ตำรวจแจ้งข้อหาสาวรัสเซียแล้ว ถีบคนท้อง 8 เดือน โมโหถูกเตือนให้ถอดรองเท้า อ้างเป็นประจำเดือน คุมอารมณ์ไม่อยู่

รอง.ผบ.ตร.สั่งกำชับ ผบช.ภ.8 ทำคดีแหม่มรัสเซียหัวร้อนใช้เท้าถีบหญิงสาวชาวไทย เจ้าของร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ธรรมชาติกาแฟและสินค้าที่ระลึกบนเกาะพะงัน ที่กำลังท้อง 8 เดือน ให้ตำรวจทำคดีตรวจสอบข้อเท็จจริงในทุกมิติ เนื่องจากที่ผ่านมา มีชาวต่างชาติแสดงพฤติกรรมรุนแรงหลายคดี



เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2567 ผู้สื่อข่าวมีรายงานว่า พล.ต.อ.กิตตริ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร ได้สั่งการมอบหมายให้ พล.ต.ท.สรุพงษ์ถนอมจิตรผบช.ภ.8 พล.ต.ต.ศรัญญูชํานาญราชผบก.ภ.จว.สรุาษฎรธ์านีรรท.รอง ผบช.ภ.8 ให้รับคดี และทำคดีจากกรณี น.ส.สาธิการ หรือพลอย อายุ 34 ปี เจ้าของร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ธรรมชาติกาแฟ และจำหน่ายสินค้าที่ระลึก ในบ้านท้องศาลา ตำบลเกาะพะงัน อำเภอเกาะพะงัน และผู้เสียหาย ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.เกียรติขจร อําลอย สว.สอบสวน สภ.เกาะพะงัน เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นางสาว Alena อายุ 41 ปี สัญชาติ รัสเชีย ในฐานความผิด “ทําร้ายร่างกายผู้อื่นไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและ จิตใจ” เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่นางสาวสาธิการ หรือพลอย ผู้เสียหาย ได้ว่ากล่าวเตือน แหม่มสาวรัสเซีย เรื่องห้ามสวมรองเท้าเข้าร้านขายของผลิตภัณฑ์ธรรมชาติกาแฟ ซึ่งในวันนี้ทางพนักงานสอบสวนได้รับคําร้องทุกข์ไว้ตามคดีอาญาที่ 90 /2567 ลงวันที่ 19 มีนาคม 2567



ขณะเดียวกัน ทางด้าน พ.ต.อ.ปัญญา นิรัตติมานนท์ ผกก.สภ.เกาะพะงัน พร้อมด้วย พ.ต.ต.เกียรติขจร อำลอย สว.สอบสวน รวมถึงเจ้าหน้าที่ ตรวจค้นเข้าเมือง ได้ติดตาม นางเอเลน่า อายุ 41 ปี สัญชาติรัสเซีย ผู้ก่อเหตุ พร้อมด้วย น.ส.พลอย ผู้เสียหายเดินทางเข้ามาให้ข้อมมูลเพิ่มเติม ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นดังกล่าว โดยหลังทั้งผู้ก่อเหตุและผู้เสียหายได้เจอหน้ากัน แหม่มสาวรัสเซีย แสดงความขอโทษผู้เสียหายที่ก่อเหตุลงไป



ต่อมาในช่วงเย็น ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปยังร้านที่เกิดเหตุพร้อมกับผู้เสียหาย ในบ้านท้องศาลา ตำบลเกาะพะงัน และได้ภาพวงจรปิดที่ร้านตรงกันข้ามกับร้านของผู้เสียหาย โดยพบว่าก่อนเหตุเกิดเหตุแหม่มสาว ชาวรัสเซีย ได้เดินเข้าไปในร้าน และอยู่ในร้านอยู่พักหนึ่ง จากนั้นแหม่มดังกล่าวได้รีบเดินออกจากร้าน เดินหายไป จากนั้น น.ส.สาธิการพร้อมแม่ ก็ได้เดินออกมาถ่ายภาพของแหม่มเอาไว้  




โดย น.ส.สาธิการ หรือ พลอย ผู้เสียหายก็ได้เปิดใจถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับผู้สื่อข่าวว่า ร้านดังกล่าว เป็นร้านผลิตภัณฑ์ธรรมชาติกาแฟ ของตนเอง ขณะเกิดเหตุนั้น ตนกำลังอยู่ในร้าน ซึ่งมีลูกค้าอยู่ในร้านหลายคน ส่วนผู้ก่อเหตุเปิดประตูเดินทางเข้ามาในร้าน โดยไม่ได้ถอดรองเท้าและเดินถือแก้วน้ำเข้ามาด้วย ตนเองก็ได้พูดกับผู้ก่อเหตุว่ากรุณาถอดรองเท้าด้วย เนื่องจากเป็นนโยบายของทางร้าน แต่ผู้ก่อเหตุไม่พอใจด่าทอต่อว่าตนด้วยคำที่หยาบคาย ก่อนที่ใช้เท้าทีบเข้ามาที่ง่ามขาของตน และต้นขา รวม 2 ครั้ง ตนตกใจมาก ได้แต่เอามือกุมท้องตัวเองไว้ เพราะตนเองตั้งท้องอยู่ 8 เดือน และเมื่อแม่ของตนเห็นก็ได้ผลักผู้ก่อเหตุให้ออกไปจากร้าน ก่อนปิดประตูร้านหวั่นผู้ก่อเหตุจะมทำร้ายอีก 




น.ส.พลอย ยังเปิดเผยอีกว่า แม้ว่าทางด้านผู้ก่อเหตุจะกล่าวขอโทษในสิ่งได้ทำกับตนลงไป ในส่วนที่เขายอมรับผิดมาขอโทษ ตนพร้อมรับคำขอโทษ และในส่วนของการดำเนิดคดีตามกฏหมาย ตนก็จะให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย ตนเองไม่เข้าใจว่าแหม่มรายนี้ ใช้เท้าถีบคนที่ตั้งท้อง 8 เดือนได้ลงคอแบบนี้ ซึ่งแหม่มดังกล่าวยังพูดอีกว่ามีประจำเดือน คุมอารมณ์ไม่อยู่ จึงได้ก่อเหตุ แต่ตนไม่ยอมถอนแจ้งความเด็ดขาด และเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ในเรื่องทำร้ายตน ผู้เสียหายกล่าว




ขณะที่ทางด้าน พ.ต.ต.เกียรติขจร อำลอย สว.สอบสวน เจ้าของคดี ได้เชิญ น.ส.สาธิการ ผู้เสียหายมาให้ข้อมูลกับทางพนักงานสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมแจ้งขอกล่าวหากับ แหม่ม เอเลน่า ผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ ในข้อหา “ทําร้ายร่างกายผู้อื่นไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและ จิตใจ” ดำเนินคดีตามกฆหมายต่อไป