทนมา 10 ปี ล่าสุดถูกตั้งกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง ก่อนสั่งย้ายไปโรงเรียนอื่น


จากกรณีที่ ส.ต.อ.สมัย สายอ่อนตา  กรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในอำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น  เปิดเผยว่า คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 11 คน ได้ร่วมกันทำหนังสือร้องเรียน ยื่นถึงผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่นเขต 4 ให้ตรวจสอบพฤติกรรมของผู้อำนวยการโรงเรียน ที่เบิกเงินงบประมาณของโรงเรียนมาใช้จ่ายส่วนตัว และมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลายอย่าง โดยเฉพาะการวีดีโอคอลสยิวกับสาวแล้วไม่จ่ายเงิน จนฝ่ายหญิงมาเปิดเผยประจานในเพจเฟซบุ๊กของโรงเรียน  


โดยโรงเรียนแห่งนี้ เปิดสอนชั้นอนุบาลถึง ป.6 มีนักเรียน 400 กว่าคน  มีครู 10 กว่าคน   แต่ผู้อำนวยการโรงเรียน มักจะนำเงินของโรงเรียนไปใช้หลายรูปแบบ เช่น จะให้นักเรียนหยุดเรียนบ่อยๆ เพื่อนำเงินค่าอาหารกลางวันของนักเรียนในวันที่หยุดเรียน ไปใช้ส่วนตัว , มีการเบิกเงินในสมุดบันทึกบัญชีเงินนอกงบประมาณไปใช้ส่วนตัว ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 66 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ปี 2567 จำนวน 70 ครั้ง รวมเป็นเงิน 133,391 บาท ยอดเบิกต่อครั้งสูงสุด 30,000 บาท น้อยสุด 100 บาท

นอกจากนี้ ยังเบิกเงินสหกรณ์โรงเรียนไปใช้ส่วนตัว ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-มิถุนายนปี 2566 จำนวน 16 ครั้ง รวมเป็นเงิน 42,700 บาท ถ้าผู้จัดการสหกรณ์ไม่ให้เบิกก็จะปลดออกตั้งคนใหม่  , ใช้เงินโรงเรียนไปต่อเติมห้องพยาบาล  ซื้อเตียงนอน ซื้อแอร์มาติดตั้งเป็นห้องพักส่วนตัวของ ผอ.และผู้ติดตาม ซึ่งผู้ติดตาม ก็คือลูกสาวของ ผอ.ที่เป็นครูเหมือนกัน แต่ไม่ได้สอนโรงเรียนนี้  แต่สามีของลูกสาวเป็นครูอัตราจ้างสอนที่เดียวกันกับ ผอ.


ที่หนักสุด คือ เบิกเงินค่าปัจจัยพื้นฐานยากจน 79,000 บาท เพื่อซื้อของให้นักเรียนยากจน แต่ไม่ได้ซื้อของให้นักเรียนจริง กลับให้นักเรียนลงลายมือชื่อไว้ว่าได้รับเงินแล้ว  


ซึ่งครูที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับบัญชีของโรงเรียนและการเบิกจ่ายเงินสหกรณ์โรงเรียน บอกว่า เมื่อมารับผิดชอบเรื่องบัญชีโรงเรียนตั้งแต่ปลายปี 2566 ก็พบความผิดปกติเรื่องการเบิกจ่ายหลายครั้ง จึงไม่ยอมเบิกจ่ายเงินตามคำสั่งของ ผอ.เพราะไม่โปร่งใส เลยถูก ผอ.สั่งย้ายให้ไปทำหน้าที่อื่น ทั้งที่เพิ่งมาทำหน้าที่เกี่ยวกับบัญชีโรงเรียนได้แค่ 2 เดือน  เช่นเดียวกับครูที่ดูแลเงินสหกรณ์โรงเรียน ที่พบความผิดปกติและไม่ยอมทำตามคำสั่ง ผอ. จนถูกข่มขู่  ทำให้ครูหลายคนกลัวจะมีผลกระทบกับหน้าที่การงานและขั้นเงินเดือน จึงต้องมาร้องขอความเป็นธรรมกับผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ


ส.ต.อ.สมัย กล่าวอีกว่า อีกเรื่องที่คณะกรรมการสถานศึกษาฯ รู้สึกกังวล คือ มีผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ใช้รูปโปรไฟล์สาวสวย   ส่งคลิป ผอ.กำลังวิดีโอคอลช่วยตัวเอง  มาให้ครูที่โรงเรียน โดยบอกว่า “ผอ.โรงเรียนดูดยา เซ็กซ์โฟนไม่จ่ายเงิน” ซึ่งทางกรรมการสถานศึกษาฯ  ครูผู้หญิงและผู้ปกครองที่รู้เรื่อง รู้สึกไม่สบายใจ เมื่อเห็นพฤติกรรม ผอ.แบบนี้ กลัวว่าจะไปใช้อำนาจทำกับครูผู้หญิงหรือนักเรียน   ซึ่งในความเห็นส่วนตัว คิดว่า กรณีนี้ ผอ.อาจโดนพวกแก๊งมิจฉาชีพ หลอกให้ช่วยตัวเองแล้วตบทรัพย์ พอไม่ได้ก็จะส่งคลิปคนรู้จักเพื่อประจาน

