พ่อคลั่งยาทำร้ายลูกชายกลางสะพาน ชาวบ้านแจ้งตร.ช่วยเด็กวัย 11 ปีไว้ได้

คลิปภาพจากชาวบ้านที่แอบถ่ายพ่อคลั่งยาบ้าใช้ท่อนสายยางติดกับท่อพีวีซียาวประมาณ 1.2 เมตรกระหน่ำทำร้ายลูกชายตัวเอง จนลูกชายทนความเจ็บปวดไม่ไหว ร้องไห้ด้วยเสียงโอดโอยลั่นถนนจนชาวบ้านต้องรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาจับกุม

จากการสอบสวนพ่อเด็กบอกว่าใช้ลูกชายไปซื้อยาบ้ามาให้ แต่ระหว่างที่ลูกชายเดินกลับมาก็ทำยาบ้า 5 เม็ดหล่นจากมือ และรถยนต์เหยียบไป 1 เม็ด เจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บยาบ้าบนถนนไปได้ 3 เม็ด ตนเองเสพไป 1 เม็ด จึงเกิดอาการคลั่งขึ้นมา

สอบถามชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เล่าให้ฟังว่า พ่อลูกคู่นี้มีอาชีพเก็บของเก่าขาย และอาชีพค้ายาบ้าให้กับวัยรุ่นในละแวกชุมชนคลองทางหลวง และใกล้เคียง จะได้ส่วนแบ่งจากคนที่ให้เอายาบ้ามาปล่อย 20 เปอร์เซนต์ เพื่อนำเงินให้ลูกชายไปโรงเรียน

วันที่ 11 มี.ค.67 เวลา 09.45 น. พ่อคลั่งยาใช้มีดจ่อคอลูกชาย ชกต่อยกลางสะพาน ชาวบ้านแจ้งตร.ตามช่วยหนูน้อยวัย 11 ปี ได้ศูนย์สั่งการ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีชายรูปร่างใหญ่ใช้มีดจ่อคอเด็ก และทำร้ายร่างกายทุบตี ชกต่อยหน้า บนสะพานซอย 3 ด้านถนนทิพากร เขตเทศบาลนครปฐม อ.เมืองนครปฐม จึงแจ้งสายตรวจสภ.เมืองนครปฐมทราบแล้ว พตท.เดชศักดา แต้มรุ่งเรือง รองผกก.ป. สภ.เมืองนครปฐม ให้สายตรวจเขต 1 เข้าตรวจสอบ พบพลเมืองดีว่าบุคคลดังกล่าวได้ขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟสีน้ำเงิน หลบหนีไปพร้อมกับเด็กคนดังกล่าว ไปทางหลังที่ว่าการอำเภอเมืองนครปฐม จึงได้กระจายกำลังกันออกตามหา



ต่อมาเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิสุขศาลานะเคราะห์นครปฐม ได้พบบุคคลดังกล่าวที่หน้าโรงกลึง หลังวัดไผ่ล้อม ชุมชนคชกฤช ขณะนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรถจักรยานยนต์มาสนับสนุน และเกลี้ยกล่อมให้ปล่อยตัวเด็ก และวางมีดลง จึงควบคุมตัวนายโยธิน หรือบอม อายุ 45 ปี ชาวหนองขาหยั่ง ตำบสนามจันทร์ อ.เมืองนครปฐม พ่อของเด็กชายไมตี้ อายุ 11 ปี นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนวัดพระปฐมเจดีย์ ที่อยู่ในอาการโกรธ โวยวาย อ้างว่าลูกชอบทำของหายเลยตี