ขณะที่เมื่อวานนี้ (19 มี.ค.67)  นายเจษฎา ตันติบัญชาชัย นายกเทศมนตรีตำบลเขื่อนอุบลรัตน์  ไปให้กำลังใจครูในโรงเรียนดังกล่าว  พร้อมกับพาไปดูห้องทำงานของ ผอ. โดยครูของโรงเรียนบอกว่า ผอ.จะใช้ห้องนี้เป็นห้องพัก อาศัยอยู่กินในโรงเรียนมาตั้งแต่รับตำแหน่ง  โดยอ้างว่า มีโรคประจำตัว และเพิ่งย้ายมารับตำแหน่ง ทำให้ไม่สะดวกเดินทางไป-กลับบ้านในต่างอำเภอ  ในห้องมีการติดแอร์เพิ่ม มีข้าวของเครื่องใช้ ที่คาดว่าใช้งบโรงเรียนซื้อ  และผอ.ยังตั้งวงดื่มเหล้าทุกวัน ครูบางส่วนจะกลายเป็นบริวาร คอยซื้อเหล้ามานั่งดื่มกินกันในห้องนี้ ส่วนห้องน้ำด้านล่างชั้น 1 ซึ่งเป็นของนักเรียนชั้นอนุบาล  ผอ.ก็จะมาใช้ห้องน้ำนี้ประจำ  โดยบางครั้งจะเดินลงมาจากห้องทำงานแบบนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว บางครั้งนุ่งกางเกงขาสั้นตัวเดียว เข้าห้องน้ำตอนเช้าอาบน้ำแต่งตัวเตรียมทำงาน


ส่วนห้องเรียนที่ชั้น 1 ที่ ผอ.ดัดแปลงเป็นห้องพักของลูกสาวมาอาศัยอยู่กับสามี หลังจากมีข่าวเผยแพร่ออกไป ก็มีการย้ายข้าวของออกไปหมดแล้ว และปิดล็อกกุญแจไว้ จึงเข้าไปดูด้านในไม่ได้


นายเจษฎา กล่าวว่า  จากข้อร้องเรียนทั้งหมด ตนตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นเรื่องจริงทั้งหมด และเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานานแล้ว  นอกจากนี้ยังเช็กประวัติไปที่โรงเรียนเก่า  2 แห่ง ที่ ผอ.คนนี้เคยปฏิบัติหน้าที่ ก็พบว่า มีพฤติกรรมแบบเดียวกัน  ซึ่งตนมองว่า การตรวจสอบของเขตพื้นที่การศึกษา ล่าช้ามาก ทั้งที่มีการร้องเรียนตั้งนานแล้ว และควรจะต้องสั่งย้าย ผอ.คนนี้ออกนอกพื้นที่ให้เร็วที่สุด เพราะกระทบกับคนที่ทำงานร่วมกับ ผอ.คนนี้


ขณะที่ครูคนหนึ่ง ซึ่งได้รับคลิปช่วยตัวเองของ ผอ.จากผู้หญิงคนหนึ่ง บอกว่า หญิงคนดังกล่าว ส่งข้อความทักเข้ามาในอินบ็อกซ์ของเพจโรงเรียน อ้างว่าเป็นเยาวชน พร้อมกับตั้งคำถามว่า จะยอมให้โรงเรียนมี ผอ.แบบนี้หรือ แล้วก็ส่งคลิปอนาจารของ ผอ.มาให้หลายคลิป เมื่อตนไปสอบถามกับ ผอ.ว่าจะให้แจ้งความหรือไม่ แต่ ผอ.บอกว่า ไม่ต้องทำอะไร  แต่หลังจากนั้นก็มีการส่งคลิปในลักษณะเดียวกันมาให้เรื่อยๆ โดยผู้ส่งบอกว่า เป็นคลิปที่ ผอ.ไปเข้ากลุ่มเซ็กส์โฟน  สำเร็จความใคร่แต่ไม่ยอมจ่ายเงิน ไปใช้บริการในกลุ่มนี้  2 ครั้ง คลิปที่ส่งมาให้มี 5 คลิป


ครูยังบอกด้วยว่า ตอนนี้ครูในโรงเรียนรู้สึกไม่ปลอดภัย  จากที่ทนมา 1 ปี เหมือน 10 ปี ไม่มีกะจิตกะใจจะทำงาน  และเมื่อคณะกรรมการสถานศึกษา ฯ ไปร้องเรียนที่เขตฯ   ผอ.ก็มาสั่งครูทุกคน ว่า หากเจ้าหน้าที่จากเขตฯ มาตรวจสอบก็ให้พูดตามที่ ผอ.บอก  ใครไม่ทำตามจะเซ็นสั่งย้าย  ทำให้เจ้าหน้าที่ที่มาตรวจสอบข้อเท็จจริง ได้รับข้อมูลเท็จไป  ตอนนี้ครูหลายคนทำงานด้วยความหวาดกลัว ขนาดจะมาโรงเรียนยังต้องโทรนัดกัน ให้มาพร้อมกันหลายๆ คน เพราะกลัวไม่ปลอดภัย


ต่อมาเวลา 15.00 น. (19 มี.ค.67)  ที่ห้องประชุมโรงเรียนอนุบาลอุบลรัตน์  จังหวัดขอนแก่น  นายชาญกฤต  น้ำใจดี  ผู้อำนวยการสำนักงานพื้นที่การประถมศึกษาขอนแก่นเขต 4  ลงพื้นที่มาพบกับคณะครู  ผู้ปกครอง ชาวบ้าน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อรับฟังเรื่องร้องเรียนโดยตรง  และเปิดเผยว่า   ทางสำนักงานเขตฯ ได้รับเรื่องร้องเรียนเมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา ก็มีการตั้งคระกรรมการขึ้นมาสอบข้อเท็จจริง และวานนี้ (19 มี.ค.67) มีหนังสือคำสั่งให้ ผอ.ที่ถูกกล่าวหาไปช่วยราชการที่สำนักงานพื้นที่การประถมศึกษาขอนแก่น เขต 4 แล้ว  ส่วนการสอบข้อเท็จจริง จะทำให้เสร็จสิ้นภายใน 15 วัน โดยจะไม่ให้โรงเรียนได้รับผลกระทบจากเรื่องร้องเรียน


นอกจากนี้ หลังจากสรุปผลการสอบข้อเท็จจริงแล้ว ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร ก็จะไม่ให้ ผอ.มาปฎิบัติงานที่เดิมอีก  แต่จะให้ไปเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งอื่นแทน ซึ่งจะเป็นโรงเรียนในสังกัดสำนักงานพื้นที่การประถมศึกษาขอนแก่นเขต 4 เท่านั้น  เนื่องจา ตำแหน่งผู้อำนวยการเป็นตำแหน่งผู้บริหาร  จึงจะต้องมีการย้ายสลับกับตำแหน่งเดียวกัน  เมื่อได้ข้อสรุป ก็จะส่งเรื่องไปยังสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา หรือ ก.ค.ศ. ให้มีคำสั่งย้ายในกรณีพิเศษ เพื่อประโยชน์ของทางราชการต่อไป  


ทั้งนี้ นายชาญกฤต  ระบุว่า การโยกย้าย ผอ.โรงเรียนนั้น ตนสามารถใช้อำนาจตามมาตรา 53 สั่งโยกย้ายได้ทันที แต่ก็ต้องคำนึงถึงทั้งสองฝ่าย ที่ต้องได้รับความยุติธรรมในการโยกย้าย  และจะไม่สามารถให้ใครมาชี้นำบุคคลที่จะมาเป็น ผอ.คนใหม่ได้


และล่าสุด นายธีรัตน์ บางเพ็ชร  รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดขอนแก่น ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่โรงเรียนอนุบาลอุบลรัตน์  หลังได้รับการร้องเรียนว่า ผอ.เบิกจ่ายเงินโรงเรียนเพื่อใช้ประโยชน์ส่วนตัว  โดยพบพิรุธในการจัดซื้อจัดจ้างเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อต่อเติมห้องเรียนเป็นห้องพักส่วนตัว และการเบิกเงินค่าปัจจัยพื้นฐานยากจน 79,000 บาทเพื่อซื้อของให้นักเรียนยากจน  แต่ไม่ได้ซื้อของให้นักเรียนจริง กลับให้นักเรียนลงลายมือชื่อว่าได้รับเงินแล้ว 


โดยในวันนี้ (20 มี.ค.67) ป.ป.ข.จังหวัดขอนแก่น จะเรียกครูที่เกี่ยวข้องกับการเบิกจ่ายงบประมาณของโรงเรียนทั้งหมด มาสอบปากคำเพิ่มเติม



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/zQOrbNlfI98

คุณอาจสนใจ

Related News