ขณะที่ เด็กชายไมตี้ ร้องไห้สะอึกสะอื้นกับความเจ็บปวด และมีบาดแผลที่แก้มซ้าย และหลังใต้ ท้ายทอยมีรอบแผลคล้ายถูกของแข็งฟาดเป็นแนวยาวกว่า 30 ซม. มีเลือดไหลซึม มูลนิธิได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้น และประสานยายสาครให้ทราบว่าหลานชายถูกพ่อแท้ๆ ทำร้ายร่างกาย โดยยายบอกว่าให้ตำรวจจับมันไปติดคุกเลย เดี๋ยวไปรับหลานมาอยู่ด้วยเอง และขณะที่มูลนิธิกำลังพาด.ช.ไมตี้ ไปโรงพยาบาล น้องได้หยิบถุงยาบ้าออกมา บอกว่านี่คือของพ่อที่ยัดส่งกระเป๋าหนูมา และถูกพ่อทำร้ายร่างกายแบบนี้บ่อยมาก เวลาพ่อหายาไม่เจอ หรือเขาเสพจนยาหมดแล้ว ก็จะหาว่าหนูทำยาเขาหายก็จะทุบตี ปกติอยู่กับพ่อลำพัง 2 คน 

สอบถามนายโยธิน อ้างว่า ที่ทำลงไปเพราะโมโห ลูกมันชอบทำของหาย แต่ขณะนั้นยังไม่บอกว่าอะไร แต่เมื่อน้องไมตี้เผยว่าพ่อไปซื้อยาบ้าที่ชุมชนใกล้ๆ นั้นมา แล้วหล่นระหว่างทางตรงสะพานซอย 3 จึงโกรธทุบตีเหมือนเคย แต่คราวนี้มันกลางชุมชนคนเห็นเยอะ จึงแจ้งตำรวจมาช่วย

ต่อมาทางผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เกิดเหตุสอบถามป้าเดือน ขายอาหารตามสั่ง เล่าให้ฟังว่า ช่วงเวลานั้นได้ยินเสียงเด็กพูดว่าอะไรหล่นไม่รู้ หลังจากนั้นตนก็หันไปมอง เห็นพ่อเด็ก โวยวายใส่ลูกว่าแตกหมดแล้ว จากนั้นพ่อกับลูกได้เข็นรถไปจอดบนสะพาน จากนั้นเด็กก็วิ่งมาตรงที่ทำของตก ตนจึงถามว่าทำอะไรหล่น เด็กคนดังกล่าวไม่พูดแล้วก็วนหาของสิ่งนั้น เด็กหาของไม่เจอสักพักพ่อก็โวยวาย ใส่ลูกอีกครั้ง และได้มีการทุบตีลูก จนเด็กร้องโอดโอย และหยิบท่อนสายยางมาฟาดเด็ก พ่อเด็กหาของไม่เจอเลยโดนตีซ้ำเข้าไปอีก และพ่อเด็กได้พูดกับเด็กว่า ข้าบอกเอ้งแล้วใช่ไหมให้ถือดี ๆ

จากนั้นพ่อและเด็กก็เดินมาคู่กันบนสะพาน และสตาร์ทเครื่องรถจักรยานยนต์แต่สตาร์ทไม่ติด ทางพ่อเกิดความโมโหจึงใช้สายยางตี และใช้มือทุบและต่อยลูกอีกหลายครั้ง พอสตาร์ทรถติดเด็กก็ไปพร้อมกับพ่อ จนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นครปฐม ขี่รถจยย.ไล่ตามตัวพ่อและเด็กได้ทันทาง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวเด็กส่งโรงพยาบาล และนำตัวพ่อทำการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด ระหว่างการสอบสวนพ่อพูดจาวกวนไปมา และสารภาพว่าตนต้องเก็บของเก่าขายเพื่อที่จะดูแลลูกคนเดียวเนื่องจากภรรยาติดคุกมีคดี และทางพ่อได้สารภาพว่าได้เอายามาจากชุมชนคลองทางหลวงหลังตลาดซอย 2 นำมาขาย และรับเดินยา และเสพยาด้วย

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวไว้ เพื่อส่งดำเนินคดี ส่วนเด็กทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสาน พม.จังหวัดนครปฐม มาทำการพูดคุยกับเด็ก และญาติที่รับไปดูแลต่อไป